เชื่อว่าหลายท่านคงจะเจอปัญหานี้เหมือนกัน คือการที่เราซื้อโทรทัศน์ขนาดยักษ์ใหญ่ และติดตั้งอย่างเสร็จสรรพเรียบร้อยแล้ว แต่ทว่าปัญหาหนึ่งที่เกิดขึ้นคือเสียงนั้นยังไม่ประทับใจคุณสักเท่าไหร่หรือเสียงของโทรทัศน์ยังดังไม่ซะใจ ถ้าเจอปัญหาเหมือนกันนี้ตามมาทางนี้เลยค่ะ เพราะเราจะช่วยคุณแก้ไขปัญหาเรื่องนี้เอง ก่อนอื่นต้องถามก่อนว่าทุกท่านรู้จัก
ลำโพง Soundbar กันหรือเปล่าค่ะ หากถ้ายังไม่รู้จักเราจะพาไปรู้จัก
ลำโพง Soundbar กันแบบคร่าว ๆ นะคะ ว่ามันคืออะไร คือ อุปกรณ์ที่มีลักษณะเป็นกล่องหรือตู้ชิ้นเดียว ซึ่งให้เสียงที่กว้างกระจายออกไป โดยปกติแล้วซาวด์บาร์ที่ใช้กันในบ้านจะมีทั้งแชนแนลซ้ายและขวา หรือบางตัวก็มีเซนเตอร์แชลแนลเพิ่มเข้ามา พอรู้แบบนี้ก็เริ่มสนใจเจ้าตัว ลำโพง Soundbar กันแล้วใช่ไหมค่ะ ตามเรามาเลยค่ะ เพราะวันนี้เราจะมาบอกถึงเคล็ดลับการเลือกซื้อ
ลำโพง Soundbar ค่ะ ว่าต้องเลือกซื้ออย่างไร
เคล็ดลับการเลือกซื้อ
ลำโพง Soundbar 1. ฟังว่าให้เสียงชัดได้โดยรอบหรือไม่ อย่างที่รู้กันว่า Soundbar นั้นมีรูปร่างเป็นแท่งยาว ๆ และมีลำโพงอยู่ไม่กี่ดอกภายในแท่งนั้น ทำให้เมื่อนั่งชมโทรทัศน์อยู่ในห้องรับแขกที่มีคนหลาย ๆ คน ก็มีโอกาสที่บางคน โดยเฉพาะคนที่ไม่ได้นั่งตรงกลาง จะได้ยินเสียงไม่เต็มที่ก็ได้ ดังนั้นอย่าลืมเช็คเรื่องนี้ก่อนซื้อทุกครั้ง
2. ให้เสียงที่ดัง เพราะมันเกิดมาเพื่อสิ่งนี้ ขณะเดียวกันเหตุผลที่ทุกคนซื้อ Soundbar มาก็เพื่อให้เสียงที่ดัง และมีมิติกว่าที่ได้จากโทรทัศน์ ดังนั้นการให้เสียงที่ดังชัดเจนไม่ว่าจะอยู่ห่างจากโทรทัศน์แค่ไหนก็ยังได้ยินชัด โดยเทคนิคง่าย ๆ ก่อนซื้อก็คือ เปิด Soundbar ให้เสียงดังที่สุด เพื่อให้รู้กำลังขับของลำโพงคู่โทรทัศน์ตัวนี้
3. การเชื่อมต่อแบบสายที่หลากหลาย สำหรับการเชื่อมต่อแล้ว อยากให้ดูเรื่องการเชื่อมต่อแบบสายก่อน เพราะปกติแล้ว Soundbar จะติดตั้งพอร์ทเชื่อมต่อเช่น HDMI มาให้อยู่แล้ว แต่น่าจะดีกว่าถ้ามันมีพอร์ทอื่น ๆ เช่น Coaxial, Optical หรืออื่น ๆ รวมถึงพอร์ทเสียง 3.5 มม. เพื่อสร้างช่องทางหลากหลายในการส่งสัญญาณเสียงเข้าไป
4. การเชื่อมต่อแบบไร้สายที่ต้องดีเช่นกัน นอกจากนี้การเชื่อมต่อแบบไร้สายก็เป็นอีกคุณสมบัติจำเป็นด้วย เพราะหากไม่มีการเชื่อมต่อแบบนี้ ความหลากหลายในการใช้
งาน โดยเฉพาะการ
ฟังเพลงผ่าน Bluetooth ก็คงไม่เกิดขึ้นแน่ ๆ แต่ปัจจุบันมันก็มีการเชื่อมต่อไร้สายอื่น ๆ เข้ามา เช่นแตะด้วย NFC หรือเชื่อมต่อผ่าน Wi-Fi ได้
5. ขนาดต้องไม่เล็กไม่ใหญ่เกินไป สำหรับเรื่องขนาดนั้น Soundbar หากมีขนาดใหญ่จนเกินไปก็อาจไปบดบังการรับส่งสัญญาณระหว่างรีโมท กับโทรทัศน์ก็ได้ ส่วนถ้าเล็กไปมันก็อาจให้เสียงได้ไม่มีมิติมากพอ ดังนั้นก่อนซื้อต้องลองดูตัวที่มีขนาดเหมาะสมกับโทรทัศน์ที่ใช้ด้วย
6. การใช้งานที่ง่าย และคุ้มค่าที่สำคัญคือการใช้งานต้องง่าย เพราะต้องอยู่คู่กับโทรทัศน์เป็นเวลานาน ไม่ใช่ต้องมาเปลี่ยนกันบ่อย ๆ ซึ่งการมีหน้าจอเล็ก ๆ เพื่อแสดงผลเรื่องระดับเสียง รวมถึงกำลังเชื่อมต่อกับอะไรอยู่ ก็น่าจะจูงใจให้ผู้ซื้อหันมาใช้งานลำโพงตัวนี้ได้
7. ระบบเสียงต้องดีที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ สุดท้ายคือเรื่องระบบเสียงที่ต้องดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพราะมันคืออุปกรณ์ที่ใช้เพิ่มอรรถรสด้านเสียง ดังนั้นการรองรับเทคโนโลยีด้านระบบเสียงที่ดีที่สุดหรือการขายแบบบันเดิลมากับตัว Sub-Woofer ก็คงเป็นทางเลือกที่ดีไม่น้อย
ซาวด์บาร์และดิจิทัลซาวด์โปรเจ็กเตอร์จะให้ผลลัพธ์ได้ดีเมื่อนำมาใช้ในห้องขนาดไม่ใหญ่มาก เช่น ห้องนอน,ออฟฟิศ หรือห้องนั่งเล่นขนาดเล็ก ถ้าคุณต้องการที่จะซื้อ
ลำโพง Soundbar สักตัวหนึ่ง สิ่งที่คุณพึงกระทำ นอกเหนือจากการอ่านรีวิวทั้งหลายคือ การได้ไปลองฟังจริง ๆ ว่าตัวไหนที่เหมาะสมและต้องตาต้องหูคุณ
# ลำโพง Soundbar