
จากร้านอาหารไทยที่มีชื่อเสียงในซานฟรานซิสโก “Osha” ได้เปิดตัวร้านอาหารไทยที่ไม่ธรรมดากับการนำเสนอเมนูต่างๆอย่างสร้างสรรค์ เปลี่ยนอาหารไทยแบบเดิมๆให้มีภาพลักษณ์ที่น่าสนใจมากขึ้นใครที่ได้มาสัมผัสรับรองว่าจะได้รับความประทับใจแน่นอนกับหน้าตาอาหารและรูปแบบการจัดจาน

เดินเข้าร้านมาจะเจอกับแชมเปญ Moet & Chandon เรียงรายสะดุดตาอยู่ที่ประตูด้านหน้า ร้านตก
แต่งให้ดูทันสมัยแต่คงเอกลักษณ์ความเป็นไทยไว้อย่างชัดเจน ดูสวยงามและแปลกตา


ด้วยโคมไฟที่ลักษณะคล้ายกับระฆังวัด กับระเบียงที่นั่งสีดำโค้งมนราวกับบาตรพระ ถือว่าสร้างสรรค์มาก ประกอบกับภาพวาดฝาผนังเป็นเรื่องราววรรณคดีไทย สร้างบรรยากาศที่แสนพิเศษให้กับมื้ออาหารของคุณให้กลิ่นอายความเป็นไทยที่ผสานกับความเป็นโมเดรินได้อย่างลงตัว

นอกจากนี้ทางร้านยังจัดที่นั่งสำหรับโซน Out door สำหรับใครที่ชอบนั่งกินบรรยากาศรับลมภายนอก ทางร้านก็มีส่วนนี้เปิดไว้บริการการค่ะ

และไฮไลท์ของที่นี่เลยที่สะดุดตาใครต่อใครตั้งแต่ก้าวแรกที่เดินเข้ามา คือ โคมไฟชฏาอันใหญ่ยักษ์ รับกับบันไดโค้งมน ที่ใครๆเห็นก็อดไม่ได้ที่จะต้องมาถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกัน

ดื่มด่ำกับบรรยากาศร้านกันเต็มที่แล้ว ถึงเวลาลิ้มรสอาหาร ของทางร้านกันบ้างนะคะ จากชื่อร้าน “โอชา” ที่แปลว่า อร่อย หรือ รสชาติที่เป็นเลิศแล้ว อาหารที่ทางร้านบรรจงสร้างสรรค์มานำเสนอต้องโอชาไม่เสียชื่อร้านอย่างแน่นอนค่ะ
โดยผู้รังสรรค์สร้างศิลปะบนจานอาหารคือเชฟ หนุ่ม ธนินธร จันทรวรรณ ผู้มีประสบการณ์ในการทำอาหารจากร้านอาหารชื่อดังในกรุงลอนดอน สำหรับใครที่เป็นแฟนรายการเชฟกระทะเหล็ก ต้องรู้จักเชฟหนุ่มอย่างแน่นอน โดยสไตล์การทำอาหารที่เชฟหนุ่มถนัดนั้นคือ การปรุงอาหารไทยแบบ Molecular Gastronomy หรือเป็นการนำหลักการทางวิทยาศาตร์เข้ามาช่วยในการปรุงแต่งและนำเสนออาหารแต่ละจานให้ออกมามีลักษณะที่โดดเด่นและน่าสนใจ

เรียกน้ำย่อยกันที่จานแรก ”กุ้งแช่น้ำปลา” กุ้งสดๆ นำไปลวกใน ลิควิด ไฮโดรเจนเพื่อให้เกิดความคาวที่น้อยลง พิเศษตรงตัวน้ำราดที่ปกติจะเป็นน้ำราดธรรมดา แต่ของที่นี่จะเป็นการนำเอาพริกขี้หนูสามพราน มะนาวสามพรานมาทำเป็นซอร์เบย์ เพื่อลดความเผ็ดร้อนลง เสริฟมาพร้อมกับแตญี่ปุ่นกับแรดิชสไลด์บาง

จานต่อมาเป็น “ปลาหมึกผัดไข่เค็ม” ที่นำปลาหมึกไปทอดจนกรอบผัดกับซอสไข่เค็มไชยา ก่อนทานก็บีบมะนาวเพิ่มรสซักนิด เสน่ห์ของจานนี้อยู่ที่Smokeที่มาจากมะพร้าวเผาทุกครั้งที่เราตักจะมีควันออกมา เป็น Background Flavor หอมมะพร้าวเผาเคล้ากับความมันของไข่เค็มและความกรุบกรอบของปลาหมึก

“ยำเนื้อ” จากเนื้อเกรดดีทำเป็นบรีฟสลัดแบบไทยๆเสริฟกับมะเขืออ่อน ตามด้วยอาติโช๊คที่ราดมาชุ่มๆสอดแทรกอยู่ข้างของทุกคำ แต่ยังคงรสชาติความเป็นไทยอยู่ ใครที่ชอบทานเนื้อต้องลองจานนี้ดูนะคะ

ต่อกันที่ “หอยนางรมสุราษฏร์” จานนี้เชฟได้นำเอาหอยนางรมไปPoachedในอุณหภูมิที่ต่ำ จากนั้นก็นำน้ำที่ได้จากหอยนางรมมาขยำกับใบหมาน้อย ซึ่งเป็นสมุนไพรพื้นบ้าน จนใบหมาน้อยฟอร์มรูปเป็นเจลลี่ พอเวลาที่เราทานจะได้รสสัมผัสคล้ายกับเจลลี่ทานคู่กับหอยนางรม เพิ่มความหอมจากน้ำมะกรูด โรยหน้าด้วยใบกระถินและหอมเจียว ทุกอย่างรวมกันได้ลงตัวมากค่ะ

ในส่วนของเครื่องดื่ม สำหรับใครที่ชอบทาน ไวน์ แชมเปญ บรั่นดี หรือจะเป็นค๊อกเทล ทางร้านก็มีให้เลือกหลากหลายนะคะ

“ OCHA CHADA”
แก้วนี้เรียกว่าเป็น signature ของทางร้านก็ว่าได้ ส่วนผสมเป็น Maekong Rum, Fresh Passion Fruit Juice, Apple Juice, Vanilla Syrup และ Lemon To Taste แก้วนี้ รัมเป็นตัวชูโรงตัดกับน้ำเสารสสด ที่ให้ความเปรี้ยวอมหวานนิดๆ กับกลิ่นเฉพาะตัวของเสาวรส และความหอมของวานิลา เสริฟมาในแก้วที่ดูลงตัว ประดับด้วยชฏาสูงเหนือแก้วเก๋มากๆค่ะ

แถมอีกนิดสำหรับช่วงเทศกาลพิเศษต่างๆ ทางร้านก็ได้จัดเตรียมเมนูพิเศษไว้ให้ด้วยค่ะ หากใครที่ชอบทานอาหารไทยต้องไม่พลาดร้านนี้นะคะ เพราะท่านจะได้รับประสบการณ์ที่แสนพิเศษที่แตกต่างจากอาหารไทยทั่วไปที่ท่านเคยสัมผัสอย่างแน่นอน
OSHA BANGKOK