เทคนิคการ หัดขับรถ ด้วยตนเองให้เป็น ในระยะสั้น เมื่อกล่าวถึงการ
หัดขับรถ เชื่อว่าน่าจะเป็นทักษะความสามารถหนึ่งที่สำคัญในปัจจุบัน หลายหน่วย
งานทั้งราชการและเอกชน กำหนดให้เป็นคุณสมบัติหนึ่งสำคัญในการรับคนเข้าทำงาน อย่างไรก็ตาม ก็เชื่ออีกว่าอาจมีหลายคนที่ยังไม่สามารถขับรถได้ เนื่องจากอาจยังไม่เคยได้ฝึก ซึ่งอาจมาจากยังไม่มีรถยนต์ส่วนบุคคลเป็นของตนเอง ตลอดจนยังไม่เห็นความสำคัญในการที่ต้องเรียน อาจเพราะการเดินทางโดยส่วนใหญ่ ไม่จำเป็นต้องใช้รถยนต์ส่วนบุคคล เช่น ใช้ระบบขนส่งสาธารณะเป็นหลัก ไม่ว่า รถโดยเมล์ รถไฟฟ้าบนดิน-ใต้ดิน เป็นต้น ซึ่งในบางครั้งการใช้ระบบขนส่งนี้ก็มีความสะดวกมากกว่าการใช้รถยนต์ส่วนบุคคลด้วยซ้ำไป อย่างไรก็ตามความสามารถในการขับรถนั้นก็ย่อมยังคงมีความสำคัญ เพราะเราอาจมิได้สะดวกใช้ระบบขนส่งสาธารณะทุกวัน
ตามที่กล่าวในข้างต้น ทักษะความสามารถในการขับรถ ถือเป็นสิ่งสำคัญ หลายคนจึงลงทุนยอมจ่ายเพื่อเรียนการขับรถ อย่างไรก็ตามการฝึก หัดขับรถ สามารถฝึกฝนหัดขับด้วยตนเองได้ เพียงแค่ศึกษาความรู้เกี่ยวกับรถยนต์ในเบื้องต้น เพื่อเข้าใจในการทำงานของระบบ ส่วนที่การขับรถ เป็นเรื่องของทักษะและความชำนาญ ซึ่งยิ่งขับมาก ก็ยิ่งชำนาญมาก ในเรื่องนี้จะเห็นได้ว่าคนที่ขับรถเก่งหรือชำนาญนั้น มิได้สนใจต้องหลักการขับรถเพื่อขับรถแต่อย่างใด แต่ทุกอย่างเกิดจากตอบสนองของร่างกายในทันที ซึ่งในเรื่องนี้ หากผู้ต้องการหัดขับพอมีประสบการณ์เกี่ยวกับการขับหรือรถรถประเภทอื่นมาบ้าง เช่น จักรยานยนต์ ก็ย่อมช่วยให้สามารถขับรถยนต์ได้เป็นเร็วขึ้น เพราะเข้าใจในการคาดคะเนระยะความปลอดภัยได้ในระดับหนึ่งโดยเฉพาะเรื่องการเบรก อย่างไรก็ตามในช่วงเริ่มแรกอาจคำนวณผิดไปบ้าง เนื่องจากยังไม่เคยชินกับระบบ เพราะการเร่งเครื่องยนต์ของจักรยานยนต์กระทำโดยมือ ส่วนรถยนต์กระทำโดยใช้เท้า
สำหรับเทคนิคที่จะทำให้การขับรถนั้นเป็นไปโดยรวดเร็วนั้นง่ายมาก หากตอบแบบกำปั้นทุบดิน ก็ต้องตอบว่า
วิธีหัดขับรถให้เป็นเร็ว ที่ดีที่สุดคือการลงสนามจริง กล่าวคือหลังจากที่พอรู้การทำงานของระบบรถยนต์ และได้ฝึกฝนขับรถจนพอขับได้ในระดับหนึ่งบ้างแล้ว การขับรถนั้นออกสู่บนท้องถนนจริง ย่อมทำให้เกิดความสามารถในการขับรถเป็นเร็วมากขึ้น โดยหากพิจารณาตามหลักวิทยาศาสตร์ ก็เนื่องจากระบบประสาทเกิดการตื่นตัวเต็มที่ ซึ่งแน่นอนในช่วงแรกอาจประหม่าและเกร็งไปบ้าง แต่หลังจากนั้นจะเกิดความเคยชิน เรียกได้ว่าภายในวันเดียวก็สามารถขับรถยนต์เป็นได้อย่างไม่รู้ตัว เพราะเป็นการฝึกให้ร่างกายตอบสนองโดยอัตโนมัติ อย่างไรก็ตามเพื่อความปลอดภัยในขั้นตอนนี้ การให้ผู้ชำนาญการขับรถนั่งประกบไปด้วย ย่อมช่วยให้ลดความประหม่า และมีความมั่นใจมากขึ้น ตลอดจนช่วยแก้ปัญหาได้ อีกทั้งสามารถเพิ่มความอุ่นใจมากขึ้นได้หากรถยนต์นั้นได้ทำประกันชั้น 1 เอาไว้ โดยย่อมมั่นใจได้ว่าเมื่อเกิดปัญหาแล้ว รถยนต์ของท่านและผู้ประสบภัย ย่อมได้รับการดูแล
สรุปเทคนิคการขับรถให้เป็นเร็วนั้น โดยหลักใหญ่ก็คือ การเข้าใจในระบบรถยนต์ โดยเฉพาะระบบเกียร์รถยนต์ ส่วนที่เหลือจะเป็นทักษะและความชำนาญ ซึ่งต้องการอาศัยระยะเวลาและการฝึกฝน ซึ่งวิธีที่ดีที่สุดคือการฝึกฝนในถนนจริง เพราะจะทำให้เกิดความเคยชินในสถานการณ์จริงอย่างรวดเร็ว
ข้อมูลจาก:
Drivedee.com