มอบทางเลือกให้พนักงานสร้างสมดุลระหว่างวิธีและสถานที่ทำงาน
ธนาคาร UOB เตรียมให้พนักงานส่วนใหญ่ในจำนวนพนักงานทั้งหมดที่มีอยู่ราว 26,000 คนสามารถเลือกทำงานจากระยะไกลได้สองวันต่อสัปดาห์ หลังจากสิ้นสุดมาตรการโควิด-19 เพื่อสร้างความสมดุลที่เหมาะสมระหว่างการปฏิบัติตามวิชาชีพของแต่ละบุคคลและความเป็นอยู่ที่ดี โดยพบว่าการทำงานระยะไกลสูงสุดสัปดาห์ละสองวัน [1] สามารถช่วยให้พนักงานยังคงความรู้สึกผูกพันกับเพื่อนร่วมงานและบริษัท ในขณะเดียวกันก็สามารถทำงานให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด
การประกาศดังกล่าวมีขึ้นหลังจากที่ธนาคารได้ทำการศึกษารูปแบบการทำงาน พื้นที่การทำงาน และเครื่องมือเทคโนโลยีสำหรับพนักงานเป็นระยะเวลาหกเดือน โดยมีการประเมินว่าร้อยละ 65 ของตำแหน่งหน้าที่ในธนาคารซึ่งเป็นส่วนที่ไม่ต้องพบปะลูกค้านั้นเหมาะที่จะทำงานจากระยะไกล ไม่ว่าจะจากที่บ้านหรือที่อื่น ๆ นอกสำนักงาน แผนทางเลือกการทำงานระยะไกลดังกล่าวของ UOB สอดคล้องกับความต้องการในวงกว้างในภูมิภาค เนื่องจากร้อยละ 80 ของประชากรในอาเซียนระบุว่าต้องการรูปแบบการทำงานที่ยืดหยุ่นมากขึ้น [2] จากผู้ว่าจ้าง
มร. ดีน ตอง ประธานฝ่ายทรัพยากรบุคคลของ UOB กล่าวว่า บรรทัดฐานของวิธีการทำงานและสถานที่ทำงานกำลังถูกทบทวนใหม่ ขณะเดียวกันแนวคิดเกี่ยวกับพื้นที่และสถานที่ทำงานก็กำลังเปลี่ยนแปลงไปและจำเป็นต้องได้รับการจัดการ
"เราเชื่อว่าสถานที่ทำงานในอนาคตจะเป็นแบบไฮบริดซึ่งพนักงานสามารถเลือกได้ว่าจะบริหารจัดการการทำงานของตนเองอย่างไรให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด การทำงานจากที่บ้านในช่วงโควิด-19 แม้จะแสดงให้เห็นผลลัพธ์การเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วและกระตือรือร้น แต่เราจำเป็นต้องมองออกไปให้ไกลกว่าปัจจุบัน และออกแบบอนาคตการทำงานที่ยั่งยืนยิ่งขึ้น ตัวอย่างเช่น หลังจากมีการผ่อนคลายมาตรการรักษาระยะห่าง ผู้คนจะอยากรวมตัวกันในที่ทำงานเพื่อทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด การพัฒนาวิธีแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ และการหารือกันต่อหน้า และจะอยากทำงานผ่านระบบออนไลน์สำหรับงานที่เป็นกิจวัตรซึ่งสามารถทำจากสถานที่ใดก็ได้"
"แนวทางแบบไฮบริดนี้จะต้องใช้การปรับตัว และเราจำเป็นต้องให้การสนับสนุนและทรัพยากรที่จำเป็นแก่พนักงานในช่วงเปลี่ยนผ่าน ด้วยแผนทางเลือกการทำงานระยะไกล เราให้ความสำคัญในการสร้างสมดุลที่เหมาะสมระหว่างการให้พนักงานได้มีความยืดหยุ่นในการจัดสรรลำดับความสำคัญในการทำงาน กับการรักษาความสัมพันธ์ การทำงานร่วมกัน ซึ่งเป็นวัฒนธรรมองค์กรของเรา" Mr Tong กล่าว
แผนทางเลือกการทำงานจากระยะไกลของ UOB มุ่งเน้นความเอาใจใส่ การทำงานร่วมกัน และวัฒนธรรม
UOB ได้รับฟังความคิดเห็นของพนักงานในเครือข่ายทั่วโลกเกี่ยวกับความเครียดที่เกิดจากการทำให้บ้านกลายเป็นสำนักงานระหว่างช่วงโควิด-19 โดยพนักงานร้อยละ 85 ระบุว่าการทำงานจากบ้านมีประสิทธิภาพเท่าเดิม ขณะที่อีกร้อยละ15 ระบุว่าประสบปัญหาความท้าทายจากความเครียด [3] ซึ่งรวมถึงความเครียดในเรื่องการรักษาสมดุลระหว่างการใช้เวลากับครอบครัวและการทำงาน, ชั่วโมงการทำงานที่เพิ่มมากขึ้นจากความรู้สึก 'พร้อมทำงานเสมอ' และความลำบากของการรักษาความเป็นทีมเวิร์คและการทำงานร่วมกันผ่านช่องทางออนไลน์
"สุขภาวะทางจิตในระยะยาวของพนักงานของเราเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างยิ่ง เพราะในท้ายที่สุดแล้ว มนุษย์เราล้วนเป็นสัตว์สังคม ด้วยเหตุนี้ เราจึงให้ความสำคัญกับความรู้สึกเป็นชุมชนและการเป็นส่วนหนึ่ง การเอาใจใส่พนักงานในระยะยาวคือหัวใจสำคัญของการบริหารจัดการของเรา" Mr Tong กล่าว
ยกตัวอย่างเช่น ธนาคาร UOB ได้ริเริ่มโครงการ 'สัปดาห์เพื่อสุขภาวะ' (Wellness Week) สำหรับพนักงาน โดยเปิดโอกาสให้พนักงานในทุกแห่งสามารถเข้าร่วมกิจกรรมผ่านทางออนไลน์ที่มุ่งเสริมสร้างความแข็งแรงทางร่างกาย จิตวิทยาเชิงบวก วิถีตามหลักการยศาสตร์ (ergonomics) และโภชนาการได้ นอกจากนี้ ธนาคาร UOB ยังเป็นแนวหน้าในการส่งเสริมการสนับสนุนด้านสุขภาพจิตผ่านการเสวนาให้ความรู้และคอร์สเรียนออนไลน์ด้วย ซึ่งผลปรากฏว่าร้อยละ 91 ของพนักงานรู้สึกขอบคุณที่ธนาคารแสดงความห่วงใยในช่วงวิกฤตการระบาดของโควิด-19[4]
นอกจากแผนทางเลือกการทำงานระยะไกล ธนาคาร UOB ยังจะดำเนินมาตรการ Flexi-2 ซึ่งกำหนดให้พนักงานมีเวลาเพิ่มสองชั่วโมงต่อเดือนในการจัดการกับธุระส่วนตัวระหว่างช่วงเวลาทำงานไว้ต่อไป อีกทั้งพนักงานยังสามารถได้ประโยชน์จากช่วงเวลาเริ่มงานที่ยืดหยุ่นตามแนวทางปฏิบัติท้องถิ่นของแต่ละตลาด อย่างเช่นในสิงคโปร์ พนักงานจะสามารถเลือกเวลาเริ่มงานระหว่าง 7.00-10.00 น. ตามรูปแบบการทำงานของตนเองได้
UOB เร่งแผนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อความคล่องตัวและความสัมพันธ์กับพันธมิตรในภูมิภาค
เพื่อสนับสนุนแผนทางเลือกการทำงานจากระยะไกล ธนาคาร UOB จะเร่งแผนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานซึ่งได้วางมาตรฐานใหม่สำหรับสำนักงานที่จะใช้ในทั่วภูมิภาค การพัฒนาดังกล่าวจะช่วยให้เกิดการทำงานเป็นทีมที่คล่องตัวมากขึ้นและการทำงานร่วมกันในระดับที่สูงขึ้นระหว่างตำแหน่งหน้าที่ต่าง ๆ ในธนาคาร
โมเดลการทำงานที่มีความคล่องตัวของ UOB ซึ่งริเริ่มขึ้นเมื่อสองปีก่อน ถูกสะท้อนออกมาให้เห็นในศูนย์นวัตกรรมแห่ง UOB (UOB Centre for Innovation) ที่ SGX Centre ในสิงคโปร์ ศูนย์นวัตกรรมดังกล่าวได้พัฒนาโซลูชั่นเชิงนวัตกรรมสำหรับลูกค้า อย่างเช่น TMRW ธนาคารดิจิทัลแห่งแรกของอาเซียนสำหรับดิจิทัลเจเนอเรชัน หรือการพัฒนา UOB Mighty แอปธนาคารทางมือถือแบบครบวงจรสำหรับผู้บริโภคที่ได้รับรางวัล นอกจากนี้ สถานที่ทำงานของธนาคารยังอยู่ระหว่างการเปลี่ยนแปลงและปรับปรุงใหม่อย่างต่อเนื่องเพื่อให้เกิดสมรรถภาพสูงสุดในการทำงาน
ในมาเลเซียและไทย โครงการปรับปรุงและย้ายสำนักงานใหญ่กำลังอยู่ระหว่างดำเนินการและคาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2565 โดยสำนักงานแห่งใหม่ในภูมิภาคนี้จะเป็นพื้นที่ในการทำงานแบบเปิดและเอนกประสงค์ที่เอื้อต่อการทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพและการดำเนินกิจกรรมทางสังคมของบริษัท
ในสิงคโปร์ ธนาคาร UOB จะเพิ่มพื้นที่สังคมใหม่ ๆ ในย่านสำคัญเพื่อให้พนักงานพบปะกันและผ่อนคลาย ตัวอย่างเช่น ที่ Boat Quay ธนาคารได้เปลี่ยนสำนักงานให้เป็นสโมสรสำหรับการทำงานร่วมกันและกิจกรรมสันทนาการ ซึ่งจะเปิดให้บริการหลังการคลายมาตรการรักษาระยะห่างในช่วงโควิด-19