สถานการณ์โควิด-19 ส่งผลให้บริษัทอาหารเร่งหาทางสร้างห่วงโซ่อุปทานที่ยืดหยุ่นและโปร่งใสมากขึ้น เพื่อเอาชนะความท้าทายที่เกิดขึ้นในตลาดที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา จึงเป็นเรื่องจำเป็นเร่งด่วนที่จะต้องมีกรอบการดำเนินงานที่เหมาะสม เพื่อก่อให้เกิดความร่วมมืออย่างมีประสิทธิภาพในหมู่ผู้มีส่วนได้เสียทั้งหมดในห่วงโซ่อุปทานอาหาร ซึ่งเทคโนโลยีบล็อกเชน หรือที่เรียกกันว่า “Trust Machine” ก็เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดตอนนี้
ในฐานะบริษัทและแพลตฟอร์มชั้นนำของโลกด้านบล็อกเชนสาธารณะสำหรับองค์กร VeChain จึงได้เปิดตัวโซลูชันความปลอดภัยด้านอาหารบนบล็อกเชน ที่ทำงานบนแพลตฟอร์มข้อมูลครบวงจร Blockchain-as-a-Service (BaaS) ชื่อว่า VeChain ToolChain(TM) โดยโซลูชันดังกล่าวพร้อมเปิดให้บริการในตลาดแล้ว
โซลูชันนี้นำเทคโนโลยีบล็อกเชนมาใช้ในธุรกิจอาหาร โดยกระบวนการทำงานถือว่ามีความรวดเร็วที่สุดเมื่อเทียบกับแพลตฟอร์มอื่น ๆ ในอุตสาหกรรมเดียวกัน โซลูชันความปลอดภัยด้านอาหารที่ขับเคลื่อนด้วย VeChain ToolChain(TM) นี้ ได้เข้ามารวบรวมเทคโนโลยีชั้นนำแห่งอุตสาหกรรมและประสบการณ์ของ VeChain เข้ากับองค์ประกอบทางเทคนิคอื่น ๆ ที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการที่เร่งด่วนที่สุดของอุตสาหกรรมอาหารในยุคใหม่นี้
การนำบล็อกเชนมาใช้ในธุรกิจอาหารภายใต้ “New Normal”
ความกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยด้านอาหารกลายเป็นสิ่งที่ถูกพูดถึงอีกครั้งในช่วงการระบาดของโรคโควิด-19 พฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปอันเนื่องมาจากโควิด-19 ได้ก่อให้เกิดความต้องการผลิตภัณฑ์อาหารที่มีความปลอดภัยและตรวจสอบได้มากขึ้น จากการศึกษาของ IBM พบว่า ผู้บริโภค 71% ยินดีที่จะจ่ายเงินเพิ่มขึ้นถึง 37% ให้แก่บริษัทที่มีความโปร่งใสและสามารถตรวจสอบได้อย่างเต็มที่
เทคโนโลยีบล็อกเชนจึงมีความเหมาะสมอย่างมากในการแก้ปัญหาในปัจจุบัน เนื่องจากสามารถมอบข้อมูลที่น่าเชื่อถือซึ่งไม่สามารถแทรกแซงได้ ข้อมูลเหล่านี้เป็นสิ่งจำเป็นเพื่อสร้างความโปร่งใส ความรับผิดชอบ และที่สำคัญที่สุดคือความเชื่อถือจากทุกฝ่ายในห่วงโซ่อุปทาน ไม่ว่าจะตั้งแต่ผู้ผลิตวัตถุดิบไปจนถึงผู้บริโภคปลายทาง
ตัวอย่างการนำเทคโนโลยีบล็อกเชนมาใช้นั้น มีทั้งการเรียกคืนอาหารที่ต้องการจุดข้อมูลที่เคร่งครัดสำหรับการปฏิบัติตาม หรือความต้องการของบริษัทในการจัดการซัพพลายเออร์หลายแห่งที่ง่ายขึ้น ผ่านการเก็บข้อมูลป้องกันการปลอมแปลง
นอกจากนี้ รายงานฉบับใหม่ของ Cointelegraph Consulting ยังลงลึกเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงที่กำลังเกิดขึ้นในอุตสาหกรรมอาหารโดยรัฐบาลและผู้มีส่วนได้เสียต่าง ๆ และวิธีการที่โซลูชัน “บล็อกเชน + IoT” สามารถลดต้นทุนในอุตสาหกรรมอาหารทั่วโลกได้เป็นอย่างมาก:
- แพลตฟอร์ม IoT และบล็อกเชนสามารถเพิ่มความน่าเชื่อถือ ความโปร่งใส และความร่วมมือกันในห่วงโซ่อุปทานด้านอาหาร ช่วยให้ประหยัดต้นทุนไปได้ถึง 1.55 แสนล้านดอลลาร์ต่อปี
- ความสามารถในการตรวจสอบแหล่งที่มาของอาหารที่ดีขึ้น จะช่วยเพิ่มการค้าขายอาหารระหว่างประเทศมากถึง 100 ล้านดอลลาร์ต่อปี
- โซลูชัน IoT และบล็อกเชนช่วยเพิ่มรายได้มากถึง 4.7 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อปี
การนำอุปกรณ์ IoT มาใช้เพื่อเก็บข้อมูล ทำให้เทคโนโลยีบล็อกเชนสามารถปรับกระบวนการทางธุรกิจให้ราบรื่น และช่วยให้บริษัทมีความโดดเด่นเหนือคู่แข่งในตลาด พร้อมก้าวขึ้นเป็นผู้กำหนดมาตรฐานเดียวกันที่จะเป็นตัวกำหนดรูปแบบของห่วงโซ่อุปทานในอนาคต
VeChain ToolChain(TM) ช่วยให้องค์กรนำเทคโนโลยีบล็อกเชนไปใช้เร็วขึ้น
แม้ธุรกิจหลายแห่งอาจเคยพยายามนำเทคโนโลยีบล็อกเชนมาใช้ร่วมกับธุรกิจปัจจุบัน แต่กลับต้องเผชิญกับอุปสรรคมากมาย ตัวอย่างเช่น ธุรกิจต่าง ๆ มักถูกบังคับให้สร้างการใช้งานบล็อกเชนของตัวเองขึ้นมาจากศูนย์ และต้องดิ้นรนกับความซับซ้อนที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีบล็อกเชน
แพลตฟอร์มและธุรกิจ BaaS ส่วนใหญ่ในตลาดมอบความช่วยเหลือแก่บริษัทที่ให้บริการในระดับสูงด้านเทคโนโลยีเพียงอย่างเดียว (เช่นการวางหน่วยข้อมูล) ซึ่งเป็นอุปสรรคอันยิ่งใหญ่ที่ขัดขวางการนำบล็อกเชนไปใช้ในธุรกิจอาหาร แต่ VeChain ToolChain(TM) ทำให้การใช้งานบล็อกเชนเป็นเรื่องที่ทำได้ทันที ส่งผลให้ใช้งานได้อย่างรวดเร็วเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของธุรกิจที่แท้จริง
VeChain มองตนเองในฐานะผู้ขับเคลื่อนการนำเทคโนโลยีมาใช้ เพื่อสร้างคุณค่าที่จับต้องได้ให้แก่ธุรกิจต่าง ๆ การใช้แม่แบบที่บิวต์มาในตัวและพร้อมใช้งานที่ต่อยอดจากโซลูชันที่ลูกค้าองค์กรนำไปใช้อยู่แล้วก่อนหน้าเป็นจำนวนนับไม่ถ้วน จะทำให้บริษัทอาหารทุกแห่งสามารถตรวจสอบห่วงโซ่อุปทานได้ตั้งแต่ต้นจนจบ ครอบคลุมตั้งแต่ฟาร์มไปจนถึงร้านค้าปลีกสู่มือผู้บริโภค ความสามารถในการติดตามสามารถเริ่มได้ตั้งแต่การเก็บเกี่ยว การแปรรูป การบรรจุ การขนส่ง การจำหน่าย และอื่น ๆ
VeChain ToolChain(TM) และคุณประโยชน์สำหรับธุรกิจ
โซลูชันความปลอดภัยด้านอาหารที่ขับเคลื่อนด้วย VeChain ToolChain(TM) มีจุดเด่นในตลาดจากการมีมาตรฐานสูง ต้นทุนต่ำ และการชำระเงินที่ยืดหยุ่น ที่สำคัญที่สุดคือ VeChain ToolChainTM ยังมอบเครื่องมือที่ปรับแต่งได้และบริการไร้แบรนด์ ซึ่งบริษัทที่ปรึกษาสามารถรับและนำบริการจัดการความปลอดภัยด้านอาหารไปใช้สำหรับลูกค้าของตนเองได้
VeChain ToolChain(TM) มีคุณประโยชน์หลัก ๆ ดังนี้:
คุณประโยชน์ที่ 1: ทำให้องค์กรนำบล็อกเชนไปใช้และทดสอบการทำงานของบล็อกเชนให้สมบูรณ์และได้ผล
โซลูชันความปลอดภัยด้านอาหารบนบล็อกเชนที่ขับเคลื่อนด้วย VeChain ToolChain(TM) สามารถมอบรูปแบบการตรวจสอบที่ผ่านการรับรองอย่างมีประสิทธิภาพแก่บริษัทอาหาร ไม่ว่าจะเป็นการตรวจสอบแหล่งที่มา ตรวจสอบเส้นทางข้ามพรมแดน การติดตามทั้งกระบวนการ และอื่น ๆ
โซลูชันดังกล่าวรองรับหลากหลายกรณีใช้งานและหน่วยย่อยในอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม ไม่ว่าจะเป็นอาหารสด ผลิตภัณฑ์นม แอลกอฮอล์และไวน์ อาหารนำเข้า FMCG สำหรับซูเปอร์มาร์เก็ตและร้านค้าปลีก และอื่น ๆ อีกมากมาย บริษัทสามารถตรวจสอบความถูกต้องของคอนเซปต์ได้อย่างรวดเร็วภายในเวลาอันสั้น และสัมผัสถึงความสามารถเต็มรูปแบบของเทคโนโลยีบล็อกเชนในหน่วยธุรกิจย่อยต่าง ๆ
คุณประโยชน์ที่ 2: รองรับการใช้บล็อกเชนในวงกว้างด้วยวิธีการที่รวดเร็วและคุ้มค่า
VeChain ToolChain(TM) มอบเครื่องมือปรับแต่งได้ที่ใช้งานง่าย ปริษัทอาหารสามารถสร้างกระบวนการธุรกิจเฉพาะตัวที่ง่ายเพียง “ลากแล้วปล่อย” ซึ่งช่วยลดการลงทุนด้านการพัฒนาลงได้อย่างมาก ทั้งยังย่นระยะเวลาโครงการและปรับขนาดได้ง่ายขึ้น
คุณประโยชน์ที่ 3: ยกระดับภาพลักษณ์แบรนด์และสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้บริโภคเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์อาหาร
โซลูชันความปลอดภัยด้านอาหารบนบล็อกเชนที่ขับเคลื่อนด้วย VeChain ToolChain(TM) สามารถยกระดับการสื่อสารและความพึงพอใจของผู้บริโภค ผู้ค้าปลีกสามารถเลือกที่จะเข้าหาลูกค้าด้วยการมอบการเข้าถึงผลิตภัณฑ์และข้อมูลการตลาดที่เกี่ยวข้องบนบล็อกเชน ซึ่งจะช่วยเพิ่มการเข้าถึงที่มาของผลิตภัณฑ์ ผู้ผลิต คุณภาพ และสิ่งอื่น ๆ ที่คล้ายคลึงกัน เพื่อสร้างความภักดีต่อแบรนด์และสานต่อความสัมพันธ์ระหว่างธุรกิจ-ลูกค้าที่แข็งแกร่งกว่าเดิม