หน้า: 1

ชนิดกระทู้ ผู้เขียน กระทู้: ช่องทางที่สามารถส่งผ่านเชื้อ HIV  (อ่าน 31 ครั้ง)
add
เรทกระทู้
« เมื่อ: 2 ก.ย. 18, 13:19 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
Send E-mail

แบ่งปันกระทู้นี้ให้เพื่อนคุณอ่านไหมคะ?

ปิดปิด
 
เชื้อไวรัสเอชไอวีคืออะไร

เชื้อไวรัสเอชไอวี (HIV ย่อมาจากคำว่า Human Immunodeficiency Virus) เป็นเชื้อไวรัสชนิดหนึ่งที่จัดอยู่ในกลุ่มรีโทรไวรัส (Retrovirus) และอยู่ในตระกูล เลนติไวรัส (Lentivirus family)

เชื้อไวรัสเอชไอวีสามารถแบ่งออกเป็น 2 ชนิดตามลักษณะทางพันธุกรรม ได้แก่ เอชไอวี-1 (HIV-1) และเอชไอวี-2 (HIV-2) ทั้งสองชนิดสามารถทำให้เกิดการติดเชื้อในมนุษย์ได้

โดยเอชไอวี-1 พบมากกว่าและจะพบในผู้ป่วยในทวีปยุโรป สหรัฐอเมริกา และส่วนกลางของทวีปอัฟริกา ในขณะที่ เอชไอวี-2 จะพบในผู้ป่วยของประเทศอินเดีย และอัฟริกาตะวันตกเป็นส่วนใหญ่ อาการ และการดำเนินโรคของเชื้อทั้งสองชนิดคล้ายคลึงกัน

รูปร่างของไวรัสเอชไอวี เป็นรูปร่างกลม แกนกลางเป็นรูปกรวยล้อม รอบด้วยชั้นไขมันบางๆ ภายในแกนกลางของเชื้อมีโปรตีนชื่อ p24 ซึ่งเป็นโปรตีนชนิดที่กระตุ้นให้ระบบภูมิคุ้มกันของมนุษย์สร้างภูมิคุ้มกันต้านทาน หรือ แอนติบอดี(Antibody) ต่อไวรัสนี้ ซึ่ง แอนติบอดีตัวนี้ แพทย์ใช้ในการตรวจวินิจฉัยผู้ป่วยว่าติดเชื้อนี้หรือไม่ นอกจากนั้น ยังประกอบด้วยเอ็นไซม์อีก 3 ชนิดที่ใช้ในการเจริญเติบโตของไวรัสนี้ คือ โปรตีเอส (Protease) รีเวิสทรานสคริปเตส (Reverse transcriptase) และอินตีเกรส (Integrase) เปลือกนอกสุดของไวรัสเป็นโมเลกุลของโปรตีนกับคาร์โบไฮเดรตรวมกัน (Glycoprotein) ชื่อ gp120 และ gp41 ซึ่งใช้ในการเข้าไปในเซลล์ที่เป็นเป้าหมายของไวรัสชนิดนี้ เซลล์ที่เป็นเป้าหมายหลักของไวรัสเอชไอวี คือ เม็ดเลือดขาวลิมโฟซัยท์ (Lymphocyte) ชนิด ทีเซลล์ (T-cell) ที่มี ซีดี 4 เป็นบวกที่บริเวณผิวนอกของเซลล์ (CD 4 positive T-cell, สารเกี่ยวข้องกับภูมิคุ้มกันต้านทานโรค) ซึ่งเซลล์นี้มีบทบาทสำคัญมากในการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันต้านทานโรค



การติดต่อของโรคเอดส์มี 3 ทางดังนี้

การร่วมเพศกับผู้ที่มีเชื้อเอชไอวี โดยไม่ใส่ถุงยางอนามัย
ซึ่งรวมไปถึงการร่วมเพศระหว่างชายกับชาย หญิงกับหญิง หรือแม้จะเป็นชายกับหญิงซึ่งเป็นช่องทางธรรมชาติหรือไม่ธรรมชาติก็ตาม สิ่งเหล่านี้เป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการติดต่อโรคเอดส์ได้ ทั้งนี้จากข้อมูลของทางกองระบาดวิทยาระบุว่า 83% ของผู้ติดเชื้อเอดส์นั้น ล้วนได้รับเชื้อมาจากการมีเพศสัมพันธ์ทั้งสิ้น

การรับเชื้อทางเลือด
การติดเชื้อเอดส์พบได้ใน 2 กรณี คือ

2.1 ใช้เข็มฉีดยาร่วมกัน หรือแม้แต่การใช้กระบอกฉีดยาร่วมกับผู้ติดเชื้อเอดส์ ซึ่งพบบ่อยในกลุ่มของผู้ที่เสพสารเสพติด หรือฉีดยาเข้าเส้น

2.2 รับเลือดมาจากการผ่าตัด หรือเพื่อรักษาโรคเลือดบางชนิด ซึ่งเราไม่มีทางรู้เลยว่าเลือดที่รับบริจาคมามาจากแหล่งไหน แต่ในปัจจุบันนั้นได้มีการตรวจสอบเพื่อความปลอดภัย โดยจะนำเลือดที่รับบริจาคมาไปหาตรวจหาเชื้อเอดส์ก่อนเสมอ ดังนั้นจึงมีความปลอดภัย 100%

การติดต่อผ่านแม่สู่ลูก
ซึ่งเกิดจากแม่ที่มีเชื้อเอดส์อยู่แล้ว แล้วเกิดการตั้งครรภ์ทำให้มีการถ่ายทอดเชื้อเอดส์ไปสู่ลูก แต่ในปัจจุบัน ได้ค้นพบวิธีการป้องกันการแพร่เชื้อเอดส์จากแม่ไปสู่ลูกได้สำเร็จแล้ว โดยวิธีการทานยาต้านไวรัสในช่วงตั้งครรภ์ จะช่วยป้องกันความเสี่ยงจากการติดเชื้อเอดส์ของทารกลดลงเหลือ ร้อยละ 8 แต่ก็ยังมีความเสี่ยงอยู่ ไม่ได้ปลอดภัย 100% นัก ดังนั้นวิธีที่ดีที่สุดคือ การตรวจเลือดก่อนแต่งงานจะดีที่สุด

ป้องกันติดเชื้อไวรัสเอชไอวีได้อย่างไร?

การป้องกันตัวเองไม่ให้ติดเชื้อไวรัสเอชไอวี มีหลายวิธี ได้แก่

เมื่อมีเพศสัมพันธ์กับผู้ที่ไม่ใช่สามี หรือภรรยาของตัวเอง ต้องใช้ถุง ยางอนามัยเสมอ ฝ่ายชายจะมีเพศสัมพันธ์กับใครต้องใช้ถุงยางอนามัยให้เป็นนิสัยโดยไม่มีข้อยกเว้น ฝ่ายหญิงจะมีเพศสัมพันธ์กับชายใด ต้องให้ฝ่ายชายใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งโดยไม่มีข้อยกเว้นเช่นกัน ถ้าฝ่ายชายไม่ยอมใช้ ต้องปฏิเสธการมีเพศสัมพันธ์โดยเด็ดขาด รวมทั้งการมีเพศสัมพันธ์ทางปากและทางทวารหนักด้วย ก็ต้องใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งเช่นกัน
ฝ่ายชายไม่ควรใช้ปากกับอวัยวะเพศหญิงที่ไม่ใช่ภรรยา เพราะอาจมีเชื้อไวรัสในน้ำเมือกจากช่องคลอดของฝ่ายหญิงได้ ถ้าเข้าปากฝ่ายชายแล้วอาจทำให้ฝ่ายชายติดเชื้อได้ เคยมีรายงานการติดเชื้อโดยวิธีนี้แล้วถึงแม้จะไม่มากเท่าการติดเชื้อจากน้ำอสุจิของฝ่ายชายก็ตาม
หลีกเลี่ยงการจูบปากกับคนที่ไม่รู้จัก หรือไม่ทราบว่าเป็นพาหะนำเชื้อหรือไม่ ถึงแม้ว่าในน้ำลายจะมีโอกาสน้อยที่จะมีเชื้อไวรัสเอชไอวี แต่ก็ไม่ปลอดภัยร้อยเปอร์เซ็นต์ ถ้าบังเอิญมีแผลภายในช่องปากก็อาจเป็นทาง เข้าของเชื้อไวรัสได้
อย่าใช้การฉีดยาเสพติดชนิดเข้าเส้น อย่าใช้เข็มฉีดยาเสพติดร่วม กับคนอื่น
หลีกเลี่ยงการสักตามผิวหนัง การเจาะส่วนต่างๆของร่างกายเพราะสถานบริการบางแห่งอาจรักษาความสะอาดของเครื่องมือไม่ดีพอ
บุคคลากรทางการแพทย์ ถ้าเกิดอุบัติเหตุเข็มตำต้องรีบแจ้งหน่วยที่ดูแลทางการติดเชื้อ เพื่อรับยาต้านไวรัสอย่างทันท่วงที วิธีนี้สามารถป้อง กันการติดเชื้อได้มาก
ปัจจุบันวัคซีนป้องกันโรคเอดส์ ยังอยู่ในระยะของการศึกษาวิจัย ยังไม่มีการผลิตออกมาใช้ในวงกว้าง ในระยะใกล้นี้ จึงไม่สามารถใช้วัคซีนในการป้องกันได้
ต้องเตือนตนเองไว้เสมอว่า เราไม่สามารถรู้ว่าใครติดเชื้อไวรัสเอชไอวีจากการดูลักษณะภายนอก คนที่ดูภายนอกสวยงาม หรือหล่อเหลาสะอาดสะอ้านเพียงใด ก็ไม่สามารถไว้ใจได้ว่า เขาหรือเธอจะไม่ใช่พาหะนำโรคไวรัสเอชไอวีมาสู่เรา จึงต้องป้องกันไว้ก่อนเสมอ
ก่อนแต่งงานกับใคร ต้องตรวจเลือดของผู้ที่จะมาแต่งงานกับเราก่อนเสมอทั้งหญิงและชายว่า มีเชื้อโรคอะไร หรือเป็นพาหะของโรคใด ทั้ง นี้ไม่เฉพาะโรคเอดส์ แต่รวมถึง โรคซิฟิลิส โรคไวรัสตับอักเสบ และโรคธาลัสซีเมีย ด้วย


สนใจปรึกษาปัญหาเกี่ยวกับ HIV โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ และ ยาป้องกัน (PrEP) ยาฉุกเฉิน (PEP) ได้ที่มูลนิธิเพื่อรัก Love Foundation คลิ๊ก

https://lovefoundation.or.th/th/ช่องทางที่สามารถส่งผ่า/



noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า

กระทู้ฮอตในรอบ 7 วัน

Tags:  เชื้อ HIV ช่องทาง 

หน้า: 1

 
ตอบ

ชื่อ:
 
แชร์ไป Facebook ด้วย
กระทู้:
ไอค่อนข้อความ:
ตัวหนาตัวเอียงตัวขีดเส้นใต้จัดย่อหน้าชิดซ้ายจัดย่อหน้ากึ่งกลางจัดย่อหน้าชิดขวา

 
 

[เพิ่มเติม]
แนบไฟล์: (แนบไฟล์เพิ่ม)
ไฟล์ที่อนุญาต: gif, jpg, jpeg
ขนาดไฟล์สูงสุดที่อนุญาต 20000000 KB : 4 ไฟล์ : ต่อความคิดเห็น
ติดตามกระทู้นี้ : ส่งไปที่อีเมลของสมาชิกสนุก
  ส่งไปที่
พิมพ์อักษรตามภาพ:
พิมพ์ตัวอักษรที่แสดงในรูปภาพ
 
:  
  • ข้อความของคุณอยู่ในกระทู้นี้
  • กระทู้ที่ถูกใส่กุญแจ
  • กระทู้ปกติ
  • กระทู้ติดหมุด
  • กระทู้น่าสนใจ (มีผู้ตอบมากกว่า 15 ครั้ง)
  • โพลล์
  • กระทู้น่าสนใจมาก (มีผู้ตอบมากกว่า 25 ครั้ง)
         
หากท่านพบเห็นการกระทำ หรือพฤติกรรมใด ๆ ที่ไม่เหมาะสม ซึ่งอาจก่อให้เกิดความเสื่อมเสียแก่สถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ รวมถึง การใช้ข้อความที่ไม่สุภาพ พฤติกรรมการหลอกลวง การเผยแพร่ภาพลามก อนาจาร หรือการกระทำใด ๆ ที่อาจก่อให้ผู้อื่น ได้รับความเสียหาย กรุณาแจ้งมาที่ แนะนำติชม