หลังจากโค้ชเอกและน้องๆทีมหมูป่าอีก 12 คนได้กลับออกมาจากถ้ำโดยปลอดภัยแล้ว ทุกอย่างก็เหมือนเป็นไปด้วยดี แต่ต้องมาสะดุดกึกกับข่าวเมื่อวานนี้ เพราะว่า ” ลีน่าจัง ” ได้ออกมาที่กองบังคับการปราบปรามเพื่อเตรียมฟ้องร้องดำเนินคดีกับ ” โค้ชเอก ” 1 ในฮีโร่อีกคนของถ้ำหลวง โดยเธอได้อ้างว่าโค้ชเอกได้ทำผิด พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ เพราะเขาได้ทำการเข้าไปยังวนอุทยานโดยที่ไม่แจ้งเจ้าหน้าที่ และยังให้เหล่าเด็กๆทีมหมูป่าใช้หินขุดถ้ำซึ่งถือว่าเป็นการทำลายถ้ำนั่นเอง
ต่อมาวันที่ 19 ก.ค.นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ผู้เป็นทนายความ ได้ออกมาตั้งประเด็นว่า ประเด็นที่เขานั้นสงสัยหรือก็คือการแจ้งความครั้งนี้ถือเป็นการใช้สิทธิ์โดยชอบกฎหมายหรือไม่ เนื่องด้วย พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2504 มาตรา 16 อนุที่ 9 ว่าด้วยเรื่องการนำพาหนะเข้าไปในพื้นที่อุทยานโดยที่เจ้าพนัก
งานไม่อนุญาตนั้น คือกรณีที่เด็กและโค้ช นำรถจักรยานเข้าไปที่ถ้ำหลวงโดยไม่ได้รับอนุญาต มีโทษปรับ 500 บาท นอกจากนี้ ในมาตรา 16 อนุ 14 ที่ลีน่าจังอ้างว่าเด็ก ๆ และโค้ชมีการขีดเขียนถ้ำ, ขุดถ้ำ และเข้าไปโดยไม่ได้รับอนุญาตนั้น กฎหมายข้อนี้มีโทษปรับไม่เกิน 1,000 บาท แต่ต้องเข้าใจว่าทั้ง 13 คนเข้าไปแล้วเกิดอุทกภัย แล้วถามกลับว่าถ้าน้ำท่วมจะรอให้ตายในถ้ำหรือ “ถ้าเห็นคุณลีน่าจังไปเที่ยวแล้วเกิดน้ำท่วม อย่าให้เห็นนะว่าคุณลีน่าจะไม่วิ่งหนี หรือขูดเขียนถ้ำ เพราะทั้ง 13 คนทำเพื่อเอาชีวิตรอด” ทนายรณณรงค์กล่าว
ทนายรณณรงค์ กล่าวต่อว่าการกระทำโดยเพื่อป้องกันอันตรายโดยที่ต้องละเมิดกฎหมายนั้นไม่ต้องรับโทษ เพราะถ้าเกิดทั้ง 13หมูป่าไม่ทำเช่นนี้ก็อาจที่จะต้องจบชีวิตอยู่ภายในถ้ำได้ ตนจึงมองว่าทั้ง 13คนนั้นไม่ควรกลัวว่าใครจะมาจับ เพราะงั้นสิ่งที่ตนอยากจะถามคือ การที่ลีน่าจังไปแจ้งความดำเนินคดีนั้น ตนยังไม่เห็นเจ้าหน้าที่กรมอุทยานเขาจะเดือดร้อนอะไรเลย แล้วลีน่าจังจะไปออกตัวเดือดร้อนแทนทำไม การที่ทั้ง 13หมูป่าจะถูกดำเนินคดีหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของหัวหน้าอุทยานในพื้นที่นั้น ว่าเหตุดังนี้จะสามารถผ่อนปรนผ่อนผันได้หรือไม่ เพราะหากมีการผ่อนปรนเขาก็สามารถทำได้ เนื่องจากจุดประสงค์ของทั้ง 13คนคือเข้าไปท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ เขาจึงเข้าไปอย่างถูกต้อง แต่เผอิญไปประสบอุทกภัยก่อนนั่นเอง
ถึงแม้ว่าทั้ง 13คนจะเข้าไปโดยไม่ได้รับอนุญาตก็จริงก็มีโทษปรับเพียง 500 บาทแต่เจ้าทุกข์ในครั้งนี้คือกรมอุทยาน ไม่ใช่ตัวลีน่าจัง ตนเลยสงสัยว่าลีน่าจังไปยุ่งอะไรกับเขา แม้ว่าการแจ้งความของลีน่าจังจะแจ้งตามข้อเท็จจริงของกฎหมาย ไม่ใช่การแจ้งความเท็จ หรือเป็นการกลั่นแกล้งกัน แต่ก็เป็นไปได้ว่าโค้ชเอกอาจถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย เพราะถือว่าเจ้าพนักงานของรัฐรับรู้แล้วว่ามีบุคคลเข้าไปในถ้ำโดยไม่ได้รับอนุญาตในบางจุด ทนายรณณรงค์ กล่าวต่อว่า ขณะนี้เป็นห่วงว่าการแจ้งความของลีน่าจังในครั้งนี้ จะส่งผลต่อภาพลักษณ์ของนานาชาติ ซึ่งพวกเขาอาจมองได้ว่าประเทศไทยเป็นบ้านป่าเมืองเถื่อน เนื่องจากผู้ประสบเหตุอุทกภัยแล้วไปติดถ้ำกว่า 10 วัน แต่กลับออกมาแล้วถูกซ้ำเติมด้วยการดำเนินคดี ประเทศไทยก็อาจถูกประณามได้ว่า ทำไมจึงต้องมาดำเนินคดีกับผู้ประสบเหตุอุทกภัยด้วย ความเสียหายนี้ลีน่าจังจะรับผิดชอบอย่างไร ซึ่งในอนาคตอาจกระทบต่อภาพลักษณ์การท่องเที่ยว ที่จ.เชียงรายด้วย นั่นถือเป็นความเสียหายมากกว่าค่าปรับจำนวนเงิน 500 บาทเสียด้วยซ้ำ ส่วนตัวจึงไม่เห็นด้วยกับการกระทำครั้งนี้ อย่างไรก็ตาม ทนายรณณรงค์ยังแนะนำให้ลีน่าจังไปแจ้งความที่ จ.เชียงราย เพราะถ้าคิดจะเอาผิดจริงๆ ก็ควรไปแจ้งในพื้นที่เกิดเหตุ ไม่ใช่แจ้งความที่กองปราบฯ กรุงเทพฯ ทั้งนี้ ตนมองว่าลีน่าจังไม่ผิดที่ทำแบบนี้ เพราะกฎหมายต้องบังคับใช้ทั่วถึงกัน เพียงแต่จังหวะที่คุณลีน่าจังออกมาพูด เป็นจังหวะที่เหมาะสมหรือไม่ เท่านั้นเอง
ติดตามข่าวสารออนไลน์ได้ที่ https://www.mongsport.com มองสปอร์ตดอทคอม https://www.mongsport.com
S! Movie