หน้า: 1

ชนิดกระทู้ ผู้เขียน กระทู้: SSP พร้อมเข้าเทรดในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ 27 ก.ย. นี้  (อ่าน 83 ครั้ง)
add
เรทกระทู้
« เมื่อ: 25 ก.ย. 17, 11:35 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
Send E-mail

แบ่งปันกระทู้นี้ให้เพื่อนคุณอ่านไหมคะ?

ปิดปิด
 
บมจ.เสริมสร้าง พาวเวอร์ คอร์ปอเรชั่น หรือ SSP ผู้ประกอบธุรกิจโดยการถือหุ้นในบริษัทที่ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนและธุรกิจที่เกี่ยวข้องทั้งในและต่างประเทศ (Holding Company) พร้อมเข้าเทรดในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ 27 ก.ย. นี้ ด้านผู้บริหารเชื่อมั่นจะได้รับการตอบรับที่ดี หลังก่อนหน้านี้นักลงทุนสถาบันแสดงความต้องการจองซื้อเกินกว่าจำนวนหุ้นที่จัดสรรไว้ประมาณ 9.5 เท่า โดยอยู่ระหว่างลงทุนโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในไทยและญี่ปุ่นเพิ่มอีก 8 โครงการ รวมกำลังการผลิตติดตั้ง 122.4 MW คาดทยอย COD ตั้งแต่ไตรมาส 4/60 ถึงไตรมาส 2/63หนุนการเติบโต จากปัจจุบันที่มีโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่จังหวัดลพบุรี COD แล้ว 1 โครงการ กำลังการผลิตติดตั้ง 52 MW


นายวรุตม์ ธรรมาวรานุคุปต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เสริมสร้าง พาวเวอร์ คอร์ปอเรชั่น หรือ SSP ผู้ประกอบธุรกิจโดยการถือหุ้นในบริษัทที่ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนและธุรกิจที่เกี่ยวข้องทั้งในและต่างประเทศ (Holding Company) เปิดเผยว่า บริษัทฯ พร้อมนำหุ้นเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ เป็นวันแรกในวันที่ 27 กันยายนนี้ ใช้ชื่อย่อ ‘SSP’ ในการซื้อขาย หลังจากได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุนในการเสนอขายหุ้นสามัญให้แก่ประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 276,375,000 หุ้น หรือคิดเป็นไม่เกินร้อยละ 30 ของหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนครั้งนี้ ในราคาหุ้นละ 7.70 บาท โดยได้รับความสนใจจากนักลงทุนสถาบันแสดงความต้องการจองซื้อเกินกว่าจำนวนหุ้นที่จัดสรรไว้ประมาณ 9.5 เท่า

ทั้งนี้ SSP แบ่งธุรกิจเป็น 2 กลุ่มคือ 1.ธุรกิจลงทุนและพัฒนาโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ และ 2.ธุรกิจลงทุนและพัฒนาโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนประเภทอื่นๆ เช่น โรงไฟฟ้าพลังงานลม โรงไฟฟ้าพลังงานก๊าซชีวภาพ โรงไฟฟ้าพลังงานชีวมวล และโรงไฟฟ้าพลังงานขยะ เป็นต้น โดยปัจจุบันมีการรับรู้รายได้จากโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ (COD) แล้วจำนวน 1 โครงการ ได้แก่ โครงการเสริมสร้าง โซลาร์ ในจังหวัดลพบุรี กำลังการผลิตติดตั้ง 52 MWและมีปริมาณพลังงานไฟฟ้าที่เสนอขายตามสัญญา 40 MW ภายใต้สัญญาซื้อขายไฟฟ้าแบบ Non-Firm มีอายุสัญญา 5 ปี และต่ออายุได้คราวละ 5 ปี ซึ่งได้รับส่วนเพิ่มราคารับซื้อไฟฟ้า (Adder) 6.5 บาทต่อกิโลวัตต์-ชั่วโมง เป็นระยะเวลา 10 ปีนับจากวันที่เริ่ม COD

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SSP กล่าวว่า บริษัทฯ อยู่ระหว่างการลงทุนพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในไทยและญี่ปุ่นรวม 8 โครงการ รวมกำลังการผลิตติดตั้ง 122.4 MW และมีปริมาณไฟฟ้าที่เสนอขายตามสัญญารวม 98 MWแบ่งเป็นโครงการในประเทศไทย ที่อยู่ระหว่างการพัฒนาและยังไม่เริ่มก่อสร้าง 1 โครงการ คือ โครงการโซลาร์ อผศ. ในจังหวัดราชบุรี ปริมาณพลังงานไฟฟ้าที่เสนอขายตามสัญญา 5 MW และได้อัตรารับซื้อไฟฟ้า Feed-in Tariff (FiT) 4.12 บาทต่อกิโลวัตต์-ชั่วโมง คงที่ตลอดระยะเวลารับซื้อไฟฟ้าตามอายุสัญญา 25 ปี คาดว่าจะเริ่ม COD ได้ภายในไตรมาส 4/61

ส่วนในประเทศญี่ปุ่น มีโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่อยู่ระหว่างลงทุน 5 โครงการ ประกอบด้วย โครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง 2 โครงการ ปริมาณพลังงานไฟฟ้าที่เสนอขายตามสัญญารวม 47 MW ได้แก่ 1.โครงการฮิดะกะ ในจังหวัดฮอกไกโด ปริมาณพลังงงานไฟฟ้าที่เสนอขายตามสัญญา 17 MW และได้อัตรารับซื้อไฟฟ้า FiT 40 เยนต่อกิโลวัตต์-ชั่วโมง คงที่ตลอดระยะเวลารับซื้อไฟฟ้าตามอายุสัญญา 20 ปี คาดว่าจะเริ่ม COD ในไตรมาส 1/61 และ 2.โครงการยามากะ ในจังหวัดคุมาโมโต้ ปริมาณพลังงานไฟฟ้าที่เสนอขายตามสัญญา 30 MW และได้อัตรารับซื้อไฟฟ้า FiT 36 เยนต่อกิโลวัตต์-ชั่วโมง คงที่ตลอดระยะเวลารับซื้อไฟฟ้า 20 ปี คาดว่าจะเริ่ม COD ในไตรมาส 2/63

นอกจากนี้ ยังมีโครงการที่อยู่ระหว่างการพัฒนาแต่ยังไม่ก่อสร้างจำนวน 2 โครงการ ปริมาณพลังงานไฟฟ้าที่เสนอขายตามสัญญารวม 36 MW ได้แก่ 1.โครงการโซเอ็น ในจังหวัดคุมาโมโต้ ปริมาณพลังงานไฟฟ้าที่เสนอขายตามสัญญา 6 MWและได้อัตรารับซื้อไฟฟ้า FiT 36 เยนต่อกิโลวัตต์-ชั่วโมงคงที่ตลอดระยะเวลารับซื้อไฟฟ้าตามอายุสัญญา 20 ปี คาดว่าจะเริ่มCOD ได้ในไตรมาส 4/61 และ 2.โครงการลีโอ ในจังหวัดชิซุโอกะ ปริมาณพลังงานไฟฟ้าที่เสนอขายตามสัญญา 30 MW และได้อัตรารับซื้อไฟฟ้า FiT 36 เยนต่อกิโลวัตต์-ชั่วโมง คงที่ตลอดระยะเวลารับซื้อไฟฟ้า 20 ปี คาดว่าจะเริ่ม COD ภายในไตรมาส 2/63

ขณะเดียวกัน ยังมีโครงการที่อยู่ระหว่างพัฒนาขั้นต้นอีก 1 โครงการ คือ โครงการยามากะ มีปริมาณพลังงานไฟฟ้าที่เสนอขายตามสัญญา 10.0 MW และได้อัตรารับซื้อไฟฟ้า FiT 36 เยนต่อกิโลวัตต์-ชั่วโมง คงที่ตลอดระยะเวลารับซื้อไฟฟ้า 20 ปี คาดว่าจะเริ่ม COD ในไตรมาส 2/63 ทั้งนี้ บริษัทฯ ยังให้ความสนใจเข้าลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่ติดตั้งบนหลังคา (Solar Rooftop) ในประเทศไทยอีก 2 โครงการ ได้แก่ โครงการ SNNP 1 ที่อยู่ระหว่างก่อสร้างในจังหวัดสมุทรสาคร กำลังการผลิตติดตั้ง 384 กิโลวัตต์ และโครงการ SNNP 2 ที่อยู่ระหว่างพัฒนาและยังไม่เริ่มก่อสร้างในจังหวัดราชบุรี กำลังการผลิตติดตั้ง 998 กิโลวัตต์ ซึ่งทั้ง 2 โครงการ มีอัตรารับซื้อไฟฟ้าที่อ้างอิงอัตราตามค่าไฟฟ้าฐานขายปลีกจาก กฟภ. และค่า Ft ขายปลีกเฉลี่ย โดยมีบริษัท ศรีนานาพร มาร์เก็ตติ้ง จำกัด เป็นผู้รับซื้อไฟฟ้าระยะเวลา 25 ปี คาดว่าทั้ง 2 โครงการจะ COD ในไตรมาส 4/60

“เราให้ความสำคัญกับการลงทุนและพัฒนาบุคลากรเพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน โดยมีเป้าหมายขยายการลงทุนโรงไฟฟ้าครบ 200 MW ภายในปี 2563 เพื่อยกระดับสู่บริษัทพลังงานชั้นนำแห่งเอเชีย โดยจะเป็นผู้ผลิตและจัดหาพลังงานที่ยั่งยืนควบคู่กับการส่งเสริมสนับสนุนสิ่งแวดล้อมที่สะอาดอย่างมั่นคงเพื่อประโยชน์สูงสุดของสังคม” นายวรุตม์ กล่าว

นายแมนพงศ์ เสนาณรงค์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย เปิดเผยว่า การดำเนินธุรกิจของ SSP จะได้รับผลดีจากความต้องการใช้พลังงานไฟฟ้าในประเทศไทยและในประเทศญี่ปุ่นที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมถึงนโยบายของภาครัฐที่ให้การสนับสนุนการผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนอย่างต่อเนื่อง

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:  ssp  IPO  หุ้น 

หน้า: 1

 
ตอบ

ชื่อ:
 
แชร์ไป Facebook ด้วย
กระทู้:
ไอค่อนข้อความ:
ตัวหนาตัวเอียงตัวขีดเส้นใต้จัดย่อหน้าชิดซ้ายจัดย่อหน้ากึ่งกลางจัดย่อหน้าชิดขวา

 
 

[เพิ่มเติม]
แนบไฟล์: (แนบไฟล์เพิ่ม)
ไฟล์ที่อนุญาต: gif, jpg, jpeg
ขนาดไฟล์สูงสุดที่อนุญาต 20000000 KB : 4 ไฟล์ : ต่อความคิดเห็น
ติดตามกระทู้นี้ : ส่งไปที่อีเมลของสมาชิกสนุก
  ส่งไปที่
พิมพ์อักษรตามภาพ:
พิมพ์ตัวอักษรที่แสดงในรูปภาพ
 
:  
  • ข้อความของคุณอยู่ในกระทู้นี้
  • กระทู้ที่ถูกใส่กุญแจ
  • กระทู้ปกติ
  • กระทู้ติดหมุด
  • กระทู้น่าสนใจ (มีผู้ตอบมากกว่า 15 ครั้ง)
  • โพลล์
  • กระทู้น่าสนใจมาก (มีผู้ตอบมากกว่า 25 ครั้ง)
         
หากท่านพบเห็นการกระทำ หรือพฤติกรรมใด ๆ ที่ไม่เหมาะสม ซึ่งอาจก่อให้เกิดความเสื่อมเสียแก่สถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ รวมถึง การใช้ข้อความที่ไม่สุภาพ พฤติกรรมการหลอกลวง การเผยแพร่ภาพลามก อนาจาร หรือการกระทำใด ๆ ที่อาจก่อให้ผู้อื่น ได้รับความเสียหาย กรุณาแจ้งมาที่ แนะนำติชม