หน้า: 1

ชนิดกระทู้ ผู้เขียน กระทู้: คืบหน้า สองมือระเบิด..พลีชีพ..เขาเป็นใคร..?  (อ่าน 5319 ครั้ง)
add
เรทกระทู้
« เมื่อ: 30 มี.ค. 14, 21:02 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
Send E-mail

แบ่งปันกระทู้นี้ให้เพื่อนคุณอ่านไหมคะ?

ปิดปิด
 
หลังจากมีกลุ่มเสื้อแดงบางกลุ่มพยายามโยงว่าเป็นคนใต้ที่กำนันสุเทพจ้างมา..ล่าสุดความจริงก็ปรากฎ..!!



ผู้เสียชีวิต 2 คน จากเหตุระเบิด ริมถ. ราษฎร์อุทิศ ย่านมีนบุรี มีผู้เสียชีวิต 2 คน (คืนวันที่ 29 มีนาคม 57)

นายเกรียงไกร สินอำนวย อายุ 50ปี บ้านเลขที่ 3/518 ม.14 ต.เมืองเกีา อ.เมืองขอนแก่น




นายบุญเลื่อน ปิ่นตา อายุ41ปี บ้านเลขที่ 57/3 ม.2 ต.แม่ทราย อ.ร้องกวาง แพร่



up date เหตุระเบิดย่าน ถ.ราษฎร์อุทิศ ดับสยอง 2 หนุ่ม ..30/3/57
11.24 น. พบระเบิดเพิ่มอีก ที่พงหญ้าใกล้ปากซอบประชาราษฎร์อุทิศ 12 ระหว่าง พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รอง ผบ.ตร. ลงพื้นที่ตรวจเหตุระเบิดเมื่อคืน EOD เตรียมเข้าตรวจสอบ





วันนี้ รอง ผบ.ตร. พร้อมหน่วย EOD ลงพื้นที่ ซ.ประชาราษฎร์อุทิศ 25 เพื่อตรวจสอบบ้านเช่าของผู้ตายอย่างละเอียดอีกครั้ง โดยกลางดึกคืนวานนี้ ผกก.EOD ระบุ ระเบิดที่พบมีลักษณะการประกอบคล้ายกับ 3 จังหวัดชายแดนใต้ แต่ไม่เหมือนทั้งหมดยืนยันชื่อผู้ตาย คือ นายบุญเลื่อน ปิ่นตา และนายเกรียงไกร สินอำนวย 11.55 น. ปิดการจราจร ถ.ราษฎร์อุทิศ เขตคลองสามวา 2 ช่องทาง ให้ EOD เก็บกู้ระเบิด

cr.Cathay Mee


http://www.thairath.co.th/content/region/413419 ]http://www.thairath.co.th/content/region/413419

พบไปท์บอมบ์อีก 5 ลูกในบ้านเช่าเหยื่อระเบิดย่านมีนบุรี

เหตุระเบิดย่านมีนบุรี ส่งผลให้ชาย 2 คนที่ซ้อนท้าย จยย.กันมาเสียชีวิตคาที่ตำรวจเข้าตรวจสอบบ้านเช่าของผู้ตายใกล้จุดเกิดเหตุ พบวัตถุระเบิด และ อุปกรณ์ประกอบระเบิดอีกจำนวนมาก



หลังเกิดเหตุระเบิดดังขึ้นที่บริเวณลานดินของสถานศึกษา ตอริบุ้ลอิสลาม ระหว่างซอยราษฎร์อุทิศ 25-27 จนทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 คน เมื่อเวลา 20.00 น.คืนวานนี้ เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน พร้อมหน่วยเก็บกู้และตรวจพิสูจน์วัตถุระเบิด หรือ EOD ได้นำกำลังเข้าตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุ พบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อสกู๊ปปี้ไอ สีดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ถูกแรงระเบิดพังเสียหายทั้งคัน และพบผู้เสียชีวิต 2 คน คือ นายเกรียงไกร สินอำนวย และ นายบุญเลื่อน ปิ่นตา สภาพถูกแรงระเบิดจนร่างฉีกขาด ใกล้กันเจ้าหน้าที่พบระเบิดแสวงเครื่องชนิดไปท์บอมบ์อีก 1 ลูก ตกอยู่ จึงใช้เครื่องยิงแรงดันน้ำทำลายลูกระเบิด นอกจากนี้ มีรายงานว่าที่ศพของนายบุญเลื่อน เจ้าหน้าที่พบบัตรประชาชนมากกว่า 10 ใบ ซึ่งได้เก็บรวบรวมไว้ตรวจสอบว่ามีความเชื่อมโยงกันหรือไม่ นอกจากนี้ จากการสอบสวนสืบทราบว่า ผู้เสียชีวิตทั้ง 2 คนได้เช่าบ้านอยู่ห่างจากจุดที่เกิดเหตุประมาณ 100 เมตร จึงได้นำกำลังเข้าตรวจค้น พบระเบิดไปท์บอมบ์อีก 5 ลูก ถังแก๊สปิคนิค 6 ถัง แกลลอนน้ำมัน 1 ใบ และจักรยานยนต์จำนวน 2 คัน หน่วย EOD จึงได้ทำการเก็บกู้ และนำออกมายิงทำลายที่ลานดิน ส่วนรถจักรยานยนต์ทั้ง 2 คัน ตรวจสอบแล้วไม่พบว่า มีการต่อวงจรคาร์บอมบ์แต่อย่างใด



เบื้องต้น จากรายงานพบว่า ก่อนเกิดเหตุมีผู้พบเห็นรถตู้สีขาว และ รถจักรยานยนต์คันเกิดเหตุ ขับขี่มาพร้อมกัน ก่อนที่รถตู้จะปล่อยให้ชาย 2 คน ลงจากรถแล้ววิ่งข้ามฝั่งมายังที่เกิดเหตุ ส่วนผู้เสียชีวิตทั้ง 2 คนขี่จักรยานยนต์กลับเข้าที่พัก แต่ระหว่างมาถึงลานดินรถได้เกิดอุบัติเหตุล้มลงก่อนเกิดเสียงระเบิดดังสนั่น จากนั้นรถตู้ที่ขับชะลออยู่ก็ได้วนรถกลับมารับชาย 2 คนที่ลงรถก่อนหน้านี้ มุ่งหน้าหลบหนีไปตามเส้นทางหนองจอกทันที




สำหรับบ้านผู้เสียชีวิตทั้ง 2 คน ที่เช่าพักอาศัยนั้น ตำรวจสืบทราบว่าก่อนหน้านี้เป็นบ้านร้างเนื่องจากภรรยาเจ้าของบ้านวัย 60 ปี ได้ก่อเหตุยิงสามีเสียชีวิต และต้องรับโทษจำคุก จึงไม่มีผู้อาศัยอยู่ จนกระทั่งเมื่อ 2 เดือนที่ผ่านมา ผู้เสียชีวิตทั้ง 2คน ได้เข้ามาติดต่อขอเช่า และระยะหลังพบความผิดปกติ และมีการเคลื่อนไหวของชายฉกรรจ์ที่ใช้รถจักรยานยนต์ รถยนต์ และรถตู้สีขาว ซึ่งคาดว่าเป็นคันเดียวกับที่มารับชายต้องสงสัยหลบหนี เข้า-ออกบ้านหลังดังกล่าวเป็นประจำ ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้สอบสวนหาข้อเท็จจริงต่อไป

https://www.facebook.com/bygonreturn/posts/1508802626013828] https://www.facebook.com/bygonreturn/posts/1508802626013828


ด้านพันตำรวจเอกกำธร อุ้ยเจริญ ผู้กำกับกลุ่มงานเก็บกู้และตรวจพิสูจน์วัตถุระเบิด หรือ EOD เปิดเผยว่า ระเบิดที่พบเป็นระเบิดแสวงเครื่องชนิดไปท์บอมบ์ที่ทำจากท่อเหล็ก ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 6 นิ้ว ยาว 1 ฟุต และใช้ดินดำเป็นส่วนประกอบ ซึ่งถือว่ามีขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่ตรวจพบในระหว่างที่มีการชุมนุมทางการเมืองในพื้นที่กรุงเทพฯ โดยระเบิดชนิดนี้ ผู้ที่ไม่มีความเชี่ยวชาญในเรื่องการประกอบระเบิดก็สามารถผลิตขึ้นได้ ทั้งนี้กรณีที่เกิดขึ้นส่วนตัวมองว่า มียุทธวิธีเหมือนกับขบวนการก่อเหตุความรุนแรงในจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยจะมีขบวนการที่ใช้กลุ่มคนประกอบระเบิด 1 ชุด แล้วนำมาพักไว้ ก่อนที่จะส่งต่อให้กับผู้ร่วมขบวนการอีก 1 ชุด นำไปต่อวงจรระเบิด ก่อนนำไปใช้ก่อเหตุ

สำหรับสาเหตุของการเกิดระเบิดนั้น ยังไม่สามารถสรุปได้ว่ามีความเชื่อมโยงกับเหตุความวุ่นวายทางการเมืองในขณะนี้หรือไม่ แต่พบวาพัฒนาการๆก่อเหตุของกลุ่มคนที่สร้างสถานการณ์มีการพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ เริ่มจากการใช้อาวุธปืน ประทัดยักษ์ ระเบิดขว้าง เครื่องยิงระเบิด จนมาถึงระเบิดแสวงเครื่อง และคาร์บอมบ์



ตอนนี้หลายท่านคงจะพอมองออกว่าคนกลุ่มนี้มาทำอะไร..พวกไหน..คนดีหรือไม่..อย่าไปโยงโจรใต้เลยครับมันเป็นเพียงวาทกรรมของพวกหางแดงเท่านั้นที่พยายามปัดความรับผิดชอบ..ขอทุกท่านโปรดระวัง..คนพวกนี้ยังมีอีกหลายคนที่ยังมีชีวิตอยู่และพร้อมที่จะทำร้ายประชาชนผู้บริสุทธิเพื่อผลประโยชน์ของผู้มีอำนาจทางการเมืองและสร้างความปั่นป่วนให้แก่ชาติบ้านเมือง..!!


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 31 มี.ค. 14, 00:18 น โดย dangerlife » noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า

กระทู้ฮอตในรอบ 7 วัน

Tags:
Guest
k542
เรทกระทู้
« ตอบ #1 เมื่อ: 30 มี.ค. 14, 23:58 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

รู้สึกหดหู่...นี่ใช่ประเทศไทยหรือเปล้าคะ q*078q*078q*078
noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
add
เรทกระทู้
« ตอบ #2 เมื่อ: 31 มี.ค. 14, 07:16 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

รู้สึกหดหู่...นี่ใช่ประเทศไทยหรือเปล้าคะ q*078q*078q*078




ช่วงนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจผลงานดีครับเริ่มเป็นมืออาชีพ..!!





1. กองปราบนำกำลังบุกจับ ตามหมายจับศาลตลิ่งชัน หักหน้าใต้จมูก จับญาติเมียเป็ดเหลิม นายไชยพร ธีมะสถิตย์ ยึดคลังแสงใหญ่มี
- อาวุธปืนขนาด .38 รวม 4 กระบอก
- อาวุธปืนขนาด 11 มม.
- อาวุธปืนขนาด .22 รูเดอร์
- ปืนลูกซอง ปืนขนาด 9 มม.
- แมกกาซีนขนาด .45 มม.3 อัน
- ซองบรรจุกระสุนปืนลูกซอง , ซองกระสุนปืนอาก้า , ซองกระสุนปืนคาร์บิน
- กระสุนปืนขนาดต่างๆ กว่า 500 นัด
- ระเบิดควัน 2 ลูก




2. วันที่ 29 มี.ค. 57 เวลา 12.00 น. สน.ดินแดง (ที่ผัวคนที่ 5 นะโมทำงานอยู่ ) จับชายแฝงตัวเป็น กปปส. ที่ซอยเปรมสมบัติ 1 ดินแดง พกระเบิด RDG-5 จำนวน 2 ลูก ชื่อ นายวัลลภ รุ่งรัตน์ อายุ 42 ปี เป็นระเบิดรุ่นเดียวกับที่กลุ่ม กวป.เพิ่งถูกจับได้ และเคยที่ใช้ก่อเหตุที่บรรทัดทอง และอนุสาวรีย์ มาแล้ว


https://www.facebook.com/media/set/?set=a.225415110981857.1073741957.187529244770444&type=1

ตอนนี้เป็ดเหลิมหายไป..ทาริดหายไป..ไม่เห็นมาแถลงข่าว..หรือว่าออกมาเฉพาะฝ่ายตรงข้ามรัฐบาลเท่านั้น..!!

-ขอบคุณแหล่งที่มาครับ..



noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
add
เรทกระทู้
« ตอบ #3 เมื่อ: 31 มี.ค. 14, 07:31 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

รู้สึกหดหู่...นี่ใช่ประเทศไทยหรือเปล้าคะ q*078q*078q*078


ทุกอย่างกำลังไปได้ดีครับคุณคิม..!!



1. กองปราบนำกำลังบุกจับ ตามหมายจับศาลตลิ่งชัน หักหน้าใต้จมูก จับญาติเมียเป็ดเหลิม นายไชยพร ธีมะสถิตย์ ยึดคลังแสงใหญ่มี
- อาวุธปืนขนาด .38 รวม 4 กระบอก
- อาวุธปืนขนาด 11 มม.
- อาวุธปืนขนาด .22 รูเดอร์
- ปืนลูกซอง ปืนขนาด 9 มม.
- แมกกาซีนขนาด .45 มม.3 อัน
- ซองบรรจุกระสุนปืนลูกซอง , ซองกระสุนปืนอาก้า , ซองกระสุนปืนคาร์บิน
- กระสุนปืนขนาดต่างๆ กว่า 500 นัด
- ระเบิดควัน 2 ลูก



2. วันที่ 29 มี.ค. 57 เวลา 12.00 น. สน.ดินแดง (ที่ผัวคนที่ 5 นะโมทำงานอยู่ ) จับชายแฝงตัวเป็น กปปส. ที่ซอยเปรมสมบัติ 1 ดินแดง พกระเบิด RDG-5 จำนวน 2 ลูก ชื่อ นายวัลลภ รุ่งรัตน์ อายุ 42 ปี เป็นระเบิดรุ่นเดียวกับที่กลุ่ม กวป.เพิ่งถูกจับได้ และเคยที่ใช้ก่อเหตุที่บรรทัดทอง และอนุสาวรีย์ มาแล้ว



3. วันที่ 29 มี.ค. 57 ชายชุดดำอาชีพในทำเนียบรัฐบาล และที่รัฐสภา ทำความเคารพ และหยอกล้อต่อกระซิก เหมือนว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น กับแกนนำ กปปส. และ คปท.ที่ขอเข้าไปทำกิจกรรมอย่างสุภาพ อารยชน..ไทยแลนด์โอนลี่..ทุยแดงดิ้นๆๆๆ..ฮา

4. เกิดเหตุระเบิดแสวงเครื่องรุนแรง
4.1 วันที่ 29 มี.ค. 57
- เวลา 19.45 น. เกิดเหตุระเบิดบริเวณลานจอด สุเหร่าทรายกองดิน ซอยราษฎร์อุทิศ ระหว่างซอย 25-27 แขวงแสนแสบ เขตมีนบุรี กรุงเทพฯ มีผู้เสียชีวิต 2 ราย สภาพเหลวแหลก ใส้แตกทะลัก แขนขาขาดกระเด็นไปคนละทิศละทาง กระจัดกระจายทั่วบริเวณลาน ร่างกายฉีกขาด ยังใส่หมวกกันน๊อคอยู่ที่คอ




- ผู้ตายชื่อนายบุญเลื่อน ปินตา อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 57/3 ม.2 ต.แม่ทราย อ.ร้องกวาง จ.แพร่ และนายเกรียงไกร ศิลป์อำนวย อายุ 50 ปี บ้านเลขที่ 3/518 หมู่ 14 ต.เมืองเก่า อ.เมือง จ.ขอนแก่น แต่งกายสวมเสื้อยืดสีดำใส่กางเกงสีกรมท่าสวมรองเท้าคอมแบ็ทสีดำ , ผู้ตายทั้ง 2 คน เช่าบ้านเลขที่ 49/1 ม.8 ซึ่งเป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น เนื้อที่ประมาณ 50 ตารางวา อยู่ติดกะลานจอดรถที่เกิดเหตุ เจ้าของบ้านยิงสามีตายคาบ้านแล้วติดคุก เป็นบ้านร้างมานาน , มีการเช่าบ้านมาตั้งเเต่ 8 มีนาคม 2557 โดยอาศัยอยู่รวมกันกับเพื่อนประมาณ 6-7 คน



- ผู้ตายทั้ง 2 ขับขี่รถ จยย.ฮอนด้าสกู๊ปปี้ไอ สีดำ ออกมาจากบ้าน เพื่อทำการขนย้ายระเบิด ใส่ไว้ในกระเป๋าสะพาย ระเบิดเกิดกระทบเสียดสี และเกิดการตกหลุมเสียหลักล้ม เมื่อผ่านจุดเกิดเหตุระเบิดลูกแรกจึงทำงานดังสนั่นหวั่นไหว เเต่อีกลูกหนึ่งเป็น ท่อเหล็กเส้นผ้าศูนย์กลางประมาณ 6 นิ้ว ยาวประมาณ 1 ฟุต ตกอยู่ใกล้เคียงกัน ยังไม่ทำงาน



- ชายอีก 4 คนที่กลุ่มเดียวกัน อาศัยอยู่ในบ้านหลังดังกล่าว ขับรถตู้สีขาว เลขทะเบียน 744 หลบหนีไปโดยมุ่งหน้าไปทางหนองจอก
- ตำรวจ สน.มีนบุรี และ เจ้าหน้าที่ EOD ได้ตรวจสอบบ้านหลังดังกล่าว ในบ้านพบระเบิดอีก 5 ลูกวางอยู่ที่พื้นชั้นล่างในบ้าน , ถังแก็สเปล่าขนาด 15 กก. จำนวน 6 ถัง, แกลลอนน้ำมันเบนซินจำนวน 1 แกลลอน และพบว่ามีการขนวัสดุที่เป็นส่วนประกอบของระเบิดจำนวนมาก





5. ตำรวจอุบลฯ ยึดหัวกระสุนปืน M39 กว่า 200 นัด ขอบคุณมากที่จับได้ก่อนมันจะก่อเหตุ
- เมื่อเวลาประมาณ 17.00 น. ตั้งด่านตรวจ มีชายขี่มอเตอร์ไซด์มุ่งหน้าด่านตรวจ แล้วหักเลี้ยวหนี โยนกระสอบป่านทิ้งไว้ข้างทาง เมื่อตรวจพบข้างในกระสอบมีหัวกระสุนขนาด 20 มม.จำนวนมาก เป็นลูกกระสุนปืนใหญ่อากาศสีเขียวขนาด 20 มม. ใช้กับปืนใหญ่อากาศ M39 จำนวน 220 หัว ยังไม่มีการใช้งาน มีอักษรภาษาอังกฤษเขียนว่า 20MM TP
- อาจจะเอาไว้ยิงรถถัง หรือคอปเตอร์ชายชุดเขียว เพราะเป็นกระสุนชนิดเดียวกับของเครื่องบินยิงรถถัง เจาะเกราะได้ ต้องใช้ปืนยิงมีขนาดใหญ่



6. ทหาร-ตชด. จับอาวุธลูกน้องโกเต็ก ขณะกำลังเดินทางออกนอกพื้นที่แม่สอด พร้อมเสาวิทยุ
- วันที่ 30 มี.ค.57 แหล่งข่าวฝ่ายความมั่นคงทราบว่า จะมีขบวนรถยนต์บรรทุกขนเสาอากาศวิทยุคลื่นความถี่ 90.50 เมกะเฮิตรซ์ สถานีวิทยุของคนเสื้อแดง ของโกเต็ก ซึ่งไปตั้งสถานีวิทยุ ณ บ้านเลขที่ 74 / 4 ถนนสาย อ.แม่สอด ตาก บริเวณสถานีขนส่งแม่สอดของเอกชน –




-ขอบคุณแหล่งที่มาครับ
https://www.facebook.com/media/set/?set=a.225415110981857.1073741957.187529244770444&type=1

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
add
เรทกระทู้
« ตอบ #4 เมื่อ: 31 มี.ค. 14, 12:57 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 
เมื่อวาน ช่อง 11 และ นสพ.ข่าวสด...รายงานว่าผู้เสียชีวิตเป็นคนใต้



สื่อเพื่อใคร..!!
noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
Guest
k542
เรทกระทู้
« ตอบ #5 เมื่อ: 31 มี.ค. 14, 13:28 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

อยากรู้จังว่า...อาวุธสงครามเหล่านี้เขาไปหามาได้ยังไง...หาได้จากไหน...ทำไมถึงมีสิทธิ์ครอบครอง... q*029

คุณintervintionพอจะมีข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องที่คิมสงสัยมั๊ยคะ...ถ้ามี...กรุณานำเสนอด้วย...

เชื่อว่าน่าจะมีคนสงสัยและอยากรู้เหมือนคิม...เอ หรือว่าเขารู้กันหมด...ซื่อบื่อแค่คิมคนเดียวน๊าาา q*032

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
add
เรทกระทู้
« ตอบ #6 เมื่อ: 31 มี.ค. 14, 16:17 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

อยากรู้จังว่า...อาวุธสงครามเหล่านี้เขาไปหามาได้ยังไง...หาได้จากไหน...ทำไมถึงมีสิทธิ์ครอบครอง... q*029

คุณintervintionพอจะมีข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องที่คิมสงสัยมั๊ยคะ...ถ้ามี...กรุณานำเสนอด้วย...

เชื่อว่าน่าจะมีคนสงสัยและอยากรู้เหมือนคิม...เอ หรือว่าเขารู้กันหมด...ซื่อบื่อแค่คิมคนเดียวน๊าาา q*032




พล.ต.ท.สมเกียรติ พ่วงทรัพย์ อดีตผู้บัญชาการตำรวจสันติบาล และอดีตหัวหน้าหน่วยปราบปรามมือปืนรับจ้าง กองบังคับการตำรวจนครบาล ระบุว่าปัจจุบันกลุ่มมือปืนต่างๆ นิยมใช้อาวุธสงครามกันมากขึ้น เนื่องจากประสิทธิภาพรุนแรง และสามารถซื้อหาได้ง่าย



“เมื่อก่อนการใช้อาวุธสงครามในการก่อคดี มีน้อยมาก เรียกได้ว่าเมื่อ15-20 ปีที่แล้ว มือปืนส่วนใหญ่จะนิยมใช้ปืนลูกซอง , ปืน.38 และปืนไทยประดิษฐ์ เป็นหลัก และในสมัยนั้นในเขตกรุงเทพฯนี่ถ้ามีคดีที่ใช้อาวุธสงครามเกิดขึ้น หัวหน้าสถานีตำรวจในพื้นที่นั้นจะต้องถูกย้ายทันที ซึ่งต่างจากปัจจุบันที่มีการใช้อาวุธสงครามกันอย่างแพร่หลาย คือสมัยก่อนแม้ว่าช่วงหลังจากสงครามอินโดจีนสงบลง จะมีปืนจะประเทศเพื่อบ้านทั้ง ลาว เวียดนาม กัมพูชา ทะลักเข้ามา แต่รัฐบาลจะปราบปรามอย่างเข้มข้น รวมทั้งใช้กลวิธีในการดึงอาวุธสงครามออกจากตลาด เช่น ให้ทางตำรวจกว้านซื้ออาวุธสงครามตามแนวชายแดนมาเก็บไว้”



ชายแดนไทย-กัมพูชาแหล่งค้ารายใหญ่

จากข้อมูลของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และเจ้าหน้าที่ตำรวจในหลายพื้นที่ชี้ชัดตรงกันว่า อาวุธสงครามส่วนใหญ่ที่กระจายอยู่ในประเทศไทยนั้นถูกลักลอบนำเข้ามาจากประเทศกัมพูชาซึ่งอาวุธหลักๆที่ถูกนำเข้ามามีอยู่ 2 ชนิด คือ ปืนอาก้า และ M16 ว่ากันว่าหลังจากมีการเซ็นสนธิสัญญายุติสงครามของเขมร 3 ฝ่าย ในช่วงปลายปี2534 และเลิกรบกันอย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาดในปี2537 ขบวนการค้าอาวุธสงครามบริเวณแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ก็ขยายตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว



พ.ต.อ.ปรีชา ธิมามนตรี รองผู้บัญชาการศูนย์สืบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล อธิบายถึงเส้นทางการค้าอาวุธสงครามในไทยว่า

“สมัยก่อนอาวุธสงครามจะเข้ามาตามแนวตะเข็บชายแดน จุดที่ทะลักเข้ามามากคือบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา โดยเฉพาะในช่วงหลังจากสงคราม 3 ฝ่ายในประเทศกัมพูชายุติลงใหม่ๆ ทหารกัมพูชาก็ลักลอบนำอาวุธสงครามที่ใช้ในกองทัพมาขายตามแนวตะเข็บชายแดน นอกจากนั้นก็มีการซื้อขายตามชายแดนไทย-พม่า โดยชนกลุ่มน้อยที่อยู่บริเวณชายขอบ”

หลากวิธีขนถ่ายสินค้า

สำหรับเส้นทางการลำเลียง และวิธีการค้าขายอาวุธสงครามตามแนวชายแดนไทยกัมพูชานั้น พ.ต.อ.กิตติพงษ์ เงามุข รองผู้บังคับการ หัวหน้าศูนย์สืบสวนสอบสวนตำรวจภูธร ภาค 2 ขยายความให้ฟังว่า




“เนื่องจากพื้นที่ภูธร ภาค 2 นั้นมีหลายจังหวัดซึ่งมีพื้นที่ติดกับประเทศกัมพูชา เช่น สระแก้ว จันทบุรี ตราด สามารถเดินข้ามไปมาหากันได้ เพราะไม่มีรั้วกัน เวลาหน้าแล้งพ่อค้าก็จะลักลอบนำอาวุธสงครามจากกัมพูชาข้ามมาส่ง โดยวิธีการก็มีทั้งนำมาซุกไว้ตามพุ่มไม้ตามแนวชายแดน แล้วนัดแนะลูกค้าคนไทยให้ไปเอาของ บางก็ซ่อนไว้ในช่องเก็บเครื่องในรถยนต์ ที่พบบ่อยที่สุดคือ ซุกซ่อนมากับสินค้าเกษตรต่างๆ ซุกไว้ใต้เข่งแล้วก็เอาผักวางทับๆ ลงไป ซึ่งการขนถ่ายลักษณะนี้บางทีแม้จะเข้าออกตามด่านชายแดนเจ้าหน้าที่ก็จับไม่ได้ เพราะแต่ละวันมีคนผ่านเข้าออกเยอะมาก จึงไม่สามารถตรวจค้นได้หมดทุกคน ยกเว้นแต่ว่าจะมีสายรายงานเข้ามา ซึ่งวิธีการทำงานของเราก็จะส่งสายเข้าไปแทรกซึมในกลุ่มของผู้ค้าอาวุธเพื่อติดตามการเคลื่อนไหว



อย่างล่าสุด ที่จับได้นั้นเป็นพ่อค้าอาวุธชาวจีน จากแผ่นดินใหญ่ ชื่อนายหลี เหว่ยหมิง เป็นพ่อค้าคนกลางที่จัดหาอาวุธสงครามส่งให้มาเฟียในฮ่องกง เขาเข้ามารับของจากคนไทย โดยให้ราคาสูงมาก ปืนอาก้า กับ M16 เขาให้กระบอกละ 2 แสน ขณะที่ราคาในตลาดมืดที่ขายอยู่ที่กระบอกละ 1 หมื่นเท่านั้น ซึ่งจากการสอบสวนพบว่า คนไทยที่จัดหาปืนให้นั้นเป็นนายทหารระดับจ่า สังกัดฐานทัพเรือสัต***บ ก่อนที่จะวางแผนเข้าจับกุม เราได้รับรายงานจากสายว่าจะมีการนัดขนส่งสินค้ากันทางเรือ โดยมีนายหลี เหว่ยหมิง บินมาควบคุมการขนสินค้าลงเรือด้วยตัวเอง จากนั้นเขาก็จะบินไปรับสินค้าที่ท่าเรือฮ่องกง ซึ่งอาวุธที่จับได้ก็ไม่มาก มีแค่ ปืนเอ็ม 16 ,ปืนอาก้า และปืนพกสั้น 9 ม.ม. อย่างละ 1 กระบอก กระสุนรวม 600 กว่านัด แล้วก็เสื้อเกราะกันกระสุน 1 ตัว ซึ่งหลังจากนี้เราก็จะขยายผลถึงแหล่งที่มาของอาวุธเหล่านี้ต่อไป”



ด้าน พล.ต.ต.สมพงษ์ ทองวีระประเสริฐ ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นหนึ่งในจังหวัดที่มีชายแดนติดกับกัมพูชา ระบุว่า “เส้นทางที่นิยมขนอาวุธกันส่วนใหญ่ก็คือ เส้นทางที่ใช้หาของป่า แต่คนขนของต้องเป็นผุ้ที่ชำนาญเส้นทาง เพราะตามแนวชายแดนก็ยังมีระเบิดที่ทหารกัมพูชาฝังไว้หลงเหลืออยู่ แต่ทั้งนี้ปัจจุบันอาวุธสงครามที่เข้ามาทางด้านชายแดนไทย-กัมพูชานั้นลดน้อยลงมาก ปีหนึ่งจับได้เพียงไม่กี่ราย รายหนึ่งก็มีไม่กี่กระบอก นอกนั้นก็เป็นพวกเครื่องกระสุน และวัตถุระเบิด ซึ่งผิดกับเมื่อ 7-8 ปีก่อน ที่มีการขนอาวุธสงครามกันเป็นคันรถเลย แต่ที่เรายังเห็นว่ามีการใช้อาวุธสงครามกันเกลื่อนเมือง ก็น่าจะเป็นอาวุธเก่าที่ซื้อขายเปลี่ยนมือและหมุนเวียนกันอยู่ในตลาด”




noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
add
เรทกระทู้
« ตอบ #7 เมื่อ: 31 มี.ค. 14, 16:30 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 
M 79 มาจากไหน



ทั้งนี้ จากข้อมูลพบว่าการซื้อขายอาวุธสงครามตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชาซึ่งจัดว่าเป็นแหล่งใหญ่ในการแพร่กระจายอาวุธสงครามนั้น นอกจากปืนอาก้าและ M 16 ซึ่งมีการซื้อขายกันมาตั้งแต่หลังสงครามเขมร 3 ฝ่ายแล้ว ในช่วงหลายปีมานี้ยังมี M79 เขามาขายตามแนวชายแดนด้วย ซึ่งอาวุธสงครามอานุภาพร้ายแรงดังกล่าวนั้น ถูกนำเข้ามาโดยพ่อค้าคนกลางที่มีสายสัมพันธ์กับนายทหารระดับสูงของกัมพูชา แล้วจึงกระจายมาสู่เอเยนต์ชาวไทย และกลุ่มที่เป็นผู้ค้ารายใหญ่ที่สุดก็หนีไม่พ้น ‘คนมีสี’ ซึ่งมีมีบารมีพอที่จะปูทางให้การขนถ่ายและกระจายสินค้าเป็นไปอย่างราบรื่น จึงไม่แปลกที่ในช่วงที่ผ่านมาจะมีการก่อเหตุร้ายโดยใช้ M79 เป็นเครื่องทุ่นแรง ไม่ว่าจะเป็นกรณียิง M 79 เข้าใส่พันธมิตรฯ ที่ชุมนุมอยู่ในทำเนียบฯ มือมีดยิง M 79 เข้าไปในศาลรัฐธรรมนูญ หรือกรณียิงถล่มคุณสนธิ ซึ่งมี M79 เป็นหนึ่งในอาวุธสังหาร



แหล่งข่าวระดับนายทหารชั้นผู้ใหญ่ ระบุว่า “อาวุธสงครามที่อยู่ในคลังของตำรวจและทหารนั้นจะมีการบันทึกรายการไว้โดยละเอียด มีหลักฐานในการเบิกจ่ายว่านำอาวุธออกมาวันไหน จำนวนเท่าไร ดังนั้นการนำ M79 ออกมาใช้ หรือเอาออกมาจำหน่ายจึงเป็นเรื่องยาก ทางหนึ่งที่เป็นไปได้ก็คือ ผู้ที่จัดซื้ออาศัยสายสัมพันธ์ที่มีกับนายหน้า หรือบริษัทที่ขายอาวุธสงคราม สั่งซื้ออาวุธสงครามต่างๆ เป็นการส่วนตัว แล้วก็เอามาขายในตลาด เท่าที่รู้อาวุธสงครามที่กระจายอยู่ทั่วประเทศไทยตอนนี้นั้น ทุกชนิดรวมกันมีอยู่ประมาณ 1,000 กว่ากระบอก ซึ่งอาวุธเหล่านี้ก็จะเปลี่ยนมือกันไปเรื่อยๆ บางคนใช้สังหารเหยื่อเสร็จก็ขายทิ้งเพราะไม่อยากเก็บไว้เป็นหลักฐาน"




‘คนมีสี’ พ่อค้าอาวุธตัวจริง

ขณะที่นายทหารซึ่งมีความแม่นยำด้านการข่าวอีกท่านหนึ่ง อธิบายถึงกระบวนการในการนำอาวุธร้ายแรงอย่าง M79 มาก่อเหตุเพื่อหวังผลทางการเมืองว่า M79 ที่ใช้ก่อเหตุในกรณีข้างต้นนั้น ไม่ได้ออกมาจากกองทัพอย่างที่บางคนเข้าใจ แต่เป็นอาวุธที่นำเข้ามาจากฝั่งกัมพูชา โดยผู้ที่จะทำมาหากินในเส้นทางนี้ได้ก็ต้องมีบารมีมากพอ ซึ่งคนกลุ่มนี้ก็หนีไม่พ้น ‘คนมีสี’ โดยเฉพาะนายทหารระดับนายพล ทั้งที่เป็นนายทหารนอกราชการและที่ยังรับราชการอยู่



บุคคลเหล่านี้จะมีสายสัมพันธ์อันดีกับนายทหารระดับสูงของกัมพูชา และใช้คอนเนกชั่นของนายพล ชาวกัมพูชาในการติดต่อซื้อขายกับนายหน้าที่ค้าอาวุธให้กองทัพกัมพูชา และด้วยความที่เป็นนายทหารระดับสูง ซึ่งอยู่ในวงการทหารมานานการจะเคลียร์เส้นทางเพื่อนำอาวุธสงครามเข้ามาในไทยจึงไม่ใช่เรื่องยาก โดยพาหนะที่ปลอดภัยที่สุดในการขนย้ายก็คือรถของทหารนั่นเอง



“พ่อค้าอาวุธสงครามรายใหญ่ในประเทศไทยตอนนี้ก็มีแต่คนมีสีทั้งนั้น เขาก็จะมีนายทหารรุ่นน้องๆ ที่รักใคร่เกรงอกเกรงใจกันช่วยเคลียร์เส้นทางให้ ส่วนใหญ่ก็ฝากมากับรถทหารนั่นแหละ แหม..เอาของใส่รถทหารมาใครจะกล้าค้น พอเข้ามาในประเทศแล้วการค้าขายก็ไม่ใช่เรื่องยาก เพราะของพวกนี้มันมีกลุ่มคนที่ต้องการอยู่แล้ว และวงการเขาก็จะรู้กันว่า ถ้าอยากได้ของต้องไปติดต่อใคร ส่วนใหญ่เขาก็จะให้นายทหารตัวเล็กๆ พลทหารบ้าง จ่าบ้าง ซึ่งเป็นลูกน้องเขาเป็นคนขนของไปส่งลูกค้า หรือบางทีก็ทำหน้าที่เซล ช่วยติดต่อกระจายสินค้าให้ด้วย




คนมีสีที่เป็นพ่อค้าอาวุธสงครามที่ขึ้นชื่อที่สุดในวงการตอนนี้คือ “พล.อ. พ.พาน” เป็นนายทหารนอกราชการ เขามีสายสัมพันธ์ที่แนบแน่นกับ “นายพล ซ.โซ่” ของกัมพูชา เขาก็ติดต่อกับผู้ค้าอาวุธในกัมพูชา ผ่านนายพล ซ.โซ่ นอกจากนั้นน้องชายของ พล.อ.พ.พาน คือ “พล.ท. ต.เต่า” ซึ่งยังรับราชการทหารอยู่ ก็ไปร่วมลงทุนกับนายพล ซ.โซ่ ทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และบ่อนการพนันในกัมพูชาด้วย



อาวุธสงครามที่คนมีสีพวกนี้นำเข้ามาก็จะมีทั้งอาก้า , M16 , M79 แล้วก็มีลูกน้องที่เป็นนายทหารคอยจัดส่งสินค้า สังเกตได้ว่าเวลามีการจับกุมอาวุธสงครามจะมีทหารระดับปลายแถวเข้าไปเกี่ยวข้องด้วยเสมอ บางทีก็เป็นคนติดต่อจัดหารอาวุธ บางทีก็เป็นคนขับรถ ส่วน M79 ที่ใช้ก่อความวุ่นวายในช่วงที่ผ่านมาก็มาจากเขมรนี่แหละ การจะเอาปืนออกมาจากกองทัพนั้นเป็นไปได้เลย แต่ถ้าหากเป็นเครื่องกระสุนนี่ สามารถเอาออกมาได้ ทั้งกระสุน M16 , ลูกระเบิด M79 โดยจะเอาออกมาในช่วงที่มีการซ้อมยิง เช่น ทำเรื่องเบิกออกมา 100 นัด อาจใช้จริงแค่ 50 นัด ที่เหลือก็เอาออกมาขาย”



สนนราคา

สำหรับสนนราคาของอาวุธสงครามที่มีการซื้อขายในปัจจุบันนั้นสูงขึ้นกว่าแต่ก่อนมาก เนื่องจากปริมาณสินค้าเริ่มขาดแคลน โดยเมื่อ 4-5 ปีก่อนนั้น ปืนอาก้า และปืน M16 ที่ขายตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ราคาเพียงกระบอกละ 5,000 -6,000 บาทเท่านั้น แต่ปัจจุบัน อาก้า ราคาขึ้นไปถึง กระบอกละ 10,000 -12,000 บาท ส่วน M16 ราคาอยู่ที่ 10,000 -15,000 แต่หากอาวุธถูกขนส่งเข้ามาขายในตลาดมืดของไทย อาก้า ราคาจะขึ้นไปที่ 15,000-17,000 บาท ส่วน M16 ขยับไปถึง 20,000 บาท



ส่วน M79 ที่ซื้อขายกันปัจุบันมีอยู่ 2 รุ่น คือ 1) M 203 ซึ่งเป็นการนำปืน M16 A1 มาประกอบกับเครื่องยิง M 79 โดยรุ่นนี้ใช้ยิงได้ทั้งลูกกระสุนของ M16 และลูกระเบิดของ M79 สนนราคาอยู่ที่ 25,000 บาท และ 2) M79 ซึ่งเป็นเครื่องยิงระเบิด M79 ราคาที่ขายตามแนวชาย


............

รวยไม่ทนจนไม่นาน..สุดท้ายก็หนีไม่พ้นคุก..


ขอบคุณแหล่งข่าวและถาพประกอบจาก Internet ครับ


noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
Guest
k542
เรทกระทู้
« ตอบ #8 เมื่อ: 31 มี.ค. 14, 16:54 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

q*062q*062q*062 คิมอ่านทุกตัวอักษร...ไม่ผิดหวังเลย...

ขอบคุณคุณintervintionมากนะคะ...ขอคารวะ q*054q*104q*056 จุ๊บๆ...

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
Guest
รู้นะคิดอะไรอยู่
เรทกระทู้
« ตอบ #9 เมื่อ: 31 มี.ค. 14, 17:13 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 
แผ่นดินธรรม

ผู้ไม่ประพฤติธรรม ย่อมอยู่ได้ยาก



ขอให้ผู้ตาย ไปสู่สุขติ
noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
add
เรทกระทู้
« ตอบ #10 เมื่อ: 1 เม.ย. 14, 09:44 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 
เข้ามาช่วยคอนเฟิร์มว่าบรรทัดนี้เรื่องจริงครับ q*062

วงการเขาก็จะรู้กันว่า ถ้าอยากได้ของต้องไปติดต่อใคร ส่วนใหญ่เขาก็จะให้นายทหารตัวเล็กๆ พลทหารบ้าง จ่าบ้าง ซึ่งเป็นลูกน้องเขาเป็นคนขนของไปส่งลูกค้า หรือบางทีก็ทำหน้าที่เซล ช่วยติดต่อกระจายสินค้าให้ด้วย
noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
Tags:  

หน้า: 1

 
ตอบ

ชื่อ:
 
แชร์ไป Facebook ด้วย
กระทู้:
ไอค่อนข้อความ:
ตัวหนาตัวเอียงตัวขีดเส้นใต้จัดย่อหน้าชิดซ้ายจัดย่อหน้ากึ่งกลางจัดย่อหน้าชิดขวา

 
 

[เพิ่มเติม]
แนบไฟล์: (แนบไฟล์เพิ่ม)
ไฟล์ที่อนุญาต: gif, jpg, jpeg
ขนาดไฟล์สูงสุดที่อนุญาต 20000000 KB : 4 ไฟล์ : ต่อความคิดเห็น
ติดตามกระทู้นี้ : ส่งไปที่อีเมลของสมาชิกสนุก
  ส่งไปที่
พิมพ์อักษรตามภาพ:
พิมพ์ตัวอักษรที่แสดงในรูปภาพ
 
:  
  • ข้อความของคุณอยู่ในกระทู้นี้
  • กระทู้ที่ถูกใส่กุญแจ
  • กระทู้ปกติ
  • กระทู้ติดหมุด
  • กระทู้น่าสนใจ (มีผู้ตอบมากกว่า 15 ครั้ง)
  • โพลล์
  • กระทู้น่าสนใจมาก (มีผู้ตอบมากกว่า 25 ครั้ง)
         
หากท่านพบเห็นการกระทำ หรือพฤติกรรมใด ๆ ที่ไม่เหมาะสม ซึ่งอาจก่อให้เกิดความเสื่อมเสียแก่สถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ รวมถึง การใช้ข้อความที่ไม่สุภาพ พฤติกรรมการหลอกลวง การเผยแพร่ภาพลามก อนาจาร หรือการกระทำใด ๆ ที่อาจก่อให้ผู้อื่น ได้รับความเสียหาย กรุณาแจ้งมาที่ แนะนำติชม