ไฟเบอร์ออฟติก (Fiber Optic)หรือ
สายใยแก้วนำแสง เป็นสายนำสัญญาณอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงไปสู่ทุกบ้านทุก แต่หลายคนก็ยังไม่รู้ว่าแท้จริงแล้วระบบ
ไฟเบอร์ออฟติก (Fiber Optic) นั้นคืออะไร ทำไมถึงได้เป็นที่นิยมในการใช้
งาน ดังนั้นในบทความนี้เราจะพาผู้อ่านทุกคนไปรู้จักกับ
ไฟเบอร์ออฟติก (Fiber Optic)กัน
ไฟเบอร์ออฟติก (Fiber Optic) หรือสายใยแก้วนำแสง คืออะไร สายสัญญาณที่ใช้กับเครือข่าย
คอมพิวเตอร์มักจะมีปัญหาของสายที่มีตัวนำเป็นโละ โดยปัญหาที่ว่าก็คือสัญญาณที่วิ่งอยู่ภายในสายนั้น อาจจะถูกรบกวนได้โดยเคลื่อน
แม่เหล็กไฟฟ้าจากแหล่งต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น มอเตอร์ไฟฟ้า เครื่องใช้ฟ้า เครื่องต่างๆ ที่ผลิตสนาม
แม่เหล็ก หรือแม้กระทั่งกับปรากฎการณ์ธรรมชาติทั่วไป เช่น ฟ้าร้อง หรือว่าฟ้าผ่า เป็นต้น และการเดินสายเป็นระยะทางมที่ค่อนข้างไกลมากๆ มักจะมีการสูญเสียของสัญญาณเกิดขึ้น ทำให้จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์สำหรับทวนสัญญาณเป็นจำนวนมาก เพราะฉะนั้นจึงได้มีการคิดค้นและพัฒนาสายสัญญาณแบบใหม่ โดยสายสัญญาณแบบใหม่นี้ จะใช้ตัวนำซึ่งไม่ได้เป็นโลหะขึ้นมา เพื่อลบจปัญหาที่เกิดขึ้นจากสายน้ำสัญญาณที่ใช้วัตถุเป็นโลหะ ซึ่งสายสัญญาณที่ว่านี้ก็คือ
สายไฟเบอร์ออฟติก (Fiber Optic)หรือ
สายใยแก้วนำแสง นั่นเอง โดย
ไฟเบอร์ออฟติก (Fiber Optic) จะใช้สัญญาณแสงในการส่งสัญญาณแทนที่จะใช้การส่งสัญญาณด้วยไฟฟ้า ทำให้ในการส่งสัญญาณแต่ละครั้งจะไม่ถูกรบกวนจากสนามแม่เหล็กไฟฟ้าต่างๆ นอกจากนั้น
ไฟเบอร์ออฟติก (Fiber Optic)ยังมีความคงทนต่อสภาพแวดล้อมทั่วไปอีกด้วย นอกจากนั้นสาย
ไฟเบอร์ออฟติก (Fiber Optic) สามารถส่งสัญญาณไปได้ไกล โดยมีการสูญเสียสัญญาณที่น้อย ทั้งยังให้อัตราข้อมูล (Band Width) ที่สูงมากกว่าสายแบบโลหะหลายเท่าตัว
โครงสร้างและหลักการทำงานของFiber Optic Cable Fiber Optic Cableสายใยแก้วนำแสง เป็นตัวกลางของสัญญาณแสงชนิดหนึ่ง ที่ทำมาจากแก้วซึ่งมีความบริสุทธิ์สูงมาก ใช้กับสัญญาณที่อยู่ในรูปของแสงเท่านั้นตัวแก้วนำแสงอาจทำมาจากแก้วหรือพลาสติกโครงสร้างของ
Fiber Optic Cable มีด้วยกัน 3 ส่วนหลักๆ คือ
Core:เป็นส่วนที่อยู่ชั้นในสุดทำหน้าที่ให้แสงเดินทางผ่าน
Cladding : เป็นชั้นแรกที่ห่อหุ้ม coreส่วนนี้จะสร้างท่อนำแสง และแนวทางการเคลื่อนที่ของแสง โดยการสะท้อนภายในทั้งหมดที่พื้นผิวของ cladding
Coating :เป็นชั้นที่อยู่รอบนอกสุด ห่อหุ้ม ชั้น Cladding คอยปกป้องโครงสร้างไม่ให้เกิดความเสียหายทางกายภาพหรือ จากสิ่งแวดล้อม แต่เราสามารถปลอกออกมาได้เมื่อต้องการ เชื่อมต่อเส้นใยแก้ว
ชนิดของสายFiber Optic ชนิดของ
สาย Fiber Optic นั้น แบ่งตามความสามารถในการนำแสงของสายซึ่งมีอยู่ด้วยกัน 2 แบบ คือ
Fiber Optic Multi Mode :เป็นการนำแสงที่มีลักษณะการกระจายแสงออกด้านข้างได้จึงต้องมีดัชนีหักเหของแสงกับอุปกรณ์ฉาบผิวที่สัมผัสกับ Cladding ให้มีการสะท้อนกลับหมด การที่แสงเดินทางกระจัดกระจายทำให้แสงเกิดการหักล้างกันจึงมีการสูญเสียของแสงมาก ทำให้การนำแสงรูปแบบนี้ไม่สามารถใช้งานในระยะไกลมากๆ ได้
Fiber Optic Single Mode :เป็นการใช้ตัวนำแสงที่บีบลำแสงให้พุ่งตรงไปตามท่อแก้ว โดยมีการกระจายแสงออกทางด้านข้างน้อยที่สุดทำให้การนำแสงในรูปแบบนี้มีกำลังสูญเสียทางแสงน้อย เหมาะสำหรับการใช้งานกับระยะทางไกลๆ
Fiber Optic นั้นดียังไง ?- ส่งผ่านข้อมูลที่มี Bandwidth สูงได้ แม้ระยะทางไกล : เพราะสานไฟเบอร์ออฟติก หรือ เส้นใยแก้วนำแสงนั้นใช้ "
ใยแก้วนำแสง " ในการนำสัญญาณโดยจะแตกต่างจากสายนำสัญญาณชนิดอื่นที่ใช้ "สายแลน UTP" ในการนำสัญญาณ จึงทำให้สายไฟเบอร์ออฟติกนั้นสามารถส่งผ่านข้อมูลได้ไม่ต่ำกว่า 2.5ล้านบิท(2.5กิกะบิต) ในระยะทางไม่เกิน 20 กิโลเมตร
- สามารถส่งสัญญาณได้ไกล :
สายไฟเบอร์ออฟติก นั้นสามารถเดินได้ระยะทางสูงสุดถึง 20 กิโลเมตร โดยสามารถเดินได้ไกลกว่าสายแลนถึง 200 เท่า
- มีค่าสูญเสียของสัญญาณที่ต่ำ (ค่า loss):
สายไฟเบอร์ออฟติก นั้นมีคุณสมบัติที่สามารถให้แสงวิ่งผ่านได้จึงทำให้"ค่าลอส" ของสัญญาณที่ต่ำมากแม้จะเดินสายสัญญาณในระยะทางไกล โดยจะแตกต่างกับทองแดงซึ่งจะมีค่าลอสที่สูงขึ้นเรื่อยๆถ้าหากเดินสายสัญญาณเกิน 100เมตร
- มีความปลอดภัยจากการโจรกรรมข้อมูล :
สายไฟเบอร์ออฟติก นั้นมีลักษณะการทำงานคือ ส่งผ่านข้อมูลภายใน
เครื่อข่ายโดยใช้แสงเป็นตัวนำ จึงยากที่จะดักจับข้อมูลระหว่างทาง (การ TAB)
- มีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน :
สายไฟเบอร์ออฟติก นั้นทำมากจากวัสดุที่เป็นฉนวนไฟฟ้า จึงไม่มีการนำกระแสไฟฟ้าและไม่เกิดการลัดวงจร อีกทั้ง
สายไฟเบอร์ออฟติก ยังทำมากจากวัสดุที่ไม่ลามไฟอีกด้วย