
คนในวิชาชีพแพทย์ เราจะเรียกกันเป็นพี่น้องครับ ไม่ว่าอายุจะห่างกันแค่ไหนก็ตาม เป็นธรรมเนียมปฏิบัติที่ดูอบอุ่นมากครับ เพราะในวิชาชีพนี้ นอกจากการอ่านหนังสือหาความรู้เองแล้ว ( บางคนก็พึ่งพายึด google และ wikipedia เป็นสรณะ ) เราจะใช้วิธีพี่สอนน้องครับ ทั้งการผ่าตัด เกร็ดความรู้ที่หาไม่ได้จากในหนังสือ(และ wikipedia ) จึงทำให้รุ่นพี่รุ่นน้องในวงการนี้สนิทกัน ( ...หรือไม่ก็ทะเลาะจนเกลียดกันไปเลยก็มี เพราะรู้ไส้รู้พุงกันไปหมด)
ผมมีรุ่นน้องคนหนึ่งครับ ชื่อ " หมอต่าย " นายแพทย์หนุ่มผิวสีเข้มใส่แว่นตา จริงๆเป็นคนกรุงเทพโดยกำเนิด แต่จับพลัดจับผลูต้องไปใช้ทุนที่ภาคใต้จังหวัดหนึ่ง ด้วยสีผิวนั้นจึงทำให้หมอต่ายกลมกลืนไปกับคนในพื้นที่อย่างง่ายดาย
ชื่อต่าย จริงๆเป็นฉายาที่เพื่อนในรุ่นของมันตั้งให้ เพราะเป็นคนที่มักจะตื่นตูมอยู่บ่อยๆ เวลามีเรื่องอะไรจะตกใจ ลนๆล่กๆ คล้ายกระต่าย ( แต่หลังจากที่มันจบไปทำ
งาน พอมีคนถามเรื่องชื่อ มันมักจะบอกว่า เพราะผิวขาวและน่ารักเหมือนกระต่าย เพื่อนเลยตั้งฉายานี้ให้ / คุณเพ้อแล้วครับคุณต่าย )
สัปดาห์แรกของการทำงานเป็นแพทย์ใช้ทุนที่จังหวัดทางภาคใต้ หลังจากเรียนจบแพทยศาสตร์บัณฑิตมาหมาดๆ หมอต่ายก็มีความตื่นเต้นร้อนรนในการทำงานอย่างมากที่จะได้ใช้วิชาความรู้ที่ได้เล่าเรียนมาในการรักษาผู้ป่วย มีการตระเตรียมอ่านหนังสือทบทวนก่อนไปทำงานตรวจคนไข้ / ขยันกว่าตอนเรียนเสียอีก
และแล้วเวรดึกห้องฉุกเฉินครั้งแรกในฐานะนายแพทย์จบใหม่ก็มาถึง หมอต่ายรู้สึกตื่นเต้นกับเวรวันแรกนี้มาก หลังจากรับส่งเวรกับรุ่นพี่หมอคนที่อยู่ก่อนหน้าเรียบร้อย ( บอกเล่าถึงรายละเอียดคนไข้ที่ยังคงนอนสังเกตอาการอยู่ในห้องฉุกเฉิน เพื่อจะได้รักษาคนไข้ตรงกันตามแผนที่วางไว้แต่แรก ) หมอต่ายก็รอลุ้นที่จะได้ตรวจคนไข้ของเค้าด้วยความตื่นเต้น
ราวๆตีหนึ่ง มีเสียงตะโกนอยู่หน้าห้องฉุกเฉิน จับใจความได้ว่า " ช่วยด้วย มีคนผีเข้า " รถหน่วยกู้ภัยนำผู้ป่วยหญิงรายหนึ่ง อายุประมาณ 50 ปี เข้ามาในห้องฉุกเฉิน เจ้าหน้าที่เล่าว่า พบเห็นป้าคนนี้ นั่งพนมมือพร้อมกับสั่นไปทั้งตัวอยู่คนเดียวหน้าโรงพยาบาล ตะโกนร้องโวยวายว่า "พวกเอ็งเป็นใคร มาจับตัวกูทำไม รู้ไหมว่ากูนี้เป็นใคร วะฮ่าฮ่าฮ่า กูนี่แหละหนุมาน องครักษ์พระราม วะฮ่าฮ่าฮ่า ..."
หมอต่ายรีบรุดเข้าไปดูป้าหนุมานทันที ท่ามกลางความโกลาหล หมอต่ายบอกสั่งเจ้าหน้าที่ที่ไม่เกี่ยวข้องให้ออกไปข้างนอกให้หมด และเหลือไว้เพียงพยาบาลสองสามคน แล้วจึงปิดม่านรอบเตียงผู้ป่วย ( และเชื่อไหมครับ มันมักจะต้องมีคนอื่นที่ไม่ใช่ญาติ มาแอบๆมองๆ ลอดผ่านรอยต่อของม่านเสมอ / อย่าไปแอบดูคนอื่นเลยครับ / สิทธิผู้ป่วย )
หมอต่ายบอกทุกคนว่า " ไม่ต้องตกใจนะครับ อาการแบบป้านี่ผม
เจอบ่อย รักษาได้ไม่ยาก ..."
หมอต่ายจึงเริ่มขั้นตอนการรักษาทันที สั่งพยาบาลให้นำน้ำมาแก้วหนึ่ง หลังจากได้รับน้ำจากพยาบาลแล้ว หมอต่ายก็กระดกน้ำในแก้วเข้าปากทีเดียวหมด
…แล้วพ่นน้ำในปากนั้นใส่ป้าทีเดียวหมดแม็ก พร้อมกับถอดเอาพระเครื่องเบญจภาคีครบชุดที่คอตัวเอง ไปสวมให้ป้าหนุมาน พร้อมกับทำปากขมุบขมิบสวดมนต์ / พี่พยาบาลมาเล่ากับผมในภายหลังว่า จับใจความได้ประมาณ "...ผีร้ายออกไป "
...ใช่แล้วครับ หมอต่าย หลานชายคนโตของหมอผีเขมรชื่อดังคนหนึ่งแถบคลองเตย ผู้ไม่อยากสืบทอดกิจการที่บ้านต่อ จึงหันเหชีวิตมาเรียนหมอแผนปัจจุบันรักษาโรคเวชกรรมทั่วไป วันนี้ได้โชว์วิชาอาคมที่ปู่สอนสั่งเอาไว้ป้องกันตัว
ท่ามกลางความเงียบ อึ้ง และสตันของพี่พยาบาล รวมถึงป้าหนุมานชาญสมรที่โดนจัดน้ำปลุกเสกจากปากหมอต่ายเข้าไปยังมีเงียบไปช่วงหนึ่ง แต่พอป้าหายสตัน 2 วินาที ก็เริ่มสั่นต่อไป และตะโกนโวยวายยิ่งกว่าเดิม...
พี่พยาบาลเห็นท่าไม่ดี จึงรีบเข้าไปกระซิบกับหมอต่ายว่า " หมอคะ ป้าเป็นโรคจิตเภทค่ะ ( schizophrenia ) แกรุงรังมา รพ.แบบนี้บ่อยๆ เพ้อเป็นหนุมาน พระอินทร์ ชินจัง จิ๋นซีฮ่องเต้ก็เคย ทุกทีฉีดยาแกก็หยุดค่ะหมอ เก็บพระเถอะค่ะ "
แม้หนุมานในรูปแบบมนุษย์ป้าจะชาญสมรมากสักแค่ไหน แต่ฤทธิ์ของยา Hadol ก็สามารถกำราบหนุมานในร่างของป้า ให้กลายเป็นลูกลิงสลึมสลือได้ในเวลาไม่นาน / …ลิงจั๊กจั๊ก ด้วยเปล่าหมอหมี? / จะตลกไปไหน
ปล.1 แพทย์ใช้ทุนจบใหม่ มักจะต้องมีช่วงเวลาปรับตัว นำความรู้ที่ร่ำเรียนมานาน ปรับใช้กับคนไข้จริง คนไข้ทุกคนจึงเหมือนเป็นครูของพวกเราครับ โดยมีรุ่นพี่หมอที่มีประสบการณ์มากกว่า คอยดูแลอยู่ด้วยตลอดเพื่อความปลอดภัยของคนไข้ครับ / ไม่ต้องกลัวกังวลเรื่องหมอจบใหม่ เพราะ ทุกครั้งที่ตรวจรักษา จะมีหมอเฉพาะทางที่ รพ. คอยดูแลอยู่ตลอดนะครับ / แบคอัพดี มีชัยไปกว่าครึ่ง
ปล.2 …หมอต่าย ปัจจุบันจบหมอเฉพาะทางสาขาหนึ่ง ทำงานอยู่ในโรงพยาบาลใหญ่ใจกลางเมือง และไม่เคยใช้วิชาอาคมใดๆจากแถบเขมรที่ปู่สั่งสอนกับคนไข้อีก / เข็ดแล้ว / ทุกวันนี้ ยังโดนเพื่อนๆแกล้งล้อเลียนอยู่เสมอ / เอาน้ำไหม / พ่อหนุมาน / เวลากินน้ำ เพื่อนมักจะหลบๆแล้วบอกว่า อย่าพ่นน้ำใส่กรู / บางทีเราก็เรียกกันว่า หมอโอม - โอมมม อะนันตะปัดชะเย อะปัตติเถเถนา อะปัตติยาอะปัตติเถเถทือ
ปล.3 คนไข้โรคจิตเภท schizophrenia เราพบเจอได้บ่อยนะครับ ในบ้านเราอาจมีเข้าใจผิดสับสนกับพวกผีเข้าก็บ่อย อ่านเพิ่มเติมได้ตามนี้เลยครับ ( ขอบคุณทางเวบที่ให้ข้อมูลอย่างละเอียดนะครับ ) http://www.ramamental.com/medicalstudent/generalpsyc/psycfinedetail/
ปล.4 ผมเคยตรวจคนไข้จิตเภท คุยกับลุงอยู่ดีๆ ลุงแกก็มองไปที่กำแพงว่างเปล่าด้านหลังผม แล้วบอกว่า “ แหม หมอพาเพื่อนมาทำงานด้วยเหรอ ใส่ชุดทหารหล่อดีนะ “ / …เพื่อนอัลไล ทหารอัลไล มีแต่กำแพงอ่ะครับลุง... / …อยากหนีกลับบ้านทันที ณ จุดนั้น
ที่มา
facebook หมอหมีผู้***มโหด Darksidesurgeon