หน้า: 1

ชนิดกระทู้ ผู้เขียน กระทู้: ผลการจัดการเรียนรู้แบบ CI ที่มีต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและความพึงพอใจ ในการเรียน  (อ่าน 109 ครั้ง)
add
เรทกระทู้
« เมื่อ: 14 ส.ค. 17, 09:29 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
Send E-mail

แบ่งปันกระทู้นี้ให้เพื่อนคุณอ่านไหมคะ?

ปิดปิด
 
ชื่อเรื่อง ผลการจัดการเรียนรู้แบบ CI ที่มีต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและความพึงพอใจ ในการเรียนสังคมศึกษา
เรื่อง อยู่อย่างพอเพียงจึงเพียงพอสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่1
ผู้วิจัย   นายธวัชชัย วงค์อุตส่าห์
ปีที่วิจัย ปีการศึกษา 2559
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) พัฒนากิจกรรมการเรียนรู้แบบ CI เรื่อง อยู่อย่างพอเพียง จึงเพียงพอ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 (2) ศึกษาดัชนีประสิทธิผล กิจกรรมการเรียนรู้แบบ CI เรื่อง อยู่อย่างพอเพียง จึงเพียงพอ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 (3) เปรียบเทียบ ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนก่อนและหลังจากการได้รับการสอนแบบ CI ที่พัฒนาขึ้น (4) ศึกษาระดับความพึงพอใจในการเรียนรู้ของนักเรียนตามรูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบ CI ที่ พัฒนาขึ้น
กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1/2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2559 โรงเรียนเทศบาล 3 ยุวบูรณ์บำรุง จังหวัดหนองคาย มีนักเรียนจำนวน 38 คน ซึ่ง ได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยแบ่งออกเป็น 3 ประเภท คือ 1) เครื่องมือที่ ใช้ในการทดลองปฏิบัติได้แก่ แผนการจัดการเรียนรู้ จำวน 12 แผน 2) เครื่องมือที่ใช้ในการ สะท้อนผลการปฏิบัติการสอนของครู ได้แก่ แบบบันทึกเหตุการณ์ขณะทำการสอนของครู แบบบันทึกการสังเกตพฤติกรรมการสอนของครูแบบบันทึกการสังเกตพฤติกรรมการเรียนของนักเรียน และแบบทดสอบย่อยหลังจากเรียนโดยใช้แผนการจัดการเรียนรู้และการสอนแบบ CI แต่ละเรื่อง 3) เครื่องมือที่ใช้ในการประเมินประสิทธิภาพของกิจกรรมการเรียนรู้ ได้แก่ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ ทางการเรียน จำนวน 30 ข้อ และแบบสอบถามวัดความพึงพอใจของนักเรียน การวิจัยครั้งนี้ใช้รูปแบบการวิจัยเชิงปฏิบัติการ ซึ่งมีวงจรปฏิบัติการวิจัยทั้งหมด 3 วงจร คือ วงจรปฏิบัติการที่ 1 ประกอบไปด้วยแผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1–4 วงจรปฏิบัติการที่ 2 ประกอบไป ด้วย แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 5–8 และวงจรปฏิบัติการที่ 3 ประกอบไปด้วย แผนการเรียนรู้ที่ 9–12 และเมื่อสิ้นสุดในแต่ละวงจรผู้วิจัยและผู้ช่วยวิจัยนำข้อมูลที่ได้มาวิเคราะห์และสะท้อนผลการ ปฏิบัติงานเพื่อปรับปรุงการเรียนการสอนในวงจรปฏิบัติการต่อไปให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น วิเคราะห์ข้อมูลโดยการวิเคราะห์หาค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และทดสอบความแตกต่างโดย การทดสอบที (t–test) คำนวณด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์SPSS for Windows
ผลการวิจัยพบว่า
1. กิจกรรมการจัดการเรียนรู้แบบ CI เรื่อง อยู่อย่างพอเพียง จึงเพียงพอ ชั้นมัธยมศึกษาปี ที่ 1 ที่ผู้วิจัยพัฒนาขึ้นมีประสิทธิภาพเท่ากับ 84.48/83.28 สูงกว่าเกณฑ์ที่ตั้งไว้
2. กิจกรรมการจัดการเรียนรู้แบบ CI เรื่อง อยู่อย่างพอเพียง จึงเพียงพอ ที่ผู้วิจัยพัฒนาขึ้นมี ค่าดัชนีประสิทธิผลเท่ากับ 0.62 แสดงว่า กิจกรรมการเรียนรู้ทำให้นักเรียนมีความรู้เพิ่มขึ้น ร้อยละ 62
3. นักเรียนที่เรียนโดยใช้กิจกรรมการเรียนรู้ แบบ CI มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียน สูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
4. นักเรียนที่ได้รับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบ CI มีความพึงพอใจในระดับมากที่สุด
noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
Tags:  

หน้า: 1

 
ตอบ
ชื่อ:
 
แชร์ไป Facebook ด้วย
กระทู้:
ไอค่อนข้อความ:
ตัวหนาตัวเอียงตัวขีดเส้นใต้จัดย่อหน้าชิดซ้ายจัดย่อหน้ากึ่งกลางจัดย่อหน้าชิดขวา

 
 

[เพิ่มเติม]
แนบไฟล์: (แนบไฟล์เพิ่ม)
ไฟล์ที่อนุญาต: gif, jpg, jpeg
ขนาดไฟล์สูงสุดที่อนุญาต 20000000 KB : 4 ไฟล์ : ต่อความคิดเห็น
พิมพ์อักษรตามภาพ:
พิมพ์ตัวอักษรที่แสดงในรูปภาพ
 
:   Go
  • ข้อความของคุณอยู่ในกระทู้นี้
  • กระทู้ที่ถูกใส่กุญแจ
  • กระทู้ปกติ
  • กระทู้ติดหมุด
  • กระทู้น่าสนใจ (มีผู้ตอบมากกว่า 15 ครั้ง)
  • โพลล์
  • กระทู้น่าสนใจมาก (มีผู้ตอบมากกว่า 25 ครั้ง)
         
หากท่านพบเห็นการกระทำ หรือพฤติกรรมใด ๆ ที่ไม่เหมาะสม ซึ่งอาจก่อให้เกิดความเสื่อมเสียแก่สถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ รวมถึง การใช้ข้อความที่ไม่สุภาพ พฤติกรรมการหลอกลวง การเผยแพร่ภาพลามก อนาจาร หรือการกระทำใด ๆ ที่อาจก่อให้ผู้อื่น ได้รับความเสียหาย กรุณาแจ้งมาที่ แนะนำติชม