^_^
|
ไม่ได้เป็นแฟนคลัป ของใคร แต่อยากจะแชร์ ความคิดเห็นนะคะ ขอให้ทุกคนคิดแบบง่ายๆ นะคะ เพราะเรื่องแบบนี้ไม่เกี่ยวกับพวกเราเลย เป็นเรื่องปกติธรรมดาของคนทั่วไป (ตัดคำว่าดารา หรือคนมีชื่อเสียงออกไปค่ะ) คือ คุณตู่กับคุณเอ๋ แรกๆ เขาก็อาจจะรักกันจริง แต่งงานมีลูก แต่พออยู่กันไปซักพัก เขาทั้งสองก็รู้ว่า มันไม่ใช่ อาจจะเข้ากันไม่ได้ในหลายๆเรื่อง เขาก็เลยแยกกันอยู่ เรียกง่ายๆ ก็คือว่า เลิกกันนั่นหละค่ะ แต่ด้วยความรับผิดชอบในเรื่องลูกร่วมกัน และเรื่องของสังคม เขาก็เลยไม่ได้ประกาศป่าวๆ ว่า เราสองคนเลิกกันแล้วนะ ออกสื่อ เพราะตอนนั้น ทุกคนก็ไม่ได้สนหรือติดตามความคืบหน้าของบุคคลทั้งสอง เพราะยังคิดว่า เขาอยู่ด้วยกันอยู่ แต่เขาสองคนรู้กันมาตลอดว่า เราไม่ได้มีอะไรเกี่ยวข้องกันแล้ว นอกจากรักษาสภานะครอบครัวซึ่งสังคมรับรู้แบบนั้น ในกรณีของคุณโย ที่มาเกี่ยวข้องตอนนั้น ทั้งๆที่คุณตู่รู้ แต่ทำไมไม่ทำอะไร ก็เพราะว่า เขาไม่ได้มีอะไรเกี่ยวข้องกันแล้ว แล้วคุณตู่จะไปเดือดร้อนทำไม สามี(ซึ่งไม่ใช่สามีแล้ว)จะไปมีใครที่ไหน เขาก็ไม่รู้สึกอะไรแล้ว ก็เลยกลายเป็นว่า คุณตู่เป็นเมียที่ดีเข้มแข็งเป็นที่น่ายกย่องของสังคม ซึ่งตรงนี้คุณตู่ได้รับความเห็นใจ ความชอบธรรมไปเต็มๆ พอมากรณีของคุณเจนนี่ ก็เหมือนกรณีของคุณโย แต่จะต่างก็ตรงที่ว่า คุณโยนั้น คุณเอ๋ เขาไม่ได้ตกลงปลงใจที่จะ แต่งงานด้วย เพราะอาจจะไม่ใช่คนที่ใช่ แต่มาคุณเจนนี คือคนที่ใช่ ก็เลยได้แต่งงาน ตอนที่เขาไปสัมภาษณ์คุณตู่ นักข่าวถามคุณตู่ว่า ได้ยินเรื่องของคุณเอ๋ ที่แอบคบกับคุณเจนนี่หรือเปล่า แทนที่คุณตู่จะตอบว่า ไม่รุ้ไม่เห็นนะคะ แต่ถ้าเป็นจริงก็เป็นเรื่องของคุณเอ๋กับคุณเจนนี่ ไม่เกี่ยวกับตู่แล้ว เพราะตู๋กับคุณเอ๋ เราไม่ได้มีอะไรเกี่ยวข้องกันนานแล้ว หรือเราเลิกกันนานแล้ว ต่างคนต่างอยุ่นานแล้ว แต่เราไม่ได้ประกาศให้สังคมรู้เท่านั้นเอง คุณตู่ไม่พูดแบบนั้น แต่คุณตู่กลับพูดว่า ขอดูคลิปก่อนหรือรูปก่อน เป็นการให้เครดิตตัวเอง เพราะรู้ๆอยู่ว่า ยังไงซะสังคมก็เข้าข้างตัวเองอยุ่แล้ว ซึ่งเป็นคำตอบที่ฉลาด... พอมาถึงนักข่าวสัมภาษณ์คุณเจนนี่ จริงๆแล้วคุณเจนนี่ เขาก็อยากจะพูดหมดนั่นหละ แต่ติดตรงที่ว่า คุณเอ๋บอก ไม่อยากให้คุณเจนนี่พูดตอนนี้ เพราะจะต้องรอคุยรอตกลงกับคุณตู่ น้อง เพลง ซะก่อน ซึ่งอันนี้คุณเอ๋เป็นคนพูดเอง วันที่เป็นบ้านให้นักข่าวสัมภาษณ์ ว่าทำไมตอนนั้นเจนนี่ปฏิเสธ คือผู้หญิงน่ะ ถ้าเพื่อความรัก เขาก็ยอมทั้งนั้นหละ ถึงจะต้องโดนด่าก็ต้องยอม ในเมื่อคุณเอ๋บอกให้รอก่อน อย่าพึ่งให้สัมภาษณ์อะไร ถ้าคุณเจนนี่ไปให้สัมภาษณ์ เขาก็จะมีปัญหากันตามมา ฉะนั้นคนที่กระอึกกระอักใจที่สุดก็คือคุณเจนนี่ เขาทั้งสามหรือสี่คน(รวมทั้งน้องเพลงด้วย) รู้กันหมดว่าอะไรเป็นอะไร ถ้าคุณตู่ยังอยู่กับคุณเอ๋ ยังเป็ํนครอบครัวรักกันนอนด้วยกันเป็นผัวเมียกันไม่เคยเลิกกัน พวกคุณคิดหรือว่าคุณตู่เขาจะอยู่เฉยๆ หรือ อันนี้ ให้เขาหัวใจและความคิดของตัวเองคิดแทนได้เลย ว่า ถ้าเป็นคุณอยุ่กับสามีทุกวัน แล้วสามีไปมีผู้หญิงอื่น คุณจะอยู่เฉยหรือ คำตอบคือไม่ ทุกคนเลย แล้วคุณเจนนี่ เขาทั้งสวยทั้งเก่ง ถ้าจะบอกว่า อยากจับผู้ชายรวยๆ ผัวใครก็ไม่สน ให้ถามตัวเองว่า ในโลกนี้มีแต่คุณเอ๋หรือที่รวย? ถูกต้องใหมคะ คนรวยมีเยอะแยะ เขาก็ํคงไม่เอาอนาคตและชื่อเสียงเขามาเสี่ยงหรอก หาผัวรวยที่ไหนก็ได้ ถึงจะแต่งงานกัน 2-3 เดือน พอเลิก ก็คงกินไปจนตายก็ไม่หมดหรอก แต่เราต้องมองเหตุผลของแต่ละคน ก็เหมือนเจ้าของกระทู้นี่หละค่ะ ที่คุณบอกว่าอยู่กับสามี แต่ไม่ได้จดทะเบียน คุณมีเหตุผลของคุณ คนอื่นเขาก็มีเหตุผลของเขาเช่นกัน แต่อยากจะบอกคุณในฐานะลูกผู้หญิงด้วยกัน คุณมั่นใจในตัวเองนั่นเป็นการดี แต่คุณมั่นใจในตัวสามีมากแค่ไหน ขนาดพ่อ แม่ลูกสายเลือดเดียวกัน ยังฆ่ากันได้ แล้วนับประสาอะไรกับคนอื่น ซักวันถ้าเผื่อเขาเจอคนอื่นที่ใช่มากกว่าคุณ คุณก็ต้องยอมรับในความมั่นใจที่ผิดพลาดของคุณ เพราะฉะนั้น ถ้าคุณจะกันไว้ก่อน ดีกว่าแก้ทีหลัง อย่างน้อยๆ วันหนึ่งหากคุณเลิกกับเขา คุณก็ยังมีสิทธิ์ได้รับอะไรซักอย่างเพื่อตอบแทนที่คุณอยู่กับเขามาตั้งนาน พอเป็นทุนในการดูแลตัวคุณเองในช่วงที่ไม่มีเขาอยู่ด้วยแล้ว...ขอบคุณที่อ่านนะคะ แค่อยากแชร์็ความคิดเห็นค่ะ.. เห็นด้วย ถ้า 2 - 3 คนนี้เป็นคนธรรมดาเหมือนเราๆ เรื่องนี้จะพื้นๆ มากเป็นธรรมดาของมนุษย์ สมัยนี้ถ้าดาราแต่งงานกับคนรวย หรือโคตรรวย สังคมจะประนามทันที เต้าไต่
|
|
|
|
![]() |
|
งงคุง
|
กฎหมายเป็นบรรทัดฐานขั้นต่ำสุดของมนุษย์ค่ะ เรื่องบางเรื่องทำแล้วไม่ผิดกฎหมายหรอกค่ะ แต่คนที่เค้ามีศีลธรรม มีศาสนา มีจรรยาบรรณ มีสมบัติผู้ดี...เค้าไม่ทำกัน
อย่างตัวอย่างที่ จขกท. ยกมา จริงอยู่ที่ทะเบียนสมรสช่วยให้คุณ J พ้นข้อกล่าวหาว่าแย่งสามีชาวบ้าน หรือ เป็นเมียน้อยได้ แต่คนเราส่วนใหญ่มีศีลธรรมเป็นเครื่องนำทางชีวิตนี่คะ ไม่มีใครเห็นด้วยทั้งนั้นกับเรื่องนี้ เพราะถึงแม้เค้าจะแยกเตียงกันไปแล้ว หรือ ไม่ได้จดทะเบียนกัน แต่ถึงอย่างไรผู้ชายคนนั้นก็คือสามีคือพ่อ คือคนที่มีเจ้าของแล้ว ถ้าจะทำให้พ้นข้อครหาจริง ทำไมไม่ให้ฝ่ายชายออกมาพูดเกริ่นก่อนไปเลยว่าได้แยกกับภรรยาแล้ว และต่อจากนั้นจะทำอะไรที่ไหนกับใคร...มันก็ยืดได้เต็มที่ ไม่มีใครกล้ามาว่าอะไร หรือถ้ามันยุ่งยากมากมายขนาดนั้น หาผู้ชายใหม่ง่ายกว่า ถึงจะนอนบนกองเงินกองทองก็หายใจไม่คล่องหรอกค่ะ เดินออกไปข้างนอกมีแต่เสียงนินทากันแซ่ไปหมด
ไม่รู้คุณ J เค้าคิดอะไรอยู่เหมือนกัน แต่รู้แค่ว่าถ้ารักกันจริงอย่างที่ฝ่ายชายแถลง เหตุการณ์ไม่น่าออกมาในรูปนี้
|
|
|
|
![]() |
|
แม่ลูกสอง
|
คห.15คิดเหมือนกันเลยในสายตาคนทั่วไปคุณตู่เป็นนางฟ้นางสวรรค์ไปเลยอย่างเจนนี่ไม่จำเป็นต้องจับผู้ชายรวยหรอกเค้าก็รวยอยู่แล้วคุณเอ๋ทำถูกต้องที่ออกมาแถลงข่าวที่จริงน่าจะกกระจ่างแล้วแต่ก็ยังมีคนโจมตีเจนนีอีก
|
|
|
|
![]() |
|
เสียความรู้สึก
|
อดีตแฟนคลับ J
แต่ตอนนี้ชักไม่ปลื้ม สวย ไม่แคร์สังคม (ไม่มีงานแต่งไม่เห็นเป็นไร พ่อแม่ไม่มีพิธีการสู่ขอไม่เป็นไร พ่อแม่ฝ่ายชายรับรู้เป็นพ่อ เมียเก่าลูกเลี้ยงฝ่ายชายรับรู้เป็นพอ ขนบธรรมเนียมความเป็นไทย ไปไหนกันหมดดาราไทย กลัวอย่างเดียวท้องก่อนจดทะเบียนเอาใบตรวจมาโชวืออกสื่อ ลืมขอใบตรวจว่ายังจิ้นอยู่จากแพทย์ถ้ามีก็จะได้หลุดพ้นจากข้อครหาว่าแย่งสามีคุณ T นี่ไม่มีพิธีการแต่งงานเป็นเรื่องเป็นราว พิธีเล็กๆก็ไม่มี ทำบุญตักบาตร พระสงฆ์อำนวยพรคู่บ่าวสาวก็ไม่มี เพราะทุกอย่างต้องรีบเรื่องมันแดง นักข่าวตามจี้ ไฟรน ก่อนหน้านี่โกหกออกสื่ออีกไม่มีอะไร อย่าเอามาโยง ไงจู่ๆสามวันโผล่แถลงข่าวมีผัว แบบไม่มีงานแต่ง ตูล่ะงง แค่มีทะเบียนเป็นพอ เลี่ยงคำว่าเมียน้อย เมียเก็บ แย่งสามีคนอื่น แก้ปัญหาง่าย ๆ ด้วยการจดทะเบียนสมรส ถ้ารักจริงไม่ทำอะไรผิดทำนองคลองธรรม ทำไมไม่มีงานแต่งเหมือนเพื่อนเขา แบบแกงค์นางฟ้าอ่ะ รักแท้ต้องรอได้ เรียงลำดับหน่อย 1. ชอบ/รัก 2.คบหา 3. สู่ขอกับพ่อแม่ฝ่ายเจ้าสาว ไม่ใช่สู่ขอกับพ่อแม่ฝ่ายชาย เมียเก่าและลูกฝ่ายชาย 4. แล้วค่อยจัดงานแต่งงานจดทะเบียนรับรองไม่มีใครว่าอะไรหรอก ไม่ใช่บอกออกสื่อ ไม่มีอะไรอย่าเอามาโยงผูกเรื่องจากภาพ แต่พอถูกขุดคุ้ยมากขึ้นก็ออกมาแถลงข่าวมีผัว จดทะเบียนสมรส โชว์หวาน ที่ผ่านมา FAKE นี่หน่า แต่งงานไม่เห็นต้องรีบ แต่ที่รีบเพราะอายที่โกหกประชาชีแล้วถูกจับได้ หรือแก้ผ้าเอาหน้ารอดเรื่องไปอยู่กับผู้ชายก่อนมีการแต่งงาน น่าสงสารพ่อแม่ของ J ที่ลูกประพฤติตนแย่งนี้ ไม่รักษาเกียรติของครอบครัวเสียเลย และไม่เป็นตัวอย่างที่ดีแก่เด็กและเยาวชน สังคมไทยเปลี่ยนไป ถ้ารักชอบใครก็เก็บเสื้อผ้าไปอยู่กับเขาเลยหรือเปล่า หรือไม่จำเป็นต้องมีการยอมรับกับสังคมคนรอบข้างอีกแล้ว อย่าที่บอกว่า J อาจไม่แคร์ตรงนี้ น่าเสียดายความสามารถทางด้านการแสดง หน้าตาท่าทางที่ดูดี แต่พฤติกรรมส่วนตัวทำให้อดีตแฟนคลับผิดหวังจริง ยังจำบทบาทมุนินทร์ได้เป็นอย่างดี แต่ตอนนี้ไหงกลายเป็นมุตา+น้องนกของผอ.ขาไปได้ มันรับไม่ได้จริง ๆค่ะ
เห็นด้วยอย่างยิ่งเลยค่ะกับความคิดเห็นนี้
|
|
|
|
![]() |
|
คนไทยคนหนึ่ง
|
เห็นด้วยกับความคิดเห็นที่ 46 ทำไม Aไม่ออกมาพูดก่อนว่าได้แยกกันอยู่กับ T แล้ว ทำอะไรอยู่ J ถึงจะนอนอยู่บนกองเงินกองทองก็ไม่มีความสุขหรอก ถึงแม้ว่า J จะรวยอยู่แล้วถึงไม่ได้ A เป็นผัว แต่ก็อย่าลืมนะว่า ความพอไม่มีหรอกจะบอกให้ มี 10 ล้านแล้วก็อยากมี 100 ล้าน มี 100 ล้านแล้วก็อยากมี 1000 ล้าน ขึ้นไปเรื่อยเรื่อย.
|
|
|
|
![]() |
|
เห็นด้วยค่ะ
|
เราก็แต่งงานและจดทะเบียน แต่หลังๆคิดไม่ตรงกัน ปัญหาเรื่องสุขภาพของเราด้วย แต่ยังรักและห่วงใยกันดูแลกัน แต่ยุติสถานภาพของความเป็นสามีภรรยานานนับสิบปี เค้าก็เนื้อหอมสนุกสนานไปเรื่อย วันนึงเจอคนถูกใจที่เค้าหยุด มันทำให้เราต้องมองตัวเอง และขอเป็นฝ่ายไป ทั้งที่ยังรักและห่วงใยตลอดมาจนทุกวันนี้ เค้ามีครอบครัวที่พร้อมหน้าแล้ว เราก็ยังเป็นเพื่อนและห่วงใยกัน เลยทำให้เราไม่กล้าด่าใครได้เลย เพราะเรื่องของครอบครัวมันอยู่ที่คนสองคนจริงๆ
|
|
|
|
![]() |
|
คนอยากพูด
|
จะไปยุ่งเรื่องเขาทำไม ถ้าเห็นคุณตู่กับคุณเอ๋อยู่ด้วยกันตลอด ออกงาน ไปไหนมาไหนด้วยกัน อย่างนี้ถึงจะเรียกว่าคุณเจนนี่แย่งสามี แต่นี่ตั้งหลายปีแล้วที่ไม่เห็นเขาออกงานด้วยกัน และคุณเอ๋ก็มีผู้หญิงอีกหลายๆคนมาตั้งนานแล้ว และอย่างที่หลายๆความเห็นว่าแต่งงานแล้วต้องจดทะเบียนสมรสถึงจะเรียกสามี-ภรรยา แต่งแล้วไม่จดจะมาว่าเขาแย่งสามีไม่ได้ แต่งแล้วต้องจดทะเบียนสมรสให้เกียรติซึ่งกันและกัน และที่สำคัญเวลาลูกเข้าโรงเรียนจะมีปัญหาตอนฐานข้อมูลนักเรียนเพราะพ่อแม่ไม่ได้จดทะเบียนสมรส ยุ่งยากนะเวลาออกเอกสารการจบชั้นเรียน ดังนั้นใครที่แต่งงานแล้วจดทะเบียนซะ ไม่งั้นจะแต่งไปทำไม
|
|
|
|
![]() |
|
ดูตัวเอง
|
ทำตัวเอง ดูย้อนตัวเองให้ดี อย่าไปยุ่งเรื่องของเขา ระวังคนของตัวเองเถอะดูแลเอาใจใส่คนของตัวเองเถอะ มัวมาคิดเรื่องของคนอื่น ระวังของตนเองจะเปลี่ยนใจ เพราะชอบยุ่งเรื่องของคนอื่น
|
|
|
|
![]() |
|
น่าขำ
|
คุณดูตัวเอง (ความคิดเห็นที่52) ถ้าคุณไม่อยากยุ่งกับเรื่องของเขาคุณก็อยู่เฉย ๆ สิ มาสอดทำไม
|
|
|
|
![]() |
|
L3
|
การไม่จดทะเบียน ถึงเป็นเหตุผลส่วนตัว ก็ต้องยอมรับสถานะนั้น วันข้างหน้า ถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนี้ ก็ถือว่าช่วยไม่ได้ กฎหมายไม่รับรอง แต่งงาน ให้ใหญ่โตแค่ไหน คนรับรู้ไปทั่ว อยู่กันเป็น 10 ปี ก็เหมือนเป็นแค่คู่นอน เลิกกัน ก็แค่ โบกมือ 
|
|
|
|
![]() |
|
นัวเนีย
|
เจนี่หวังได้ผัวรวยต้องไฮโซ เจนี่เดินเกมเองไว้ทั้งหมดเพราะเกียรติ ศักศรีหล่อนไม่เคยมี ใครๆก็รู้เอ๋ไม่ใช่ย่อยๆ ระวังไว้นะเจนี่ไม่นานหล่อนจะสำนึกที่เคยทำกับใครไว้
|
|
|
|
![]() |
|
![]() |
|
ผู้หญิงคนหนึ่ง
|
ถ้ามันเกิดขึ้นจริง
ว่า "ผู้ชาย" เถอะค่ะ
ส่วนตัวคิดว่า ผู้หญิงทั้งสองคน ก็อยากได้สถานะนี้ เท่าๆ กัน
ผลที่เราเห็นก็คือ การตัดสินใจของ ผู้ชาย นั่นแหละ
|
|
|
|
![]() |
|
0.0
|
เรียน ทุกท่าน การจดทะเบียนสมรส ยังมีผลต่อกฏหมายในการทำนิติกรรมระหว่างสามี ภรรยา แต่ การแสดงออกของพฤติกรรม ว่าบุคคล คนนั้น เป็นสามี เป็น ภรรยา เป็นลูก ต่อสังคม สามารถใช้ต่อสู้ในชั้นศาลได้ เคยมีในอดีต สามีมีเมียน้อย เมียหลวงฟ้องศาลไม่ยอมแบ่งมรดกเนื่องจากไม่ได้จดทะเบียน แต่ศาลสืบพยานตามเพื่อน และ หุ้นส่วน เพื่อนร่วม งาน ผู้ใต้บังคับบัญชาว่าตลอดเวลาทีมีชีวิต ชายผู้นี้ได้แนะนำเด็กผู้ชายคนหนี่งว่าเป็นลูกชายของเขาที่เกิดจากภรรยาอีกคนหนึ่ง เขายอมรับเป็นลูกและภรรยาอีกคนหนึ่งโดยเป็นการกระทำที่เต็มใจของชายคนนั้น ภรรยาคนที่สองก็มีสิทธิในกองมรดกด้วย จำไว้ครับการจดทะเบียนหรือไม่ ไม่สำคัญเท่า การกระทำ ในฐานะนักกฎหมาย อยากศึกษารายละเอียดคำพิพากษาเคสที่คุณพูดถึงน่ะครับ เพราะลูกนอกสมรส ที่บิดาให้การรับรองโดยพฤตินัย ผมเชื่อว่ามีสิทธิรับมรดกได้ แต่ภรรยาน้อยหรือภรรยานอกสมรส เท่าที่ทราบมีสิทธิเพียงแบ่งกรรมสิทธิ์รวมที่ทำมาหาได้ร่วมกันเท่านั้น ไม่ได้มีสิทธิถึงขั้นรับมรดกแต่อย่างใด
|
|
|
|
![]() |
|
0dfe
|
ถ้าแต่งงานก็ควรจดทะเบียนอยู่แล้ว เพราะเวลาเปลียนบางครั้งทั้งความคิิดและพฤติกรรมก็เปลี่ยน เห็นมาเยอะแล้ว ตอนแรกก็รักกันหวาน แต่พอหลายปีผ่านไปก็เปลี่ยนไป (แต่ไม่ใช่ทุกคู่นะ)
ซึ่งถ้ามีลูกด้วยฝ่ายหญิงเสียเปรียบเต็มที่เลย ก็อย่างกรณ๊ที่คุณกล่าวมาแหละ ฝ่ายชายส่วนใหญ่พอเจอคนที่ถูกใจกว่าบางทีก็ไปเลย ไม่กลับมาสนใจแล้ว การจดทะเบียนอย่าน้อยก็ สามารถเรียกร้องค่าเลี้ยงดูบุตรได้ แล้วทรัพย์สินที่หามาด้วยกันหลังแต่งงาน ก็สามารถให้ศาลพิจารณาตัดสินได้
|
|
|
|
![]() |
|
มะบอก
|
งง พวกคุณทั้งหลายไปยุ่งกะคนอื่นทำไม เกี่ยวไรกะชีวิตพวกคุณกันหรือครับ ???
บ้าบอคอแตก
|
|
|
|
![]() |
|
สน
|
ถ้าไม่จะทะเบียน ในสังคมไหนๆ ก็เรียกว่า (ของเถื่อน) นะครับ
|
|
|
|
![]() |
|
บ้านใกล้เรือนเคียง
|
ตอบ #15 เห็นด้วยอย่างยิ่งค่ะ ไม่ได้เห็นด้วยอย่างเดียวค่ะ แต่คิดเหมือนกันเป๊ะ เพราะจริงเค้าเลิกกันมานานแล้วค่ะ แต่แทนที่จะออกมาชี้แจงอะไรบ้างกลับทำเงียบ ว่าเจนนี่ร้ายๆ ไม่ได้ครึ่งหรอกค่ะ
|
|
|
|
![]() |
|
doordonot
|
ทำไมไม่โทษผัวตัวเอง เอาไปโยงกับเรื่องของคนอื่นทำไม ? จริงๆก็ดีแล้ว ที่เสียผัวแบบนั้นไป เก็บไว้ก็ไม่มีประโยชน์ หรือแค่เสียดายที่เพื่อนชมว่าเป็นคู่ที่น่ารัก? คุณเห็นต้องเสียใจ คุณไม่ได้เสียของรักของคุณไปเลย แค่เสียคนที่ไม่ได้รักคุณไป
|
|
|
|
![]() |
|
บ้านใกล้เรือนเคียง
|
ออกมาพูดบ้างก็ดีนะ จะได้ไม่ทำให้คนอื่นเดือดร้อน ที่เค้าไม่ออกมาพูดหน่ะ เพราะไม่อยากให้ใครรับรู้ว่าครอบครัวล้มเหลว มานานมากแล้ว เลยทำให้ใครต่อใครเข้าใจว่ายังรักกันดีอยู่ จริงๆน่าจะชืนชมผู้ชายนะที่ยอมโดนด่ามานานแสนนาน ให้เกียริตลูกและภรรยาเก่า โดยไม่ออกมาป่าวประกาศว่าผมโสดมานานละ
|
|
|
|
![]() |
|
อ้อยใจ
|
ถ้าไม่ได้จะทะเบียนกันและไม่ได้อยู่ด้วยกัน นั้นก็แสดงว่าเป็นเรื่องของความรักล้วนๆถูกต้องไหมค่ะ คือเรื่องของสองคนรักของคุณสองคน
แต่ถ้าวันนึงแฟนคุณสามีคุณ ไปจดทะเบียนกับสาวอื่น นั้นก็แสดงว่า เป็นเรื่องของความรักเป็นเรื่องของหัวใจล้วนๆ ของสองคน เพราะคุณพยยามจะสื่อว่า รักที่ใจ ใช่กายและกระดาษแค่ใบเดียว
ตอนนี้กานนั้นใจนั้น เปลี่ยนไปรักที่ไหม่ลงกับที่ไหม่ คุณก็ต้องยอมรับการตัดสินใจตั้งแต่ต้นของคุณได้ ว่า วามรักเกิดจากที่ใจ ของคนสองคนที่ก่อรักร่วมกัน
ณ ตอนนี้ใจคุณก่อรักแค่ด้านเดียว ซึ่งต่างจากสามีคุณไปก่อรักกับหญิงอื่น ซึ้งความรักเป็นเรื่องของคนสองคน ตอนนี้คุณไม่เกี่ยวแล้วคุณก็หลบออกมา เพราะคุณไม่มีส่วนในชีวิตรักของคนสองคน
ถามว่าผิดไหม ตอบแบบตรงๆ ไม่ผิด ทั้งด้านคุณธรรม และด้านกฏหมาย
|
|
|
|
![]() |
|
Janie
|
ขอโทษนะคะฉันไม่รู้ว่าคนเขียนชื่ออะไรที่ว่า คูณJ ฉันว่าคูณน่าจะว่าคูณAฝายชายด้วยนะคูณบอกคูณเป็นกลางแต่เปล่าหรอคูณพูดมาทั้หมดนี้คูณว่าคูณ J ทั้งนั้น ดูแล้วคูณเอาชีวิตคูณมาเปรียบกับสองคนนี้ ฉันว่าถ้าโลกนี้คิดเหมือนกันทุกคนสามีคูณก็คงเหมื่อนคูณ A
ภาษาไทยใช้ให้ถูกก่อนนะคะ "คูณณณณณณณณณ"
|
|
|
|
![]() |
|
ศรีธัญญา
|
|
|
|
|
![]() |
|
น่าสงสารคนเก็บกด
|
ท่าทางจะเก็บกดมาก เอาเรื่องดารามาเปรียบเทียบของเรื่องตัวเอง คงจะแค้นจัดนะเนี่ย แต่มันเป็นทางเลือกของคุณเองไม่ใช่เหรอว่าจะไม่จดทะเบียน แล้วก้อรู้อยู่แล้วว่าแยกกันอยู่มานมนาน แล้วจะมาทำกั๊กทำไม ถ้าผู้ชายเค้าจะมีใหม่ ก้อบอกด้วยความสัจจริง หรือคุณจะเห็นแก่ตัวกั๊กเค้าไว้ทั้งที่ไม่ได้อยู่เป็นผัวเป็นเมียจริง ๆ ทั้งพฤตินัยและจดทะเบียนมานมนาม มันไม่ make sense at all จ้ะ
|
|
|
|
![]() |
|
คุงป้า
|
อยากให้แยกระหว่าง ศีลธรรม กับ กฎหมาย กันค่ะ ถูกต้องตามกฎหมาย กับถูกต้องตามศีลธรรม อาจไม่ได้ไปพร้อมกัน ทะเบียนสมรสไม่ได้เป็นเครื่องหมายว่าผู้ชายหรือผู้หญิงคนนั้นจะรักและซื่อสัตย์ตลอดไป เป็นแค่เรื่องของวัตถุ ทรัพย์สิน ที่จะมี ที่จะแบ่งในอนาคตมากกว่า แต่ถ้าถูกศีลธรรม ชีวิตก็จะอยู่อย่างมีความสุข ไม่ต้องให้ใครมาบอก คนรุ่นพ่อแม่เรา หลายคู่ก็อยู่กันแบบไม่จดทะเบีนย ก็มีชีวิตด้วยกันจนวินาทีสุดท้าย สุดแท้แต่ว่า ชีวิตของเราต้องการ "ศีลธรรม" หรือ "ทะเบียน"
|
|
|
|
![]() |
|
วัยว้ายวุ่น
|
งั้นบ้านเมืองจะมีกฏหมายไว้ทำไมล่ะค่ะ ส่วนตัวจะคิดยังไง แต่สุดท้ายเป็นไปตามกฏของสังคมที่ยอมรับ และ ต้องยอมรับค่ะ
|
|
|
|
![]() |
|
|
คนรวยกว่า A มีเยอะ แต่เลวแบบ A แล้วเอากับ J มีน้อย เพราะ J วิ่งหามาหลายไฮโซละ แต่ไม่มีใครโง่เอา J แบบ A ไง
ถูกค่ะ ที่คนก่อนๆตีจากเพราะอะไร มันน่าคิดนะ มันต้องมีอะไรที่ความสวยและเก่งของเธอไม่ช่วยให้เธอจับคนก่อนหน้าได้อยู่หมัด และอีกอย่างคุณบอกเองว่าที่ A ไม่ออกมาป่าวประกาศว่าได้เลิกกับ T มานานแล้วเพราะเกี่ยวเนืองกับหน้าที่การ งาน เรื่องหน้าทางของสังคม แล้วตอนนักข่าวมาสัมภาษณ์ T คุณไปว่าเค้าว่าทำไมไม่บอกนักข่าว ไม่ชี้แจ้ง ทำให้ได้เครดิตจากสังคม ทำให้สังคมประณาม Y และ J ทำร้ายผู้หญิงด้วยกัน ดูแล้ว T เค้าไม่ใช่คนปากมาก ที่อยากจะบอก หรือสื่อให้โลกรู้ในสิ่งที่ทำ เหมือน J และพอวันนี้ A ประกาศ แต่งงานกะ J เค้าบอกว่ารัก เลยไม่ต้องห่วงหน้าตาทางสังคมแล้ว? คนใหม่น่าอวดกว่า สาวกว่า สวยกว่า? หนี Tไปมีความสุข แล้วสิ่งที่ T อดทนมาตลอดก็เพื่อหน้าที่การงาน หน้าตาทางสังคมของ A ก็เหมือนโดนหักหน้า กลายเป็นคนนอกในทันที(แม้ว่าอาจจะเป็นมานานแล้ว) ไม่มีที่ยืน นอกจากตำแหน่ง แม่ของลูก อืมมม นานาจิตตังเนอะ
|
|
|
|
![]() |
|
ม
|
เห็นใจ ที เจ เห้นแก่ตัว เอมักง่าย เจกับเอ เหมาะกันสุดแล้ว
|
|
|
|
![]() |
|
|