ลับ ลวง พราง กับ นโยบายสาธารณสุขเพื่อใคร...!!!

[เมื่อ:]

ลับ ลวง พราง กับ นโยบายสาธารณสุขเพื่อใคร...!!!





ชมรมแพทย์ชนบท และบุคลากรทางการแพทย์ที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ในชนบทและพื้นที่ห่างไกลจำนวนมาก ได้แต่งชุดดำ ร่วมชุมนุมวางพวงหรีดและป้ายประท้วงขับไล่ นพ.ประดิษฐ สินธวณรงค์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข บริเวณหน้าทำเนียบรัฐบาล

1) ปัจจุบัน ชาวบ้านในต่างจังหวัดจำนวนมากยังเข้าไม่ถึงบริการสาธารณสุขที่มีคุณภาพ

ในชนบท พื้นที่ห่างไกล หรือถิ่นทุรกันดาร ยังขาดแคลนบุคลากรทางการแพทย์จำนวนมาก

ภาคอีสานบางจังหวัด อัตราส่วนแพทย์ 1 คนต่อประชากร 8,000 คน

เปรียบเทียบกับพื้นที่กรุงเทพฯ แพทย์ 1 คน ต่อประชากร 700-800 คน

ภาพชินตาสำหรับคนในต่างจังหวัด ตามโรงพยาบาลชุมชนที่ห่างไกล คือ สภาพการณ์ความแออัดในโรงพยาบาล ชาวบ้าน
ต้องรอนาน 4-5 ชั่วโมง กว่าจะได้พบแพทย์ และเนื่องจากคนป่วยมีมาก แพทย์มีน้อย แพทย์ก็สามารถจะตรวจวินิจฉัยอาการคนไข้ได้เพียงรายละ 2-3 นาทีเท่านั้น

[ตอบ #1 เมื่อ:]

2) ในความเป็นจริง แพทย์ พยาบาล บุคลากรสาธารณสุขที่ทำงานในพื้นที่ทุรกันดาร เขาก็มีสติปัญญาความรู้ มีวิชาเป็นทรัพย์
ติดตัวไม่แพ้บุคลากรที่ทำงานโรงพยาบาลเอกชนในเมืองใหญ่

การทำงานหนัก เหนื่อย และอยู่ในท้องถิ่นที่ไม่มีความสะดวกสบาย นับว่าเป็นการทำงานสาธารณะที่เป็นประโยชน์แก่ประชาชนและประเทศชาติอย่างที่สุด

อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันจะมีแพทย์ในชนบทลาออก เฉลี่ยประมาณ 400-500 คนต่อปี

ไหลไปทำงานในภาคเอกชนที่ให้ค่าตอบแทนสูงกว่ามาก สภาพแวดล้อมสะดวกสบายและปลอดภัยกว่า

นโยบายและมาตรการของรัฐ ควรจะแก้ปัญหานี้ มิใช่ซ้ำเติมปัญหา หรือกลายเป็นตัวเร่ง ผลักไสไล่ส่งให้บุคลากรไหลออกจากชนบทเสียเอง

[ตอบ #2 เมื่อ:]

3) ในยุครัฐบาลยิ่งลักษณ์ การดำเนินนโยบายสาธารณสุขที่เกี่ยวข้องกับคุณภาพและการเข้าถึงบริการสาธารณสุขของคนไทย โดยเฉพาะคนยากจนในชนบทมีปัญหามาก

รัฐบาลยิ่งลักษณ์ได้แช่แข็งงบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าเป็นเวลา 3 ปี จำกัดงบรายหัวอยู่ที่ 2,755 บาท/คน/ปี ในขณะที่ค่าใช้จ่ายในระบบสุขภาพสูงขึ้น ไม่ว่าจะเป็น เงินเดือน ค่ายาเวชภัณฑ์ ปริมาณผู้ป่วยที่มารับบริการ ฯลฯ ภาระที่เพิ่มขึ้นตกอยู่กับโรงพยาบาล และสุดท้าย ก็จะไปตกกับประชาชนที่ต้องพึ่งระบบประกันสุขภาพของรัฐ

คนรวย คนมีเงิน คนที่สามารถเข้าโรงพยาบาลเอกชนได้ ก็ลอยตัวไป

จะว่าไปแล้ว ก็น่าจะเป็นแรงผลักดันอีกทางหนึ่งที่บีบให้คนที่พอจะมีเงิน(หรือสามารถหาเงิน) เกิดความเบื่อหน่ายระบบประกันสุขภาพถ้วนหน้า กระทั่งหันไปเป็นลูกค้าโรงพยาบาลเอกชนมากขึ้น

สอดรับพอดีกับนโยบายส่งเสริมธุรกิจโรงพยาบาลเอกชนของรัฐบาล (เมดิคัลฮับ) ซึ่งนักธุรกิจในเครือข่ายของรัฐบาลก็มีหุ้นและเป็นเจ้าของธุรกิจโรงพยาบาลเอกชนอยู่พอดีอีกเหมือนกัน

[ตอบ #3 เมื่อ:]

4) ดร.อัมมาร สยามวาลา นักวิชาการเกียรติคุณทีดีอาร์ไอ (ผู้ผลักดันระบบประกันสุขภาพถ้วนหน้า) เคยเตือนไว้ว่า ขณะนี้ โรงพยาบาลรัฐที่ให้บริการคนไทยในระบบประกันสุขภาพถ้วนหน้า 30 บาทรักษาทุกโรค,ประกันสังคม,สวัสดิการข้าราชการ ถูกจำกัดมาก เพราะคนใช้บริการมาก แต่รัฐไม่ให้ทรัพยากรเพียงพอและไม่ลงทุน ลองไปดูห้องพักคนไข้สามัญตามโรงพยาบาลศูนย์ในจังหวัดต่างๆ จะพบข้อจำกัดที่แย่มาก

“ขอพูดว่าทุเรศและแย่มาก สุขลักษณะมีปัญหา ผอ.โรงพยาบาลดำเนินการดีที่สุดภายใต้เงื่อนไขที่จำกัดและควรยกย่อง แต่รัฐบาลที่ใช้นโยบายประชานิยมทุกอย่าง แต่ไม่เคยพูดเรื่องนี้เลยว่าจะทำให้ดีขึ้น ทรัพยากรที่ลงไปในด้านนี้จากรัฐนั้นไม่ดีเลย และมีงบจำกัดมาก”

อาจารย์อัมมารชี้ว่า รัฐบาลมีรายได้เพิ่มขึ้นทุกปี แต่เอาเงินไปใช้ประชานิยมเรื่องอื่นๆ เสียเยอะ ซ้ำยังมีนโยบายบีบเอกชนไม่ให้บริการคนไทย ทำให้เอกชนรับลูกค้าต่างชาติและคนไทยที่มีฐานะทางการเงิน เป็นการดูดทรัพยากรไปจากโรงพยาบาลรัฐ

[ตอบ #4 เมื่อ:]

5) ล่าสุด รัฐบาลยิ่งลักษณ์ยังมีนโยบายปรับค่าตอบแทนเบี้ยเลี้ยงเหมาจ่ายของบุคลากรสาธารณสุขทั่วประเทศ โดยจะเปลี่ยนเป็นระบบที่คิดตามภาระงาน หรือพีฟอร์พี (Pay for Performance : P4P) ซึ่งกระทบต่อเบี้ยเลี้ยงเหมาจ่าย (เบี้ยกันดาร)ที่บุคลากรทางการแพทย์ในชนบทเคยได้รับ

มีผลในการลดแรงจูงใจหรือรางวัลตอบแทนการทำงานอยู่ในพื้นที่ชนบท โดยเฉพาะแพทย์ที่ทำงานอยู่ในพื้นที่มาหลายๆ ปี อาจทำให้แพทย์กลุ่มนี้ขอย้ายไปอยู่ในตัวเมือง หรือลาออกไปอยู่ในภาคเอกชนแทน

สำคัญคือ จะผลักให้บุคลากรทางการแพทย์หลุดออกจากพื้นที่ชนบท

สอดรับพอดีกับนโยบายเมดิคัลฮับ ซึ่งเวลานี้ โรงพยาบาลเอกชนได้เปิดสาขาตามภูมิภาคมากขึ้น กำลังมีความต้องการดึงบุคลากรทางการแพทย์จากโรงพยาบาลชุมชนในพื้นที่อยู่พอดี

[ตอบ #5 เมื่อ:]

6) รูปการณ์ที่เกิดขึ้น ถูกมองได้ว่า

(1) ระบบประกันสุขภาพของรัฐถูกแช่แข็ง ดองเค็ม ทำให้คุณภาพแย่ประชาชนเข้าไม่ถึง

(2) ประชาชนคนไทยกำลังถูกบีบโดยมือที่มองไม่เห็น เพื่อให้หันไปเป็นลูกค้าธุรกิจโรงพยาบาลมากขึ้น

(3) ธุรกิจโรงพยาบาลเอกชนได้ประโยชน์จากนโยบายเมดิคัลฮับ กำลังดึงดูดแพทย์และพยาบาลไปทำงาน

(4) บุคลากรการแพทย์ของภาครัฐในชนบทถูกผลักออกจากชนบท หรือไหลไปอยู่กับธุรกิจเอกชน

ลับ-ลวง-พราง นโยบายสาธารณสุข... เพื่อใคร?



ที่มา : http://www.naewna.com/politic/columnist/5967

[ตอบ #6 เมื่อ:]

[ตอบ #7 เมื่อ:]

[ตอบ #8 เมื่อ:]

[ไอค่อนข้อความ:]

	ปรากฎข้อผิดพลาดตังต่อไปนี้ขณะส่งข้อความนี้:
	คำเตือน: ความคิดเห็นนี้ถูกล็อกไว้! เฉพาะผู้ดูแลเท่านั้นที่ตอบได้
ชื่อ:
	แชร์ไป Facebook ด้วย
กระทู้:
ไอค่อนข้อความ:	ไอค่อนขณะนี้ กระทู้ทั่วไปเหมาะสำหรับผู้ชมทุกวัย กระทู้สำหรับเด็กก่อนวัยเรียน กระทู้สำหรับเด็ก กระทู้ที่ผู้ใหญ่ควรให้คำแนะนำ กระทู้ที่ผู้ใหญ่ควรให้คำแนะนำแก่ผู้อ่านที่มีอายุน้อยกว่า 13 ปี กระทู้ที่ผู้ใหญ่ควรให้คำแนะนำแก่ผู้อ่านที่มีอายุน้อยกว่า 18 ปี กระทู้เฉพาะไม่เหมาะกับเด็กและเยาวชน
	ตัวหนาตัวเอียงตัวขีดเส้นใต้จัดย่อหน้าชิดซ้ายจัดย่อหน้ากึ่งกลางจัดย่อหน้าชิดขวา ขนาดตัวอักษร เล็กมาก เล็ก ปกติ ใหญ่ ใหญ่มาก เปลี่ยนสี สีดำ/ขาว สีแดง สีเหลือง สีชมพู สีเขียว สีส้ม สีม่วง สีนํ้าเงิน/ฟ้า สีเทา สีน้ำตาล สีเขียวฟ้า สีกรมท่า สีเลือดนก สีเหลืองอมเขียว
	[เพิ่มเติม]
	กลับไปกระทู้นี้ หลังจากการตั้งความคิดเห็น ไม่ใช้สัญลักษณ์แสดงอารมณ์
แนบไฟล์:	(แนบไฟล์เพิ่ม) ไฟล์ที่อนุญาต: gif, jpg, jpeg ขนาดไฟล์สูงสุดที่อนุญาต 20000000 KB : 4 ไฟล์ : ต่อความคิดเห็น
ติดตามกระทู้นี้ :	ส่งไปที่อีเมลของสมาชิกสนุก
	ส่งไปที่
พิมพ์อักษรตามภาพ: