ชาน, ลิกเตนสไตน์ และเทเนโร, สวิตเซอร์แลนด์--12 ต.ค.--พีอาร์นิวส์ไวร์/อินโฟเควสท์
มีแผนสร้างศูนย์วิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีโฟลว์เซลล์แห่งใหม่ในเมืองเทเนโร เขตทิชิโน ทางตอนใต้ของสวิตเซอร์แลนด์
- เริ่มก่อสร้างต้นปี 2559 คาดว่าจะสร้างเสร็จในปี 2561
- เปิดรับวิศวกร นักวิจัย และทนายความถึง 200 ตำแหน่ง
- มีเป้าหมายเพื่อพัฒนาเทคโนโลยี nanoFlowcell(R) ให้มีการใช้งานหลากหลายยิ่งขึ้น
- ดำเนินการผลิต QUANT ล็อตเล็ก ในรูปแบบชิ้นส่วนประกอบมาตรฐาน (modular design)
นาโนโฟลว์เซลล์ เอจี ประกาศแผนงานประจำปี 2559 ซึ่งรวมถึงการสร้างศูนย์วิจัยและพัฒนาอันล้ำสมัยในชื่อ "QUANT City" ที่เมืองเทเนโร ในเขตทิชิโนของสวิตเซอร์แลนด์ ศูนย์ QUANT City ที่มีพื้นที่กว่า 25,000 ตารางเมตร จะมุ่งเน้นไปที่การวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีโฟลว์เซลล์ รวมถึงการทดสอบการใช้งานในรูปแบบใหม่ให้กับ nanoFlowcell(R) ซึ่งเป็นการสร้างพลังงานไฟฟ้าจากของเหลวไอออนิกสองประเภทผ่านกระบวนการทางเคมี ปัจจุบันโครงการดังกล่าวอยู่ระหว่างการรอลงนามในสัญญาเพื่อซื้อสถานที่ก่อตั้ง โดยมีแผนดำเนินการก่อสร้างเสร็จสิ้นในปี 2561 ศูนย์แห่งใหม่ในทิชิโนนั้นคาดว่าจะมีการเปิดรับพนักงานใหม่ราว 150-200 คน ไม่ว่าจะเป็นวิศวกร นักวิจัย และทนายความ ที่ล้วนมีบทบาททางอ้อมในการสร้างหรือปกป้องงานอีกประมาณ 2,500 ตำแหน่ง ร่วมกับเหล่าซัพพลายเออร์และผู้ให้บริการในพื้นที่รอบเขตทิชิโน
(รูปภาพ: http://photos.prnewswire.com/prnh/20151007/274951 )
(รูปภาพ: http://photos.prnewswire.com/prnh/20151007/274952 )
การก่อตั้งศูนย์สำหรับการวิจัย พัฒนา และการผลิตอันล้ำสมัยนี้ เป็นความตั้งใจของนาโนโฟลว์เซลล์ เอจี ที่จะผลักดันการใช้เทคโนโลยี nanoFlowcell(R) สำหรับอุตสาหกรรมและผู้บริโภค ในรูปแบบต่างๆให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาสำหรับการใช้งานในภาคยานยนต์ ระบบพลังงานสำหรับอาคาร ไปจนถึงการใช้งานด้านการขนส่ง อากาศยาน และการจราจรทางรถไฟ ทางคณะนักวิจัยและนักพัฒนาที่ QUANT City พร้อมแสวงหาการใช้งานในรูปแบบใหม่ที่ช่วยลดต้นทุนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมขับเคลื่อนให้สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นจริงต่อไป
นุนซิโอ ลา เวคเคีย ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคนิคของนาโนโฟลว์เซลล์ เอจี ได้กล่าวอย่างกระตือรือร้นและมีทัศนคติที่ดีต่ออนาคตว่า "ด้วย nanoFlowcell(R) เราจึงมีศักยภาพในการสร้างสรรค์เทคโนโลยีพลังงานที่มีความแปลกใหม่ ยั่งยืน และทนทานที่สุดในโลก ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่สามารถใช้งานได้อย่างรอบด้าน โดยทาง QUANT City จะยังคงเดินหน้าพัฒนาและขับเคลื่อนเพื่อเปิดตัวต่อตลาดต่อไป ทั้งนี้ เพื่อสานต่อความเป็นเลิศในการวิจัยของเรา QUANT City จะทำหน้าที่เป็นโครงสร้างพื้นฐานพร้อมคุณสมบัติทางเทคนิคและวิทยาศาสตร์ที่มีความจำเป็นต่อความสำเร็จของเรา"
ศูนย์วิจัยและพัฒนา QUANT City เป็นไปตามแผนงานทั้งด้านการใช้ประโยชน์ในที่ดินและการพัฒนาธุรกิจระดับภูมิภาค และมีแผนดำเนินการก่อสร้างเสร็จสิ้นในช่วงกลางปี 2561 นอกจากนี้ทางการเมืองเทเนโรยังได้แสดงความสนใจในโครงการก่อสร้างดังกล่าว โดยนาโนรีเซิร์ช เอสเอ (nanoResearch SA) บริษัทที่ก่อตั้งขึ้นใหม่ในเครือของนาโนโฟลว์เซลล์ เอจี จะทำหน้าที่เป็นผู้ควบคุมดูแลศูนย์แห่งใหม่นี้
นาโนรีเซิร์ช เอสเอ
นาโนรีเซิร์ช เอสเอ จะรับผิดชอบในส่วนของการวิจัยและพัฒนา โดยนอกเหนือจากการยกระดับการพัฒนาเทคโนโลยี nanoFlowcell(R) แล้ว บริษัทที่เพิ่งก่อตั้งขึ้นเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2557 ยังดูแลด้านการขอสิทธิบัตรและการอนุญาตใช้สิทธิสำหรับเทคโนโลยี nanoFlowcell ด้วยเหตุนี้เอง QUANT City จึงเปิดรับเหล่าตัวแทนผู้ยื่นขอจดสิทธิบัตรและทนายความระหว่างประเทศเข้ามาทำงานร่วมกัน
บรรลุเป้าหมายด้วยความเป็นจริงเสมือน
ความเป็นจริงเสมือน (Virtual reality) จะเป็นจุดสนใจหลักในโครงการวิจัยของ QUANT City และเพื่อสานต่อการบูรณาการระหว่างการวิจัยกับการพัฒนาในศูนย์แห่งใหม่นี้ นาโนโฟลว์เซลล์ เอจี จะย้ายศูนย์ปฏิบัติการเดิม "nanoFlowcell DigiLab" จากซูริกไปยังเทเนโร โดยบทบาทสำคัญตามหลักการความเป็นจริงเสมือนนั้น ปรากฎให้เห็นผ่านการนำเสนอความเป็นจริงด้วยกราฟิก รวมถึงลักษณะเฉพาะทางกายภาพและเคมีในสภาพแวดล้อมแบบอินเทอร์แอคทีฟและเสมือนจริง สิ่งที่ว่านี้จะครอบคลุมทั้งการทำให้เกิดผลทางกราฟิก ตลอดจนการนำเสนอ และการประเมินผลลัพธ์จากคอมพิวเตอร์แบบเรียลไทม์ในด้านกิจกรรมการวิจัยและพัฒนา ซึ่งจะมีการใช้ภาพเคลื่อนไหวแบบสามมิติและซอฟต์แวร์จำลองอันล้ำสมัยในการดำเนินงานดังกล่าว
ความเป็นจริงเสมือนน่าจะเข้ามาช่วยขับเคลื่อนฮาร์ดแวร์ nanoFlowcell(R) ให้สามารถรองรับการใช้งานได้หลากหลายยิ่งขึ้น โดยซีทีโอ นุนซิโอ ลา เวคเคีย กล่าวว่า "เนื่องจาก nanoFlowcell(R) ไม่มีชิ้นส่วนที่เคลื่อนไหวได้ ในทางทฤษฎีแล้วก็ไม่น่าจะมีข้อจำกัดในการปรับขนาดระบบพลังงานนี้ เราอาจมีขนาดเล็กแต่ก็สามารถสร้างความยิ่งใหญ่ได้เช่นกัน และนั่นคือสิ่งที่จะได้รับการกระตุ้น ตรวจสอบ และทดสอบในการวิจัยด้านความเป็นจริงเสมือน"
ดำเนินการผลิตรถสปอร์ตตระกูล QUANT ล็อตเล็กในรูปแบบชิ้นส่วนประกอบมาตรฐาน
ขณะนี้ทางทีมงานของนุนซิโอ ลา เวคเคีย กำลังทำงานอย่างหนักเพื่อขอรับการอนุมัติในการผลิต QUANT F พร้อมเทคโนโลยี nanoFlowcell(R) หลังจากที่รถรุ่นก่อนหน้านี้อย่าง QUANT E ได้รับการอนุมัติจาก TUEV ในเยอรมนีเพื่อการใช้งานส่วนบุคคลในเยอรมนีและยุโรปมาแล้ว โดยรถ QUANT รุ่นใหม่นี้จะดำเนินการผลิตล็อตเล็กใน QUANT City ทันทีที่ได้รับการอนุมัติให้ผลิตได้
ชิ้นส่วนประกอบมาตรฐานของ QUANT จะผลิตขึ้นที่นี่ ซึ่งหมายความว่าชิ้นส่วนประกอบสำเร็จอย่างแชสซี ระบบเพลารถ ระบบภายในตัวรถและเครื่องยนต์ ตลอดจนชิ้นส่วนเกียร์นั้นจะถูกส่งแบบ pre-manufactured มายัง QUANT City เพื่อดำเนินการประกอบชิ้นส่วนขั้นสุดท้ายต่อไป
นุนซิโอ ลา เวคเคีย กล่าวว่า "เราเลือกที่จะผลิตแบบล็อตเล็กที่ศูนย์เทเนโร เพื่อให้เราสามารถดำเนินการต่อได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยการยกระดับความก้าวหน้าของ nanoFlowcell(R) ในแวดวงยานยนต์ การผลิตในลักษณะนี้เป็นผลดีต่อสิ่งแวดล้อม"
