นายชัยพรเล่าชีวิตที่ ผันผวนให้ฟังด้วยว่า แม้จะเป็นคนที่มีความสามารถด้านการศึกษา แต่อาภัพในเรื่องความรัก ทั้งอดีตเป็นคนที่เคยดื่มสุราอย่างหนักมาก่อน เมื่อเรียนจบจากสหรัฐฯ ได้พบรัก
แต่งงานอยู่กินกับอดีตลูกจ้างกระทรวงสาธารณสุขคนหนึ่ง จนมีบุตรสาว 2 คน แต่ด้วยความไม่เข้าใจกัน ประกอบกับเป็นคนที่มีอารมณ์โกรธรุนแรง โดยเฉพาะช่วงที่ดื่มสุรา ทำให้ชีวิตคู่เกิดปัญหา ที่สุดก็ต้องหย่าร้างกัน ด้วยความเสียใจ จึงตัดสินใจลาออกจากกระทรวงสาธารณสุข ไปทำงานเป็นผู้จัดการอยู่ที่สถาบันแม็คเคน เพื่อการฟื้นฟูสภาพ จ.เชียงใหม่ ดูแลผู้ป่วยโรคเรื้อน โดยทิ้งครอบครัวและลูกออกจากบ้านไปไม่เคยกลับไปพบอีกเลย ปัจจุบันบุตรสาวทั้งคู่จบการศึกษาระดับปริญญาตรี โดยคนสุดท้องมีอาชีพเป็นพยาบาล
แม้จะอายุร่วม 80 ปี แต่อดีตข้าราชการจบโทเมืองนอก ยังจดจำเรื่องราวของตัวเองในอดีตได้เป็นอย่างดี โดยกล่าวว่า หลังออกจากราชการมาได้หลายปี ที่สุดก็กลับมาเข้ารับราชการอีก จนเกษียณในตำแหน่งนักวิชาการสุขาภิบาล 5 สำนักงานสาธารณสุขเชียงใหม่ ชีวิตช่วงนั้นเนื่องจากไม่มีครอบครัว จึงไปพักอาศัยอยู่ กับญาติใน จ.เชียงใหม่ แต่เป็นคนที่ไม่ชอบรบกวนใคร จึงตัดสินใจออกมาทำงานอาสาสมัครในมูลนิธิวัดสวนแก้ว จ.นนทบุรี และด้วยความมีนิสัยส่วนตัวที่มีความเห็นขัดแย้งกับคนอื่น สุดท้ายก็ออกมา ในที่สุดด้วยความต้องการที่จะมีอิสระกับการเดินทางท่องเที่ยวอย่างอิสระใน ชีวิต ประกอบกับความฝังใจกับเรื่องล้มเหลวในชีวิตครอบครัว จึงตัดสินใจมาอยู่ที่สนามหลวง เมื่อปี 2550 จากนั้นอยู่ต่อมาเรื่อยๆจนปัจจุบัน ทุกวันนี้ทรัพย์สินที่ติดตัวมีเพียงเสื้อผ้า 2 ชุด กับหนังสือดิกชันนารี ที่เก็บเอาไว้ อ่านทบทวนความรู้
โพสจัง