|
ที่มา ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
พลันที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เปิดเผยว่า กำลังตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีที่ "ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร" นายกรัฐมนตรี แจ้งบัญชีทรัพย์สินต่อ ป.ป.ช.ว่า ได้ปล่อยกู้เงินจำนวน 30 ล้านบาท ให้กับบริษัท แอด อินเด็กซ์ จำกัด ที่มีนายอนุสรณ์ อมรฉัตร ผู้เป็นสามี และเครือญาติถือหุ้นใหญ่ ในปี 2549-2550
กรณีดังกล่าวทำให้ตึกไทยคู่ฟ้าเกิดแรงสั่นสะเทือน สะเทือนไปไกลถึงชั้น 2 และชั้น 4 ของอาคารโอเอไอ อันเป็นห้องทีมฝ่ายกฎหมาย และผู้บริหารพรรคเพื่อไทย เป็นแรงสะเทือนที่คนในทำเนียบรัฐบาล และพรรคเพื่อไทยต้องลุ้นระทึก
อาจเป็นเพราะคนในรัฐบาล คนในพรรคเพื่อไทย เชื่อว่าอำนาจยุติธรรมไม่ได้อยู่เคียงข้าง
จึงทำให้มีวิเคราะห์กันว่า การยื่นบัญชีทรัพย์สินดังกล่าวของ "ยิ่งลักษณ์" อาจถูกตีความว่าเข้าข่ายแสดงบัญชีรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบด้วยถ้อยคำและข้อความอันเป็นเท็จต่อ ป.ป.ช.
สำทับกระแสข่าวที่ระบุว่า การที่พรรคเพื่อไทยให้นายเกษม นิมลรัตน์ ลุกจากเก้าอี้ผู้แทนฯ จ.เชียงใหม่ พร้อมเปิดทางให้ "เยาวภา วงศ์สวัสดิ์" ลงรับเลือกตั้งซ่อมแทน เพื่อให้มาเป็นนายกฯสำรอง หาก "ยิ่งลักษณ์" เกิดอุบัติเหตุทางการเมือง ยิ่งมีน้ำหนัก
แม้ "ยิ่งลักษณ์" จะขอโอกาสทำงานทันทีที่ถูกผู้สื่อข่าวถามถึงกระแสข่าวการวางตัวนายกฯสำรอง
"โธ่...จะไม่ให้ทำงานแล้วเหรอคะ ได้รับโอกาสจากพี่น้องประชาชนมาปีกว่า อยากเห็นการทำงานจนครบสมัย เพื่อจะได้พิสูจน์การทำงานของรัฐบาล ขอโอกาส อย่าเพิ่งไปมองคนอื่นเลย วันนี้ยิ่งลักษณ์ขอยืนยันที่จะทำงานรับใช้พี่น้องประชาชนอย่างเต็มความสามารถ หวังว่าจะมีความยุติธรรม และความเป็นธรรมให้กับดิฉันค่ะ"
แต่ทีมฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทยก็ยังไม่กล้าฟันธงว่า "ยิ่งลักษณ์" จะรอด หรือไม่รอด ทั้งที่มั่นใจว่าสามารถแก้ข้อกล่าวหาดังกล่าวได้ โดยไม่มีมลทินติดตัวนายกฯ เพราะเป็นการปล่อยกู้ให้กับสามีในขณะที่ยังไม่ได้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เป็นเพียงการทำธุรกรรมตามปกติเท่านั้น ไม่มีแรงจูงใจที่จะทำทุจริต
แต่ด้วยความที่คิดว่าอำนาจยุติธรรมเป็นปฏิปักษ์กับพรรคเพื่อไทย และรัฐบาล ทีมเนติบริกรของพรรคจึงยังไม่กล้าฟันธง ว่าสุดท้ายคดีดังกล่าวจะออกหัว หรือก้อย
"แม้เราเชื่อมั่นว่าไม่ผิด แต่เราก็ไม่สามารถมั่นใจได้ว่า ป.ป.ช.จะชี้มูลความผิดหรือไม่ เพราะการต่อสู้ของพรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชนในอดีตที่ผ่านมาสะท้อนว่า ไม่ว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร แต่ในทางกฎหมายก็สามารถเขียนให้เป็นลบได้ หากเขาหมั่นไส้เรา"
ปมร้อนดังกล่าว แม้จะยังไม่มีการชี้มูลจาก ป.ป.ช. แต่พรรคเพื่อไทยก็ไม่ประมาท สั่งเพิ่มอัตรากำลังของมือกฎหมายเพื่อระดมสมองหาช่องพา "ยิ่งลักษณ์" พ้นพงหนาม
หากการระดมทีมกฎหมายเต็มอัตราศึกครั้งนี้ มิใช่ครั้งแรกที่เกิดขึ้นในชายคาพรรคเพื่อไทย เพราะในอดีตที่ "พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร" อดีตนายกรัฐมนตรี พี่ชายของ "ยิ่งลักษณ์" ยังพจญมรสุมคดียึดทรัพย์ เขาเคยรวบรวมมือกฎหมายชั้นเซียนมา ระดมกึ๋นเพื่อหาทางรอดเช่นกัน
โดยเฉพาะหาทางแก้ 2 ข้อกล่าวหา ที่คือ 1.พ.ต.ท.ทักษิณและคู่สมรสได้ปกปิดการถือหุ้นบริษัท ชินคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) จำนวน 1,149,490,150 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 48 ของจำนวนหุ้นทั้งหมด ทั้งที่ทั้งสองคนเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่แท้จริง แต่ใช้ชื่อ "นายพานทองแท้ ชินวัตร" บุตรชาย ถือหุ้นแทนจำนวน 458,550,000 หุ้น "น.ส.พินทองทา ชินวัตร" บุตรสาว ถือหุ้นแทนจำนวน 604,600,000 หุ้น น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร น้องสาว ถือหุ้นแทน 20,000,000 หุ้น และนายบรรณพจน์ ดามาพงศ์ พี่ชายบุญธรรมของคุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพ็ชร์ ถือหุ้นแทน 336,340,150 หุ้น
2.ในระหว่างที่ พ.ต.ท.ทักษิณเป็นนายกฯ ก็ได้ปฏิบัติหน้าที่ หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่ สั่งการมอบนโยบาย รวมทั้งเจ้าหน้าที่ของรัฐและหน่วยงานของรัฐใต้บังคับบัญชา หรือกำกับดูแลของผู้ถูกกล่าวหา (พ.ต.ท.ทักษิณ) กระทำการที่เป็นการเอื้อประโยชน์แก่ชินคอร์ป และบริษัทในเครือเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะข้อกล่าวหาปกปิดการถือหุ้นที่ "ยิ่งลักษณ์" ในวันนั้นยังเป็นหนึ่งในผู้บริหารเครือชินคอร์ป ถูกโยงเข้ามาเกี่ยวข้อง
การทำธุรกรรมทางการเงินของ "ยิ่งลักษณ์" ในวันที่คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ใช้อำนาจแทน ป.ป.ช.สั่งอายัดเงินทั้งหมดที่ได้จากการขายหุ้นบริษัท ชินคอร์ป ให้เทมาเส็ก อันรวมถึงจำนวนหุ้น 0.68 เปอร์เซ็นต์ ที่ "ยิ่งลักษณ์" ถือครองอยู่ด้วย ทำให้การทำธุรกรรมทั้งหมดของ "ยิ่งลักษณ์" ต้องถูกแช่แข็ง แม้เงินจะโอนเข้าสู่บัญชีอื่น ๆ ในชื่อ "ยิ่งลักษณ์" แต่ก็ถูกแกะรอยตามไปอายัดแทบทุกบัญชี
ครั้งนั้น "ยิ่งลักษณ์" เบิกความต่อหน้าบัลลังก์ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เมื่อ 6 ส.ค. 2552 ว่า
"ที่ผ่านมาในชั้นใต่สวนของ คตส.ได้เรียกไปใต่สวนในฐานะพยานนานถึง 9 ชั่วโมง แต่ไม่เคยสอบถามเกี่ยวกับการซื้อขายของหุ้นชินคอร์ป และต่อมาก็มีคำสั่งอายัดทรัพย์ ซึ่งก็ขอพิสูจน์ แต่กลับไม่ได้รับโอกาสให้พิสูจน์ จนเรื่องมาถึงศาล จึงขอความเป็นธรรมจากศาลว่า ทรัพย์ที่ซื้อมาเป็นไปด้วยสุจริต"
บรรทัดสุดท้าย "พ.ต.ท.ทักษิณ" ก็จนมุม 2 ข้อกล่าวหา ถูกยึดทรัพย์ไป 46,373 ล้านบาท
4 ปีต่อมา "ยิ่งลักษณ์" เอ่ยปากขอความเป็นธรรมอีกครั้ง ในกรณีการแจ้งบัญชีทรัพย์สิน ที่ปล่อยกู้เงิน 30 ล้านบาท ให้กับบริษัท แอด อินเด็กซ์ จำกัด
เป็นคำวิงวอนที่ไม่รู้ว่าบรรทัดสุดท้ายจะลงเอยพ้นจากเก้าอี้นายกฯ คล้ายพี่ชายหรือไม่
|
|
|
|
|
|
![]() |
|
แล้วไง มีความสุขมั้ย
|
ถ้าไม่รู้จักพอ คนเรา ยิ่งรวยก็ยิ่งโกง คิด คิด คิด แต่จะโกงอย่างไรให้ยิ่ง ยิ่ง ยิ่งรวย 
|
|
|
|
![]() |
|
ขอออกความเห็น
|
ตระกูลนี้คงหาความสุขยากตราบใดที่ชีวิตไม่รู้จักคำว่าพอ และบาปกรรมที่ทำกับประเทศและเอาจุดอ่อนของคนไทยมาเป็นเครื่องมือในการขึ้นสู่อำนาจของตัวเองและพวกพ้องไปกอบโกยผลประโยชน์ของชาติเข้ากระเป๋าตัวเอง ตายสักที่ชาติจะชดใช้เวรกรรมได้หมด ไปไหนก็มีแต่คนสาปแช่ง แค่เห็นว่าเป็นนามสกุล ชินวัตร ก็ร้องยี้แล้ว
|
|
|
|
![]() |
|
โดม
|
กรรมใดใครก่อ กรรมนั้นย่อมตามสนอง ไม่วันใดก็วันหนึ่ง
|
|
|
|
![]() |
|
888
|
คนรวยเล่นการเมืองก็ต้องคิดแต่ผลกำไรมากๆเข้ากระเป๋าตัวเอง ส่วนจะคิดถึงประชาชนนั้นคงลืมคิดไป
|
|
|
|
![]() |
|
กรรม
|
|
|
|
|
![]() |
|
Little Voice
|
|
|
|
|
![]() |
|
sm
|
อยู่มาถึงบัดนี้ได้ก็ถือว่าดีมากแล้วน่าจะโดนไปตั้งนานแล้ว
|
|
|
|
![]() |
|
ขอคืน
|
ไปเอาเขา 4.6 แต่ขอคืน 2.2 จิ๊บ จิ๊บ
|
|
|
|
![]() |
|
s;fwfl[w
|
ตระกูลทำความไม่ดีไว้กับประเทศมาก คิดแต่จะโกง คงหาความสงบสุขไม่ได้ บาปกรรม ของคนตระกูลนี้จริงๆ คงแก้กรรม ยาก!!!!! 
|
|
|
|
![]() |
|
รอดยาก
|
รอดยากขนาดนายกสมัครทำกับข้าวออกทีวียังพ้นตำแหน่งนายกเลย แต่ของ ปชป.คดีหมดอายุความ เลยยกฟ้อง ฮิฮิฮิฮิฮิ
|
|
|
|
![]() |
|
A+
|
คนที่บอกว่าพอแต่ลึกๆพอหรือยัง หรือพอจริงๆแต่ขี้ข้าไม่พอ
|
|
|
|
![]() |
|
คนดีไม่คิดโกงชาติ
|
ตระกูลนี้จะดีมากถ้ารู้จักทำธุรกิจตรงไปตรงมาบ้าง ชอบมีนิสัยซุกๆซ่อนๆเอาเปรียบชาติเอาเปรียบคนอื่นมาตลอด พอมาเป็นนักการเมืองก็เอานิสัยมาโกงชาติบ้านเมืองอีก แย่เนอะ....
|
|
|
|
![]() |
|
งง
|
ที่มีอยู่ืุกวันนี้ยังไม่พออีกหรือ
|
|
|
|
![]() |
|
ไม่รู้จักพอ
|
จริง ๆ ตระกูลนี้ก็เก่งนะ แต่ไม่ไหวไม่รู้จักพอ โกงได้เป็นโกง โกงชาติโกงบ้านเมือง หรือที่รวยมาได้ทุกวันนี้ ก็เพราะโกงเค้ามา ระวังเถอะกรรมมันจะตามทัน มีแต่คนสาปแช่ง คุณพวกที่คอยเลียแข้งเลียขาเหมือนกัน ลองไม่มีเงินให้มันดูซิ รับรองหายหัวกันไปหมด
|
|
|
|
![]() |
|
คนอ่าน
|
บริษัทของนาง และบริษัทของสามีนาง ก็ถนัดตบแต่งบัญชี ปล่อยกู้กันเอง เพื่อประชาธิปฟอกๆๆๆ.... ตบแต่งการซุกซ่อน โยกย้ายทรัพย์สินที่ฉก ฉ้อ ฉล เอาเปรี่ยบชาวบ้าน เหมือนนางถนัดแต่เรื่องตบแต่งหน้าตา มาพูดคิดบวกๆๆ ออกทีวีน่ะแหละ
วันๆเห็นแต่รัฐบาลไทยมีแต่ปัญญากู้กระฉูดต่อเนื่องจากอดีตรัฐบาลลูกเดียว ...แต่คนไทยจนลงๆ จนลง หนี้สินครัวเรือนแต่ละบ้าน แต่ละบ้านท่วมหัว คุณภาพประชากรโหลยโท่ย ครูบาอาจารย์โกงข้อสอบเข้าครู เข้าตำรวจไทย วันๆ ผู้นำเอาแต่ช่วยเป่าคดีให้พี่ชายโกงชาติ
..เลยยิ่งทำชาวบ้านกระหาย ตื่นเต้น จิตใจจดจ่อ อยากรู้อยู่อย่างเดียวว่าบริษัทครอบครัว บริษัทของตระกูลผู้นำไทยมันจะตบแต่งบัญชีให้ขาดทุนยังไงเพื่อปกปิดกำไรกระฉูดอย่างไร มันจะปั่นหุ้นบริษัทตัวเองอย่างไร กู้ยืมเงินกันในระหว่างบริษัทในครอบครัวตระกูลร่วมหมื่นล้านเพื่อปกปิดเงินที่ฉก ฉ้อฉล เอาเปรียบ ภาษีประชาชนมาอย่างไร ขนเงินฟอกเมืองนอกในลักษณะใด
|
|
|
|
![]() |
|
|
เสื้อ
|
ยุบพรรค ยึดเงิน ยุบคน ยังแพ้
|
|
|
|
![]() |
|
|