เด็กเป็นวัยที่สามารถเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็วและจำได้นาน โดยเฉพาะช่วงวัย ตั้งแต่ 2 ปีขึ้นไปจนถึง 15 ปี ถือว่าเป็นก้าวสำคัญที่สุดในการวางรากฐานการเรียนรู้ให้กับเด็ก ๆ ได้เป็นอย่างดี เพราะประสบการณ์จากช่วงวัยนี้จะมีผลต่อช่วงวัยทำ
งานและวัยผู้ใหญ่ด้วย เด็กวัยนี้ควรได้รับความอบอุ่นและเผชิญกับโลกที่สวยงาม เต็มไปด้วยความดีงาม เพราะหากเด็กได้รับความอบอุ่นจะมองโลกในแง่บวก ส่วนในการเรียนรู้ของเด็กปล่อยให้เป็นไปตามพัฒนาการทางสติปัญญา ตามช่วงวัย ไม่ควรที่จะเร่งให้เด็กมีพัฒนาการจากขั้นหนึ่งไปสู่อีกขั้นหนึ่งเร็วเกินไป หากต้องการช่วยให้เด็กพัฒนาไปอย่างรวดเร็วหรืออยากให้
เด็กฉลาด มากยิ่งขึ้น เหล่าคุณพ่อ คุณ
แม่ ก็สามารถทำได้แต่ต้องไม่กดดันเด็กจนเกินไป เพราะฉะนั้นวันนี้เราจึงได้นำเคล็ดลับการสร้างพัฒนาการให้
เด็กฉลาด ขึ้นมาฝากค่ะ
วิธีช่วยสร้างพัฒนาการให้
เด็กฉลาด ขึ้น
1. เรียนดนตรี
เหตุผล คือ ดนตรีทำให้
เด็กฉลาด ขึ้น งานวิจัยเผยว่าเด็กที่อยู่ในกลุ่มเรียนดนตรีจะมีระดับไอคิวที่เพิ่มขึ้นมากกว่าเด็กที่ไม่ได้เรียนดนตรี แม้ว่าผลที่เกิดขึ้นจะเล็กน้อย แต่เมื่อวัดจาก
คะแนนสอบต่างๆ แล้ว ก็ถือว่ามีแนวโน้มที่จะประสบความสำเร็จด้านวิชาการ แถมการฝึกเล่นดนตรียังเป็นประโยชน์ต่อคนทุกวัยด้วย
2.การออกกำลังกาย
การออกกำลังกายจะช่วยเพิ่มความสามารถในการเรียน จากการวิจัยที่ระบุว่าหลังจากออกกำลังกาย เด็กจะจดจำคำศัพท์ใหม่ได้เร็วขึ้นถึง 20% นอกจากนี้ การออกกำลังกายอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 3 เดือน จะช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดไปยังสมองส่วนความจำและการเรียนรู้ถึง 30% ด้วย
3. อ่านหนังสือกับลูก
เด็กฉลาด จำเป็นต้องมีทักษะในการอ่าน แต่พ่อ
แม่จะต้องอ่านหนังสือพร้อมไปกับคุณลูก ไม่ใช่นั่งอ่านให้ลูกฟังโดยที่ลูกไม่ได้มองหนังสือเลย
4. การอดนอนทำให้เด็กโง่
การสูญเสียเวลานอนเพียง 1 ชม. ก็เท่ากับสูญเสียเวลาการเติบโตทางสติปัญญาและพัฒนาการไปถึง 2 ปี โดยจากข้อมูลสำรวจของ Wahlstrom ในนักเรียนมัธยมปลาย 3,000 คน ในโรด ไอส์แลนด์ เด็กมัธยมปลายที่ได้เกรด A มีเวลานอนเฉลี่ยมากกว่าเด็กที่ได้เกรด B ประมาณ 15 นาที และเด็กเกรด B มีเวลานอนเฉลี่ยมากกว่าเด็กเกรด C ประมาณ 15 นาที เช่นกัน
5. ไอคิวสำคัญน้อยกว่าวินัยในตนเอง
เด็กที่มีวินัยและความตั้งใจจะมีแววประสบความสำเร็จในชีวิตมากกว่าเด็กที่มีไอคิวสูง เพราะเด็กที่มีวินัยจะไม่วอกแวกและใช้เวลาไปกับเรื่องไร้สาระ ทำให้เราสามารถคาดการณ์ประสิทธิภาพด้านวิชาการในอนาคตได้ ในขณะที่ไอคิวทำไม่ได้ ยิ่งกว่านั้น มโนธรรมหรือความรู้สึกรับผิดชอบยังมีความสำคัญต่อเกรดมากกว่าความฉลาด คนที่มีมโนธรรมสูงจะได้เกรดดีกว่าทั้งในโรงเรียนและในระดับมหาวิทยาลัย ประกอบอาชญากรรมน้อยลง
6. การเรียนรู้เป็นกระบวนการที่ต้องลงมือทำอย่างต่อเนื่อง
สมองของคนเราจะพัฒนาได้โดยการลงมือทำสิ่งต่าง ๆ ไม่ใช่แค่การฟัง นี่คือเหตุผลที่การมีทักษะหลายอย่างดีกว่าใช้เวลาไปกับการทำแบบทดสอบ แทนที่จะค่อย ๆ ลงมือทำและซึมซับทักษะเหล่านี้
7. รับประทานอาหารในเวลาที่ถูกต้อง
พ่อแม่ย่อมต้องการให้ลูก ๆ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์อยู่แล้ว แต่รู้หรือไม่ว่า อาหารเสียสุขภาพอย่างคาเฟอีนและน้ำตาล ที่จริงแล้วก็มีประโยชน์เช่นกัน หากให้เด็กรับประทานในเวลาที่เหมาะสม เพราะคาเฟอีนและน้ำตาลจะช่วยกระตุ้นสมอง รักษาความสนใจและการทำงานของกระบวนการจำ และเพิ่มประสิทธิภาพของระบบการใส่ใจ โดยสามารถให้เด็กรับประทานคาเฟอีนเป็นรางวัลขณะที่เรียนหรือต้องการพักผ่อนได้
8. เด็กที่มีความสุข = เด็กที่ประสบความสำเร็จ
ความสุขเป็นข้อได้เปรียบที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก และเป็นสิ่งที่ชี้วัดประสิทธิภาพของมนุษย์ โดยเฉลี่ยแล้ว คนที่มีความสุขมีแนวโน้มที่จะประสบความสำเร็จทั้งเรื่องงานและความรักมากกว่าคนที่ไม่มีความสุข
9. สิ่งแวดล้อมของเด็ก ๆ ก็สำคัญ
โดยทั่วไปแล้ว เด็ก ๆ จะไม่มีนิสัยหรือสติปัญญาเหมือนพ่อแม่ แต่สิ่งที่ส่งผลต่อพฤติกรรมของเด็กจริง ๆ ก็คือสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะเพื่อนร่วมห้อง การเรียนในโรงเรียนที่วิชาการเข้มแข็ง แม้ว่าจะมีความกดดัน แต่ในแง่หนึ่งก็จะช่วยให้ลูกมีเพื่อนที่ตั้งใจเรียน โดยจากการวิจัยในนักศึกษาของ Dartmouth College ระบุว่าเมื่อนักศึกษาที่เรียนไม่เก่งได้รูมเมตเป็นเด็กเรียนเก่ง ก็จะมีเกรดเฉลี่ยที่ดีขึ้น เพราะได้ซึมซับพฤติกรรมการเรียนจากรูมเมตนั่นเอง
10. เชื่อมั่นในตัวลูก
แค่เชื่อว่าลูกของคุณเก่ง ก็สร้างความเปลี่ยนแปลงได้มากมายแล้ว เนื่องจากเป็นการสร้างกำลังใจและสร้างความเชื่อมั่นให้แก่เด็ก โดยจากการทดสอบของโรเซนธัลและเลนอร์ จาคอบสัน ที่ให้ครูบอกนักเรียนว่านักเรียนเป็นเด็กฉลาดกว่าที่คิด นักเรียนเหล่านั้นจะทำคะแนนได้ดี ไม่ว่าจะสุ่มหรือไม่ได้สุ่มบอกก็ตาม โดยในช่วงจบการศึกษา เด็กราว 30% มีคะแนนเฉลี่ยไอคิวเพิ่มถึง 22 คะแนน และเกือบทุกคนมีคะแนนเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 10 คะแนน
ทั้งหมดนี้ก็เป็นวิธีเล็ก ๆ น้อย ๆ ในการที่จะช่วยให้
เด็กฉลาด ขึ้นได้ในระดับหนึ่ง แต่ทั้งนี้ คุณพ่อ คุณแม่ ต้องไม่บังคับลูกจนเกินไป ต้องให้ลูกสมัครใจที่จะทำด้วย เพราะถ้าหากบังคับลูกทำในสิ่งที่ลูกไม่ชอบหรือไม่อยากทำ ผลรับที่ได้อาจจะได้ผลเสียมากกว่าผลดีนะคะ
#เด็กฉลาด