Bloomberg รายงาน บาทอ่อนตัว หุ้นตก เพราะนักลงทุนหันหลังให้กับประเทศไทยหลังจากมีคำสั่งศาลตัดสินให้นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร พ้นจากสภาพความเป็นรักษาการนายกรัฐมนตรี โดยหวั่นว่าเป็นคำสั่งที่อาจจะทำให้สถานการณ์ทางการเมืองย่ำแย่ลง
บทความต้นฉบับสามารถหาอ่านได้ที่นี่: http://www.bloomberg.com/news/2014-05-07/thai-crisis-flashes-short-signal-to-em-quest-rmg.html
“รัฐบาลรักษาการณ์ได้แต่งตั้งนายกรัฐมนตรีรักษาการณ์ขึ้นมาหลังจากนางสาวยิ่งลักษณ์ถูกถอดถอนเนื่องด้วยสาเหตุการใช้อำนาจในทางมิชอบจากการย้ายข้าราชการระดับสูงในปี 2011 บริษัทมูดีส์ (Moody’s Investor Service) กล่าวว่า คำตัดสินศาลครั้งนี้มีผลในทางลบต่อการจัดอันดับเครดิตของประเทศไทย เนื่องจากว่าการตัดสินครั้งนี้จะยังไม่ก่อให้เกิดทางออกภายในเร็วไว ในขณะที่บริษัทเงินทุน EM Quest ระบุว่าพวกเขาได้ซื้อสวอปการผิดชำระหนี้ (Default Swap) และขายเงินบาท”
นักวิจัยทางการเงินท่านหนึ่งกล่าวว่า “มีความเป็นไปได้ว่าสุญญากาศทางการเมืองจะมีต่อไป ซึ่งจะทำให้การสนับสนุนทางการคลังเป็นไปได้ยากขึ้น การถอดถอนนายกยิ่งลักษณ์ครั้งนี้ทำให้เป็นไปได้ยากขึ้นที่นักลงทุนต่างชาติจะมาซื้อสินทรัพย์ไทย”
สภาวะทางการเมืองได้ทำให้นักลงทุนต่างชาติถอนเงินออกจากประเทศไทยไปมากกว่า 234 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในวันที่ 7 พฤษภาคม ซึ่งเป็นการถอนเงินสูงที่สุดในรอบสองเดือน
แต่ถึงแม้ว่าในวันที่ 8 พฤษภาคม หลังจากศาลจะมีคำพิพากษาออกมาและตลาดหุ้นก็ไมไ่ด้เปลี่ยนแปลงมาก นักลงทุนก็ไม่ควรที่จะนิ่งนอนใจ โดย EM Quest กล่าวว่า “นี่เป็นสัญญาณให้ขายอย่างแน่นอน มีสุญญากาศทางการเมืองเกิดขึ้น ความเสี่ยงที่จะโดนลดอันดับเครดิตของประเทศ อัตราการลงทุนที่ลดลง และอัตราการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจที่ลดลง สิ่งเหล่านี้เป็นปัจจัยลบต่อเงินบาท”
ในขณะเดียวกัน FinanceAsia ชี้ว่าการปลดนายกยิ่งลักษณ์ออกจากตำแหน่งจะทำให้ตลาดทุนไทยเงียบเหงาในช่วงครึ่งปีหลัง โดยนอกจาก Moody’s แล้ว ยังมี S&P ที่ออกมาประกาศเช่นเดียวกันว่าการปลดนายกครั้งนี้มีผลในทางลบต่อการจัดอันดับเครดิตของประเทศ
นับตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบันมีหุ้นกู้ออกสู่ตลาดเพียงแค่ 7.7 พันล้านเหรียญสหรัฐ เทียบกับในปีก่อนซึ่งมีมูลค่าสูงถึง 24.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ เช่นเดียวกัน ตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน IPO ในตลาดหุ้นมีมูลค่าเพียงแค่ 1.3 พันล้านเหรียญสหรัฐ เมื่อเทียบกับ 7 พันล้านเหรียฐสหรัฐในปีก่อน
แม้แต่การควบรวมกิจการก็หยุดชะงัก ตัวอย่างเช่นข้อตกลงขายหุ้นธนาคารทหารไทยของบริษัท ING
เช่นเดียวกันสถานการณ์ทางการเมืองที่ย่ำแย่ของประเทศไทย ผลักดันให้บริษัทสัญชาติไทยต่างๆเริ่มหันไปมองตลาดต่างประเทศเพื่อเพิ่มยอดขาย
บทความต้นฉบับจาก FinanceAsia สามารถหาอ่านได้ที่นี่: http://www.financeasia.com/News/384957,yingluck-ouster-adds-to-thai-deal-flow-drag.aspx