- ในทุกภูมิภาคทั่วโลก บรรดาซีอีโอคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจจะเติบโตช้าลง
- บริษัทต่างๆ มีความเชื่อมั่นในการเติบโตของรายได้ต่ำที่สุดนับตั้งแต่ปี 2552
- ความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจ กฎระเบียบข้อบังคับที่เข้มงวดมากเกินไป และความขัดแย้งทางการค้า คือสามอุปสรรคสำคัญ
ในขณะที่โลกก้าวเข้าสู่ทศวรรษใหม่ บรรดาซีอีโอทั่วโลกต่างแสดงมุมมองที่เป็นลบต่อเศรษฐกิจโลกสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์ โดย 53% คาดการณ์ว่าอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจโลกจะลดลงในปี 2563 เพิ่มขึ้นจาก 29% ในปี 2562 และ 5% ในปี 2561 ซึ่งถือเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เริ่มถามคำถามนี้เป็นครั้งแรกในปี 2555 ในทางตรงกันข้าม จำนวนซีอีโอที่คาดว่าอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจโลกจะเพิ่มขึ้นนั้น ลดลงจาก 42% ในปี 2562 เหลือเพียง 22% ในปี 2563 และนี่คือข้อมูลสำคัญจากการสำรวจความคิดเห็นของซีอีโอครั้งที่ 23 โดย PwC ที่ทำการสำรวจซีอีโอเกือบ 1,600 คน จาก 83 ประเทศทั่วโลก และมีการเปิดเผยข้อมูลในวันนี้ ณ การประชุมประจำปี World Economic Forum ที่เมืองดาวอส ประเทศสวิตเซอร์แลนด์
บรรดาซีอีโอมีมุมมองที่เป็นลบต่อการเติบโตของเศรษฐกิจโลกมากเป็นพิเศษในอเมริกาเหนือ ยุโรปตะวันตก และตะวันออกกลาง โดยซีอีโอ 63%, 59% และ 57% จากภูมิภาคดังกล่าวตามลำดับ คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจโลกจะเติบโตช้าลงในปีนี้
เมื่อพิจารณาจากความไม่แน่นอนอันเป็นผลมาจากความตึงเครียดทางการค้า ปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ และการขาดฉันทามติในการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ จึงไม่น่าแปลกใจที่ความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจจะลดลง บ๊อบ มอริตซ์ ประธานของ PwC Network กล่าว ความท้าทายเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่ขนาดของปัญหาและการลุกลามอย่างรวดเร็วเป็นเรื่องใหม่ ดังนั้น ประเด็นสำคัญสำหรับบรรดาผู้นำที่มารวมตัวกันที่ดาวอสก็คือ เราจะร่วมมือกันจัดการกับความท้าทายเหล่านี้อย่างไร
อย่างไรก็ดี แม้บรรดาผู้นำธุรกิจจะมีมุมมองเป็นลบสูงสุดเป็นประวัติการณ์ แต่ก็ยังมีโอกาสมากมายรออยู่ข้างหน้า การใช้กลยุทธ์ที่ว่องไว เน้นตอบสนองความคาดหวังที่เปลี่ยนไปของผู้ถือหุ้น และประสบการณ์ที่หลายบริษัทสั่งสมมานานนับสิบปีท่ามกลางสภาพเศรษฐกิจที่ท้าทาย จะช่วยให้บรรดาผู้นำธุรกิจสามารถรับมือกับภาวะเศรษฐกิจขาลงและเติบโตต่อไปได้
ซีอีโอมีความเชื่อมั่นต่อการเติบโตของรายได้ลดลง
บรรดาซีอีโอมีมุมมองที่ไม่เป็นบวกมากนักต่อแนวโน้มของบริษัทตัวเองในปีนี้ โดยมีซีอีโอเพียง 27% ที่ "มั่นใจมาก" เกี่ยวกับการเติบโตขององค์กรใน 12 เดือนข้างหน้า ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2552 และลดลงจากระดับ 35% ในปี 2562
อย่างไรก็ดี ระดับความเชื่อมั่นของซีอีโอแตกต่างกันไปในแต่ละประเทศ โดยในกลุ่มประเทศเศรษฐกิจใหญ่นั้น จีนและอินเดียมีระดับความเชื่อมั่นสูงสุดที่ 45% และ 40% ตามลำดับ สหรัฐอเมริกา 36%, แคนาดา 27%, สหราชอาณาจักร 26%, เยอรมนี 20%, ฝรั่งเศส 18% และญี่ปุ่นต่ำสุด โดยมีซีอีโอเพียง 11% ที่มั่นใจมากเกี่ยวกับการเติบโตของรายได้ในปี 2563
การที่บรรดาซีอีโอมีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับแนวโน้มการเติบโตของรายได้เปลี่ยนไป ถือเป็นตัวคาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจโลกได้เป็นอย่างดี เพราะจากการวิเคราะห์การคาดการณ์ของซีอีโอนับตั้งแต่ปี 2551 พบว่าความเชื่อมั่นของซีอีโอที่มีต่อการเติบโตของรายได้ใน 12 เดือนข้างหน้า และการเติบโตที่แท้จริงของเศรษฐกิจโลกนั้น มีความสัมพันธ์กันอย่างมาก (ดู exhibit 4 ในหมายเหตุ) หากเป็นไปตามการวิเคราะห์ การเติบโตของเศรษฐกิจโลกอาจชะลอลงแตะระดับ 2.4% ในปี 2563 ซึ่งต่ำกว่าการคาดการณ์ส่วนใหญ่ รวมถึงการคาดการณ์ของ IMF เมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว ซึ่งระบุว่าเศรษฐกิจโลกจะขยายตัว 3.4%
ซีอีโอจีนมองหาตลาดใหม่แทนสหรัฐ
สหรัฐยังคงเป็นตลาดอันดับหนึ่งที่บรรดาซีอีโอต้องการทำธุรกิจใน 12 เดือนข้างหน้า ที่ระดับ 30% ตามมาด้วยจีนที่ 29% อย่างไรก็ดี ความขัดแย้งทางการค้าและความตึงเครียดทางการเมืองส่งผลให้ซีอีโอจีนสนใจตลาดสหรัฐลดลงอย่างมาก โดยในปี 2561 ซีอีโอจีน 59% เลือกสหรัฐเป็นตลาดสำคัญหนึ่งในสามอันดับแรก แต่ในปี 2563 ตัวเลขดังกล่าวร่วงลงเหลือเพียง 11% และพบว่าออสเตรเลียก้าวขึ้นมาเป็นตลาดสำคัญแทน โดยซีอีโอจีน 45% มองว่าออสเตรเลียเป็นตลาดสำคัญหนึ่งในสามอันดับแรก เพิ่มขึ้นจาก 9% ในปี 2561
การรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์
ซีอีโอทั่วโลกแสดงความกังวลอย่างชัดเจนเกี่ยวกับอุปสรรคของกฎระเบียบข้อบังคับที่เข้มงวดมากเกินไป นอกจากนั้นยังคาดการณ์ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงกฎระเบียบข้อบังคับอย่างมากในภาคส่วนเทคโนโลยี โดยซีอีโอทั่วโลกกว่าสองในสามเชื่อว่ารัฐบาลประเทศต่างๆ จะออกกฎหมายใหม่เพื่อควบคุมเนื้อหาในโลกอินเทอร์เน็ตและโซเชียลมีเดีย และเพื่อลดอำนาจของบรรดาบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ ขณะเดียวกัน ซีอีโอส่วนใหญ่ (51%) คาดการณ์ว่ารัฐบาลประเทศต่างๆ จะเพิ่มความเข้มงวดในการบังคับให้ภาคเอกชนจ่ายเงินชดเชยให้แก่บุคคลเมื่อนำข้อมูลส่วนตัวมาใช้งาน
เกี่ยวกับ PwC
PwC มุ่งมั่นสร้างความไว้วางใจในสังคมและแก้ปัญหาที่สำคัญ เราคือเครือข่ายบริษัทที่ดำเนินธุรกิจใน 157 ประเทศ และมีบุคลากรกว่า 276,000 คนที่ทุ่มเทให้บริการด้านการประกันภัย การให้คำปรึกษา และภาษี สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมและแสดงความคิดเห็นได้ที่ www.pwc.com
PwC หมายถึงเครือข่ายบริษัท PwC และ/หรือ บริษัทสมาชิกหนึ่งบริษัทหรือหลายบริษัท โดยแต่ละบริษัทเป็นนิติบุคคลที่แยกกันชัดเจน สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.pwc.com/structure
รูปภาพ - https://mma.prnewswire.com/media/1078672/PwC_CEO_Infographic.jpg