คอลลาเจน collagen เป็นสารโปรตีนที่มีคุณภาพสูง ที่ย่อยเป็น “กรดอะมิโน” สร้าง คอลลาเจนและอีลาสติน (Elastin) ช่วยการทำ
งานของเนื้อเยื่อร่างกายทำให้ปอด กระดูก เส้นเอ็น และหลอดเลือดแข็งแรง คอลลาเจนและเคราติน (Keratin) ช่วยให้ผิวหนังแข็งแรงและยืดหยุ่น
ความหมายสั้นๆของ
คอลลาเจน คือ “กาวแห่งชีวิต” คือกาวที่คอยยึดเกาะ เซลล์ผิวหนัง เอ็น ข้อต่อ พังผืด และกล้ามเนื้อ ตลอดจนผนังหลอดเลือด ให้ติดแน่นสนิท เต่งตึง แต่เมื่อเราอายุมากขึ้นคอลลาเจน collagen จะลดลงไปเรื่อยๆ สังเกตจากผิวหนังผู้สูงอายุที่เหี่ยวย่น หย่อนยาน รวมไปถึงกระดูก ไขข้อต่างๆ ที่เริ่มฝืด มีอาการเจ็บกระดูก กันอยู่ล่ำๆไป นั่นก็เพราะคอลลาเจน หรือ “กาว” เสื่อมสภาพลงนั่นเอง
เมื่อ 8,000 ปีที่แล้ว มีการนำผิวหนังสัตว์ต่างๆ ไปเคี่ยวจนเกิดเป็นกาวเหนียวๆ ไว้ใช้ทำส่วนประกอบในการผลิตเชือกและตะกร้าสานเพื่อให้มีความแข็งแรง และมีการใช้งานภายในครัวเรือนทั่วไป กาวชนิดนี้เมื่อแห้งแล้วสามารถทำให้อ่อนนิ่มได้อีกโดยการให้ความร้อน เพราะกาวจากสิ่งมีชีวิตเป็นเทอร์โมพลาสติก ชนิดหนึ่งจึงมีการใช้งานได้หลากหลายโดยเฉพาะการผลิกเครื่องดนตรีเช่น ไวโอลีน กีตาร์ เพราะคำว่า คอลลาเจน หรือ Collagen มีรากศัพท์มาจากภาษากรีก คำว่า “Kolla” ที่แปลว่า กาว แสดงว่าผิวหนังทุกชนิดก็มีกาวหรือคอลลาเจนเหมือนกัน เช่นเดียวกับผิวหนังของมนุษย์นั่นเอง
คอลลาเจน collagen มีกี่ประเภท ประเภทของคอลลาเจนตอนนี้มีทั้งหมด 16 ประเภท คอลลาเจนส่วนใหญ่ (ประมาณ 80 ถึง 90 เปอร์เซ็นต์) นั้นเป็นคอลลาเจนประเภทที่ 1, 2 และ 3
คอลลาเจนประเภทที่ 1 (Collagen Type I)
เป็นคอลลาเจนประเภทที่มีปริมาณมากที่สุด และมีผลกระทบมากที่สุดที่พบได้ในร่างกายมนุษย์ ซึ่งสร้างส่วนประกอบต่างๆ ของร่างกาย คือเส้นเอ็น เอ็น อวัยวะ และผิวหนัง ยังช่วยสร้างกระดูก และเพิ่มความยืดหยุ่นของผิวหนังอีกด้วย
คอลลาเจนประเภทที่ 2 (Collagen Type II)เป็นคอลลาเจนที่ช่วยในการสร้างกระดูกอ่อนที่พบได้ในเนื้อเยื่อต่างๆ ป้องกันอาการเจ็บข้อต่อเมื่ออายุมากขึ้น หรืออาการของโรคไขข้อต่างๆ
คอลลาเจนประเภทที่ 3 (Collagen Type III)เป็นคอลลาเจนที่เกิดจากเส้นใยร่างแห ช่วยให้ผิวหนังมีความยืดหยุ่นและกระชับ อีกทั้งยังสร้างเส้นเลือดและเนื้อเยื่อภายในหัวใจ
ข้อมูลเพิ่มเติม คอลลาเจน