เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม 2558 ที่ตึกนารีสโมสร ทำเนียบรัฐบาล น.ส.เรณู ตังคจิวางกูร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง พร้อมด้วยนพ.อำนวย กาจีนะ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข นพ.ธวัชชัย กมลธรรม อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก และนายอภินันท์ โปษยานนท์ ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม ร่วมแถลงข่าวจัดงานมหกรรม “เมืองสุขภาพดี วิถีชุมชน” บริเวณริมคลองผดุงกรุงเกษมข้าง ทำเนียบรัฐบาล ระหว่างวันที่ 7-26 กรกฎาคมนี้
น.ส.เรณู กล่าวว่า ตลาดข้างคลองผดุงกรุงเกษม และถนนสายวัฒนธรรมที่ผ่านมา ได้รับการตอบรับดี ซึ่งระหว่างวันที่ 7-26 ก.ค.นี้ จะมีกิจกรรม “เมืองสุขภาพดีวิถีชุมชน” โดยวันจันทร์-พฤหัส จัดขึ้นในเวลา 10.00 -18.00 น. ขณะที่วันศุกร์-อาทิตย์ เริ่มเวลา 10.00-21.00 น. โดยพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) จะเป็นประธานเปิดงานในวันที่ 7 กรกฎาคมนี้ พร้อมมีบริการสัญจรทางน้ำ เพื่อมายังตลาดคลองผดุงกรุงเกษม โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายที่ท่าเรือหัวลำโพง มายังทำเนียบรัฐบาล ตั้งแต่ 08.30-19.00 น. อีกด้วย
ด้าน นพ.อำนวย กล่าวว่า งานนี้จัดขึ้นโดยกระทรวงสาธารณสุข เพื่อสร้างความเชื่อมั่นมาตรฐานสินค้าและบริการการแพทย์แผนไทย และการแพทย์ผสมผสานสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจจากบริการ และผลิตภัณฑ์สมุนไพรที่มีคุณภาพ ความปลอดภัยและยังเป็นการสร้างวัฒนธรรมการดูแลสุขภาพด้วยการแพทย์แผนไทยฯ
ภายในงานจะมีการนำเสนอสินค้าบริการสุขภาพ ที่เกี่ยวข้องกับแพทย์แผนไทย และภูมิปัญญาไทย อาทิ การนวดแผนไทย ผลิตภัณฑ์สมุนไพรเพื่อสุขภาพ พร้อมกับวัฒนธรรม รวมถึงจะมีการฉีดวัคซีนโรคคอตีบบาดทะยัก ฟรีทุกวัน
ขณะที่ นพ.ธวัชชัย กล่าวว่า ในสัปดาห์แรกคือ "อารยะธรรมแพทย์แผนไทยก้าวไกลสู่สากล" จะมีการจับคู่ผู้ผลิตและผู้ซื้อสมุนไพร พร้อมทั้งแจกและขายสมุนไพร โดยมียาสมุนไพรราคาพิเศษมาวางขาย รวมทั้งองค์การเภสัชกรรม จะนำยาที่ลดราคาพิเศษมาวางจำหน่าย รวมถึงจะมีการแจกต้นกล้าสมุนไพรฟรี เช่น “ต้นพรมมิ” ป้องกันโรคสมองเสื่อม
ช่วงสัปดาห์ที่ 2 คือ "ชุมชนไทยห่างไกลอัลไซเมอร์" มีคลินิกให้คำปรึกษา ตรวจประเมินกลุ่มเสี่ยง แนะนำการออกกำลังกายต้านอัลไซเมอร์ พร้อมจำหน่ายยาบำบัดอัลไซเมอร์ในราคาย่อมเยา
ช่วงสัปดาห์ที่ 3 คือ "วิถีไทย วิถีชุมชน" เป็นสัปดาห์ความงาม มีการตรวจสภาพผิว ทำสปาหน้าผลิตภัณฑ์เพื่อความงาม ฝังเข็ม เมนูสุขภาพ และอื่น ๆ นอกจากนี้ภายในงานยังมีการจัดจำหน่ายต้นกฤษณา ที่มีอายุถึง 148 ปี ในราคา 5 ล้านบาท รวมถึงน้ำสมุนไพรจากต้นกฤษณาที่ส่งออกไปยังประเทศตะวันออกกลางเพื่อสกัดเป็นน้ำหอมในราคาลิตรละ 1 ล้านบาท