- พร้อมเดินหน้าสู่การปฏิวัติการจัดการการใช้ทรัพยากรโครงสร้างพื้นฐานร่วมกัน
ที่งาน HUAWEI CONNECT 2017 หัวเว่ยได้ประกาศเปิดตัวแพลตฟอร์มฮาร์ดแวร์ระบบคลาวด์อัจฉริยะรุ่นใหม่ภายใต้ชื่อ Atlas ซึ่งสามารถทำงานร่วมกับโซลูชั่นต่าง ๆ อาทิ คลาวด์สาธารณะ, ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และการประมวลผลศักยภาพสูง (HPC) ทั้งนี้ Atlas จะช่วยเสริมทัพให้กับเทคโนโลยีหลัก ๆ ไม่ว่าจะเป็นการใช้ทรัพยากรจากหลายแหล่งร่วมกัน และการประมวลข้อมูลอัจฉริยะ เพื่อยกระดับการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรฮาร์ดแวร์ พร้อมเพิ่มความยืดหยุ่นในการตอบสนองความต้องการด้านบริการ และด้วยกลยุทธ์ Boundless Computing ของหัวเว่ย แพลตฟอร์ม Atlas จะส่งให้หัวเว่ยก้าวขึ้นเป็นผู้นำในการปฏิวัติการจัดการการใช้ทรัพยากรโครงสร้างพื้นฐานร่วมกัน
ในปัจจุบัน โลกของเรามีการวิจัยและพัฒนาแอปพลิเคชัน AI กันมากขึ้น ส่งผลให้เทคโนโลยี AI และคลาวด์คอมพิวติ้งเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำของมนุษย์อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยเทคโนโลยี AI และคลาวด์ได้ถูกใช้กันอย่างแพร่หลายในรูปแบบต่าง ๆ อาทิ เมืองปลอดภัย การผลิตอัจฉริยะ ไปจนถึงเทคโนโลยียานยนต์ไร้คนขับ ขณะเดียวกัน เทคโนโลยีอัจริยะนี้ยังช่วยเปิดทางให้ระบบต่าง ๆ สามารถประมวลข้อมูลปริมาณมหาศาลในโลกที่มีการเชื่อมต่อกันอยู่ตลอดเวลานี้ได้แบบเรียลไทม์ ยกตัวอย่างเช่น เมืองใหญ่ที่มีการติดตั้งกล้องวงจรปิด 100,000 ตัว จะสามารถบันทึกภาพป้ายทะเบียนรถยนต์ได้ถึง 1 แสนล้านคัน และสามารถบันทึกใบหน้าของผู้คนได้ถึง 1 ล้านล้านคนต่อปี ด้วยเหตุนี้ จึงเป็นเรื่องที่ท้าทายอย่างยิ่งสำหรับระบบการประมวลผลแบบดั้งเดิม ทั้งในแง่ของประสิทธิภาพการทำงาน การสืบค้น และการวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่
แพลตฟอร์ม Atlas ซึ่งสร้างสรรค์ขึ้นเพื่อการทำงานร่วมกับคลาวด์สาธารณะ, AI และ HPC นั้น จะช่วยรับมือกับความท้าทายในด้านการประมวลผลข้อมูลขนาดใหญ่ในยุค AI ครองเมือง โดยแพลตฟอร์ม Atlas จะถูกขับเคลื่อนผ่านเซิร์ฟเวอร์ในตระกูล FusionServer G ซึ่งจะช่วยดึงเอาคุณประโยชน์ของเทคโนโลยีต่าง ๆ ออกมาใช้ได้มากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการจัดสรรทรัพยากรจากหลายแหล่ง และการประมวลข้อมูลอัจฉริยะเพื่อการใช้ทรัพยากรร่วมกัน เช่น GPUs, HDDs และ SSDs พร้อมเปิดให้ผู้ใช้งานสามารถปรับเปลี่ยนทรัพยากรของตัวเองได้ตามใจนึก เพื่อตอบโจทย์ทุกความต้องการที่แตกต่าง
ทั้งนี้ แพลตฟอร์ม Atlas มีประสิทธิภาพในการบริหารจัดการทรัพยากรสูงกว่าแพลตฟอร์มทั่วไปถึง 50% อีกทั้งยังมีศักยภาพในการทำงานสูงกว่าถึง 10 เท่าเมื่อเทียบกับสถาปัตยกรรม x86 แบบดั้งเดิม โดยช่วยลดประเภทอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ให้กับลูกค้าลงได้อย่างมาก นอกจากนี้ Atlas ยังสามารถจัดหาเซิร์ฟเวอร์ให้ตามความเหมาะสมขึ้นอยู่กับอัตราเปรียบเทียบโครงร่างภายนอกที่แตกต่างกัน และติดตั้งเซิร์ฟเวอร์ได้ภายในระยะเวลาไม่กี่วินาที ซึ่งเป็นการช่วยลดขั้นตอนการให้บริการได้อย่างมีนัยสำคัญ อีกทั้งยังเป็นการสร้างความพึงพอใจให้แก่ลูกค้าด้วยความยืดหยุ่นในการปรับเปลี่ยนการให้บริการ
"เนื่องจากยุคของ AI กำลังใกล้เข้ามา ฮาร์ดแวร์แบบเดิมจึงไม่สามารถตอบสนองความต้องการในด้านการพัฒนา AI และเทคโนโลยีคลาวด์ได้อีกต่อไป" คุณฉิว หลง ประธานกลุ่มผลิตภัณฑ์ไอทีเซิร์ฟเวอร์ของหัวเว่ย กล่าว "ด้วยจุดยืนในการเป็นแพลตฟอร์มฮาร์ดแวร์ระบบคลาวด์อัจฉริยะรุ่นใหม่ Atlas ของหัวเว่ยเป็นผู้บุกเบิกการรวมรวมทรัพยากรหลายรูปแบบและเป็นแหล่งรวมเทคโนโลยีอัจฉริยะ เพื่อยกระดับการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรและประสิทธิภาพที่มีอยู่ Atlas เป็นผลงานจากกลยุทธ์ Boundless Computing ของหัวเว่ย ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากแนวคิดในการทำให้ระบบคำนวณเรียบง่ายขึ้นผ่านการพัฒนานวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง และให้ความใส่ใจกับความต้องการของลูกค้าเพื่อที่จะได้สร้างเซิร์ฟเวอร์ที่มีความเสถียร เชื่อถือได้ และประสิทธิภาพสูง เพื่อช่วยให้ลูกค้าสามารถจัดการกับความท้าทายต่าง ๆ ในการเปลี่ยนผ่านเข้าสู่ยุค AI และคลาวด์ได้อย่างประสบความสำเร็จ"
การที่หัวเว่ยใช้กลยุทธ์ Boundless Computing ถือเป็นก้าวสำคัญในการสร้างโลกที่มีการเชื่อมต่อถึงกันดีขึ้น กลยุทธ์ดังกล่าวสนับสนุนการสร้างสรรค์นวัตกรรมเกี่ยวกับการประมวลผลและการใช้ประโยชน์จากชิปรูปแบบใหม่ๆ การประมวลผลต่างชนิดกัน และการประมวลผลปลายทาง (Edge Computing) เพื่อที่จะทลายข้อจำกัดของการคำนวณแบบดั้งเดิมที่ต้องอาศัยการใช้งานผ่าน CPU, เซิร์ฟเวอร์ และศูนย์ข้อมูล โดยภายในงาน HUAWEI CONNECT 2017 หัวเว่ยได้เปิดตัวบริการคลาวด์สาธารณะใหม่ล่าสุดหลายรายการที่ใช้แพลตฟอร์ม Atlas เช่น บริการคลาวด์ GPU และ FPGA ซึ่งเพิ่มศักยภาพของแอปพลิเคชั่น AI ด้วยขีดความสามารถของคลาวด์ และช่วยให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงบริการการประมวลผลที่แตกต่างกันได้อย่างสะดวกและรวดเร็วขึ้น
เซิร์ฟเวอร์ของหัวเว่ย และกลุ่มผลิตภัณฑ์ไอทีทั้งหมด ได้ผงาดขึ้นมาเป็นผลิตภัณฑ์กระแสหลักของวงการไอทีทั่วโลก หัวเว่ยนำเสนอโครงสร้างพื้นฐานไอทีที่เรียบง่ายแต่มีประสิทธิภาพ เพื่อช่วยให้บริษัทต่าง ๆ สามารถเปลี่ยนแปลงองค์กรสู่ดิจิทัลได้อย่างประสบผลสำเร็จ โดยขณะนี้มีบริษัท 197 แห่งที่ติดอันดับฟอร์จูน 500 และ 45 บริษัทในฟอร์จูน 100 เลือกหัวเว่ยเป็นพันธมิตรในการก้าวเข้าสู่ยุคดิจิทัล
ทั้งนี้ HUAWEI CONNECT ถือเป็นงานสำคัญสำหรับอุตสาหกรรม ICT ทั่วโลก จัดขึ้น ณ Shanghai New International Expo Centre ระหว่างวันที่ 5-7 กันยายน 2017 ภายใต้หัวข้อ "Grow with the Cloud" พร้อมทำหน้าที่เป็นเวทีระดับโลกสำหรับสำหรับความร่วมมือที่เปิดกว้าง โดยหัวเว่ยจะร่วมมือกับทั้งลูกค้าและพันธมิตรในการสำรวจโอกาสการเติบโตใหม่ ๆ ผ่านการพลิกโฉมธุรกิจสู่ดิจิทัล รับชมข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://www.huawei.com/en/events/huaweiconnect2017/
