การเดินทางเพื่อ เที่ยวชมถ้ำดาวดึงส์ กาญจนบุรี ใช้เส้นทางสายกาญจนบุรี-ไทรโยค-ทองผาภูมิ หรือทางหลวงหมายเลข 323 ไปยังท่าเสาตรงกิโลเมตรที่ 44-45 เยื้องกับสถานีน้ำตก แล้วจากนั้นเลี้ยวซ้ายที่แยกเข้าไปอีกประมาณ 2 กิโลเมตรถึงท่าเรือปากแซง แล้วใช้เรือหางยาวสัญจรทวนน้ำขึ้นไปประมาณ 1 ชั่วโมงจะถึงปากถ้ำละว้า หากนั่งเรือไปต่ออีก 1 ชั่วโมงก็จะถึงน้ำตกไทรโยค ที่ตั้งอยู่บนฝั่งขวาของแม่น้ำ และจากน้ำตกไทรโยคนั่งเรือไปอีกประมาณ 25 นาทีก็จะถึงท่าเรือขึ้น "ถ้ำดาวดึงส์" หรืออีกเส้นทางหนึ่งให้ขับรถต่อไปจนถึงกิโลเมตรที่ 55-56 เลี้ยวซ้ายเข้าโรงแรมหมู่บ้านแม่น้ำแควแล้วเช่าเรือที่นี่จะช่วยย่นระยะเวลาได้ประมาณ 40 นาที
ถ้ำดาวดึงส์ หนึ่ง
สถานที่ท่องเที่ยวกาญจนบุรี ที่มีชื่อเสียงของ
อุทยานแห่งชาติไทรโยค ที่มีเนื้อที่ 958 ตารางกิโลเมตรหรือ 598,750 ไร่ เป็นหนึ่งในถ้ำที่มีชื่อเสียง และงดงามที่สุดของประเทศไทย ถูกค้นพบโดยนาย สำลี คูหา ในปี พ.ศ. 2515 ภายในถ้ำมีความลึกประมาณ 100 เมตรถูกแบ่งออกเป็นห้องๆ ซึ่งมีชื่อเรียกตามลักษณะของหินงอกหินย้อยที่แตกต่างกันออกไป โดยทั่วไปจะมีสีขาว เช่น ห้องเจดีย์ ห้องโคมระย้า ห้องจีบม่านฟ้า เป็นต้น นอกจากห้องที่งดงามต่างๆ ของห้องดาวดึงส์แล้ว ภายในถ้ำยังพบสัตว์ที่ไม่ค่อยพบเห็นได้ทั่วไป เช่น แมงป่องไม่มีหาง จิ้งหรีดหนวดยาว ฯลฯ
ในส่วนของหินงอก หินย้อย ภายในถ้ำนั้น หินงอก มีลักษณะเป็นตะกอนหินปูนที่จัดตัวเป็นแท่งสูงจากพื้นถ้ำขึ้นไปหาเพดานถ้ำ เกิดจากหยดน้ำที่ไหลออกจากหินย้อยเมื่อหล่นถึงพื้นถ้ำจะเกิดการสูญเสียคาร์บอนไดออกไซด์ ทำให้สารประกอบคาร์บอเนตเกิดการสะสมตัวและค่อยๆ สูงขึ้นจากพื้นถ้ำ
ส่วน หินย้อย เป็นตะกอนหินปูนที่จับตัวเป็นแท่งหรือแผ่นย้อยลงมาจากเพดานถ้ำ เกิดจากน้ำใต้ดินที่มีหินปูนละลายอยู่หยดลงมาจากรอยแตกบนเพดานถ้ำ และเมื่อน้ำสูญเสียก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกไปก็จะทำให้เกิดสารประกอบคาร์บอเนตเริ่มสะสมตัวทีละน้อย และพอกยาวลงมาจากเพดานเรื่อยๆ โดยปกติมักมีลักษณะเป็นหลอดกลวงอยู่ตรงกลาง
นอกจากหินงอกและหินย้อยแล้ว ภายในถ้ำยังมีส่วนประกอบที่มีลักษณะต่างๆ ที่น่าศึกษา เช่น เสาหิน เป็นลักษณะของหินที่เป็นแท่งหรือเสายาวจากพื้นถ้ำจรดเพดานถ้ำ เกิดจากหินงอกหินย้อยมาบรรจบกัน หลอดหินย้อย เป็นสารหินปูนที่จัดตัวเป็นหลอดหรือท่อย้อยลงมาจากเพดานถ้ำ สารประกอบคาร์บอเนตที่เกิดจะมีการเรียงตัวของผลึกในแนวยาวและย้อยลงมาทำให้มีความยาวเพิ่มขึ้น ทำให้ดูคล้ายหลอดกลวงที่มีน้ำหยดออกมา
หินปูนฉาบ ตะกอนที่เกิดจากน้ำที่มีสารประกอบคาร์บอเนตไหลเป็นแผ่นบางๆ บนพื้นผิวของพื้นถ้ำ ทางที่ไหลอาจจะมีสิ่งกีดขวางอยู่ ทำให้หินปูนจับตัวเข้ากับสิ่งเหล่านั้นมากขึ้นเรื่อยๆ จนมีลักษณะเป็นชั้นๆ ซึ่งมักจะประกอบไปด้วยหินทราเวอร์ทีน ซึ่งเป็นอีกรูปหนึ่งของสารประกอบคาร์บอเนต นอกจากนี้อาจจะมีการตกตะกอนบริเวณตอนบนที่มีน้ำไหลเอ่อล้นลงมา ทำให้หินปูนจับตัวมีรูปร่างคล้ายม่าน หรือ เป็นแผ่นบางๆ แนวตั้งที่ซ้อนกันหลายขั้น คล้ายเห็ดที่ขึ้นตามขอนไม้
ม่านถ้ำหรือม่านหินย้อย เกิดจากน้ำที่มีสารคาร์บอเนตสูงที่ไหลตามผนังที่เอียงซึ่งเกิดจากแรงตึง ผิวของน้ำ เมื่อน้ำเกิดสูญเสียก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จึงทำให้เกิดการตกตะกอนของสาร ประกอบคาร์บอเนต มีลักษณะเป็นแผ่นบางๆ ย้อยลงมาจากเพดานถ้ำติดกันเป็นผืนมีความยายและมักโปร่งแสง มีสีขาวขุ่นหรือขาวเหลือง
และทำนบและหินปูน เกิดขึ้นจากน้ำไหลผ่านพื้นเอียง และเมื่อมีสิ่งกีดขวางทางน้ำเช่น กรวด ทราย จึงทำให้เกิดผลึกขึ้นและเขื่อนเล็กๆ เขื่อนเล็กเหล่านี้จะเป็นเครื่องกีดขวาง ทำให้ผลึกมาเกาะตัวมากขึ้น ซึ่งบางครั้งเกิดแอ่งที่มีเขื่อนกั้นขนาดใหญ่เป็นชั้นๆ และมีน้ำตกอยู่ระหว่างชั้นเหล่านั้น ขนาดของทำนบหินปูนขึ้นกับความชันของพื้นเอียงที่แอ่งน้ำเกิดขึ้น แอ่งใหญ่เกิดในพื้นที่เอียงน้อย แอ่งเล็กเกิดในพื้นที่ชันมาก ทำนบหินปูนส่วนมากจะมีความยาวประมาณสองเท่าของความกว้าง และมักพบผลึกแคลไซต์เคลือบอยู่ภายใน จึงเรียกว่า อ่างผลึก ทำนบและหินปูนนี้เกิดนอกถ้ำได้
สำหรับภายในถ้ำดาวดึงส์นั้น อากาศค่อนข้างโปร่งและถ่ายเท แต่แสงจะมืดสนิทจึงต้องอาศัยตะเกียงและคนนำทางเข้าไปชม และหากมาเที่ยวที่ถ้ำดาวดึงส์ แล้วท่านสามารถจัดเป็นทริปท่องเที่ยวต่อกันได้ เนื่องจากแถวๆ นั้น มีสถานที่ท่องเที่ยวอย่างน้ำตกไทรโยค และถ้ำละว้า ซึ่งก็เป็นเส้นทางที่เอื้ออำนวยต่อกันอย่างสะดวก
เรียกได้ว่ามาเที่ยวกันที่นี้ นอกจากถ้ำดาวดึงส์แล้ว ก็ยังมีที่
เที่ยวกาญจนบุรี อื่นๆ ให้เลือกไปเที่ยวชม พักผ่อนอีกมากมาย
Cr. http://www.teepucks.com/webboard/board,22.0.html