รายได้ไตรมาส 1 ขยายตัว 13.6% เมื่อเทียบรายปี และ 2.7% เมื่อเทียบรายไตรมาส
ประเด็นเด่นด้านการเงิน
ผลประกอบการรวมตามมาตรฐานการบัญชีระหว่างประเทศ (International Financial Reporting Standards: IFRS) สำหรับไตรมาสสิ้นสุด ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2556
- รายได้ 1,991 ล้านดอลลาร์สำหรับไตรมาสสิ้นสุด ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2556
เพิ่มขึ้น 2.7% เมื่อเทียบไตรมาสต่อไตรมาส
เพิ่มขึ้น 13.6% เมื่อเทียบปีต่อปี
- กำไรสุทธิ 418 ล้านดอลลาร์สำหรับไตรมาสสิ้นสุด ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2556
ลดลง 5.9% เมื่อเทียบไตรมาสต่อไตรมาส
เพิ่มขึ้น 0.5% เมื่อเทียบปีต่อปี
- กำไรต่อ ADS (Earnings per American Depositary Share: EPADS) 0.73 ดอลลาร์สำหรับไตรมาสสิ้นสุด ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2556
ลดลง 6.4% เมื่อเทียบไตรมาสต่อไตรมาส
ไม่เปลี่ยนแปลง เมื่อเทียบปีต่อปี
- สินทรัพย์สภาพคล่อง ซึ่งประกอบด้วยเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด, สินทรัพย์ทางการเงินที่พร้อมจำหน่าย และพันธบัตรรัฐบาล อยู่ที่ 4.1 พันล้านดอลลาร์ เทียบกับ 4.4 พันล้านดอลลาร์ ณ วันที่ 31 มีนาคม 2556
ประเด็นสำคัญอื่นๆ
- อินโฟซิสและบริษัทในเครือมีลูกค้าเพิ่ม 66 รายในระหว่างไตรมาส
- อินโฟซิสและบริษัทในเครือจ้างพนักงานเพิ่มขึ้นรวม 10,138 คน (เพิ่มขึ้นสุทธิ 575 คน) ในไตรมาสดังกล่าว
- อินโฟซิสและบริษัทในเครือมีจำนวนพนักงานทั้งสิ้น 157,263 คน ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2556
“แม้เผชิญกับสภาพแวดล้อมมหภาคที่ไม่แน่นอน กฎระเบียบที่เปลี่ยนแปลง และอัตราแลกเปลี่ยนที่ผันผวน แต่เราก็มีผลการดำเนินงานที่ดีในไตรมาสแรก และมีมุมมองเชิงบวกแบบระมัดระวังสำหรับช่วงที่เหลือของปี” S. D. Shibulal ซีอีโอและกรรมการผู้จัดการ กล่าว
“เรายังคงมีกำไรและเดินหน้าลงทุนในธุรกิจ” Rajiv Bansal ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินกล่าว “เราได้ประกาศเพิ่มค่าตอบแทนสำหรับปีงบการเงิน 2557 ซึ่งเริ่มต้นในเดือนกรกฎาคม และจะมีผลต่อกำไรของเราในไตรมาสต่อๆไป”
แนวโน้ม*
แนวโน้มของบริษัท (รวมบริษัทย่อย) สำหรับปีงบการเงิน ซึ่งสิ้นสุด ณ วันที่ 31 มีนาคม 2557 ตามมาตรฐานการบัญชีระหว่างประเทศ (IFRS) มีดังนี้
- คาดว่ารายได้จะขยายตัวที่อัตรา 6% - 10%
ประเด็นเด่นทางธุรกิจ
- เรายังคงได้รับกระแสตอบรับที่ดีจากลูกค้าในการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์และแพลตฟอร์มต่างๆของบริษัท โดยลูกค้า 9 รายจากหลายประเทศเลือกใช้ผลิตภัณฑ์และแพลตฟอร์มของเรา (ไม่รวม Finacle(TM))
- CareFirst BlueCross BlueShield ได้ทำสัญญาด้านการบริหารจัดการเครือข่ายเป็นระยะเวลา 3 ปีกับเรา ในการส่งมอบบริการที่คุ้มราคา และส่งเสริมประสิทธิภาพในด้านการสนับสนุนแอพพลิเคชั่น Infosys Public Services จะสร้างโรงงานที่ปลอดภัยภายในศูนย์ส่งมอบสินค้าซึ่งจัดตั้งขึ้นใหม่ในเมืองร็อควิลล์ รัฐแมรีแลนด์ เพื่อให้บริการด้านสัญญา และช่วยให้ CareFirst สามารถผนวกรวมบริการการสนับสนุนด้านไอทีซึ่งปัจจุบันบริหารจัดการโดยผู้จำหน่ายหลายราย
- เราได้ประกาศความร่วมมือกับ IPsoft เพื่อนำเสนอบริการด้านไอทีในรูปแบบอัตโนมัติแก่ลูกค้าของเรา โดย IPsoft และอินโฟซิสจะร่วมกันจัดตั้ง Autonomics Center of Excellence และ Autonomics Lab ที่ Infosys Global Education Center ในเมืองไมซอร์ โดย Center of Excellence จะมุ่งเน้นการพัฒนาขีดความสามารถด้านเทคนิค และเป็นสถานที่สำหรับฝึกอบรมพนักงานของบริษัท ส่วน Lab จะพัฒนาการทดสอบเกี่ยวกับแนวคิด และการออกแบบโซลูชั่นอัตโนมัติสำหรับลูกค้า
- ความมุ่งมั่นของเราในการนำเสนอระบบคลาวด์และ Big Data ในฐานะธุรกิจใหม่ที่มีโอกาสเติบโตสูงยังคงให้ผลตอบแทนที่น่าพึงพอใจ โดยมีการทำสัญญากว่า 100 รายการในธุรกิจดังกล่าว ซึ่งในไตรมาสที่ผ่านมา อินโฟซิสบรรลุข้อตกลงกว่า 15 รายการสำหรับบริการคลาวด์ และ Big Data นอกจากนี้ บริษัทยังได้รับเชิญให้เข้าร่วม Open Data Center Alliance (ODCA) ในฐานะสมาชิกผู้มีบทบาทในการช่วยกำหนดและส่งเสริมมาตรฐานอุตสาหกรรมทั่วโลก เพื่อรองรับความต้องการด้านต่างๆในการใช้ระบบคลาวด์ และ Big Data ภายในองค์กร
- ลูกค้าของเรายังคงใช้บริการ Mobility เพื่อแยกแยะความแตกต่างของธุรกิจ การดำเนินงาน รวมไปถึงการทำสัญญากับลูกค้าของแต่ละบริษัท โดยในไตรมาสล่าสุดนี้ เราได้ทำสัญญากับลูกค้าใหม่จำนวน 25 ราย จากอุตสาหกรรมและขอบเขตงานหลากหลายประเภท เช่น การบริการ การทำข้อตกลงกับลูกค้า และประสิทธิภาพขององค์กร
- โซลูชั่น Finacle(TM) ของบริษัทยังคงมีกระแสตอบรับที่ดีในช่วงไตรมาสที่แล้ว โดยได้บรรลุข้อตกลงทางธุรกิจกับลูกค้ารายใหม่จำนวน 15 ราย นอกจากนี้ ธนาคารอีก 14 แห่งในภูมิภาคตะวันออกกลาง แอฟริกา เอเชีย และอเมริกากลางก็กำลังใช้โซลูชั่นดังกล่าวด้วยเช่นกัน ซึ่งรวมถึงลูกค้าโซลูชั่น Finacle(TM) รายแรกในมองโกเลีย นอกจากนี้ Finacle(TM) ยังเป็นระบบหลักการธนาคาร หรือ core banking ระบบแรกที่ประสบความสำเร็จในการใช้งานในตุรกีในปัจจุบัน
- ในช่วงไตรมาสแรก อินโฟซิสได้ยื่นขอจดสิทธิบัตรจำนวน 18 รายการในอินเดียและสหรัฐอเมริกา ส่งผลให้ปัจจุบันบริษัทมีสิทธิบัตร 528 รายการที่อยู่ในระหว่างขั้นตอนการขอจดทะเบียน ทั้งในอินเดีย สหรัฐอมริกา และเขตอำนาจศาลอื่นๆ และได้รับการรับรองสิทธิบัตรแล้ว 106 รายการจากสำนักงานสิทธิบัตรและเครื่องหมายการค้าสหรัฐ และอีก 3 รายการจากสำนักงานสิทธิบัตรลักเซมเบิร์ก