ผ่อนรถคันแรกไม่ไหวทำยังไงดี?

เพิ่งจะมีรถคันแรกเป็นของตัวเอง แต่เกิดปัญหาผ่อนไม่ไหว เพราะมีค่าใช้จ่ายตามมามากกว่าที่คิดไว้ ไม่ว่าจะเป็นค่าน้ำมัน ค่าทางด่วน ค่าที่จอดรถ ค่าล้างรถ ค่าดูแลรักษารถ ค่าประกัน ค่าต่อทะเบียน สารพัดสารพันค่าใช้จ่าย ยังไม่รวมค่าผ่อนรถก็มีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นมาเป็นหลักหมื่น แถมยังมีข่าวว่าจะขึ้นค่าประกันรถอีก จะให้ญาติพี่น้องช่วยเหลือก็ดูไม่ดี เดี๋ยวจะว่า ว่าทำไมไม่คิดให้ดีก่อนซื้อ แต่ก็นั่นแหละเห็นเงินที่จะได้คืนสูงถึง 1 แสนบาทรออยู่ตรงหน้า ทำให้ไม่ทันได้คิดให้ดีก็ตัดสินใจซื้อรถคันที่ใช่ คันที่ชอบไป แต่หลังจากได้รถมาไม่นาน ผ่อนไปได้เพียงไม่กี่เดือนก็เริ่มรู้ตัวแล้วว่าจะผ่อนต่อไม่ไหว ปรึกษาคนที่เคยมีรถมาก่อน เขาก็บอกให้ไปใช้สินเชื่อรถช่วยได้ แต่ก็ทำไม่ได้เพราะรถยังผ่อนไม่หมด มีวิธีไหนบ้างที่จะช่วยไม่ให้รถถูกยึด มาลองดูกันค่ะ

วิธีที่จะช่วยบรรเทาไม่ให้รถถูกยึด สามารถทำได้ด้วย 6 วิธี ประกอบด้วย 2 ลด และ 4 เพิ่ม ดังนี้ค่ะ

2 ลด

1. ลดค่าใช้จ่ายฟุ่มเฟือยลง ไม่ว่าจะเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับสังสรรค์กับเพื่อนๆ ที่เคยมีทุกเย็น ทุกสัปดาห์ หรือทุกเดือน หากลดค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ลง จะช่วยให้มีเงินเหลือในแต่ละเดือนเพื่อสามารถนำไปผ่อนรถได้มากขึ้น วิธีนี้อาจทำให้รู้สึกอึดอัดในช่วงแรกๆ สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการสังสรรค์กับเพื่อนๆ ที่ทำงาน หรือกับครอบครัว ช่วงนี้คงต้องลดลงค่ะ ต้องอดใจเรื่องการสังสรรค์ไว้ก่อน เพื่อรถคันที่ใช่ของคุณ

2. ลดปริมาณการใช้รถ วิธีนี้จะเหมาะกับผู้ที่มีการเดินทางไปทำงานไกลบ้าง ใกล้บ้าง ดังนั้น หากวันไหนทำงานในที่ใกล้ๆ หรือเข้าทำงานในออฟฟิศที่มีเส้นทางรถไฟฟ้าผ่าน ก็สามารถลดการใช้รถ เพื่อประหยัดค่าที่จอดรถรายวัน ค่าทางด่วน ที่สำคัญช่วยลดค่าน้ำมันด้วย

4 เพิ่ม

1. หารายได้เสริมจากงานที่ทำ เช่น การทำงานล่วงเวลา หากบริษัทต้องเร่งงานให้เสร็จทันกำหนด เราอาจเป็นคนแรกๆ ที่เสนอตัวเข้ารับทำงาน เพื่อให้งานเสร็จทันเวลา และที่สำคัญยังได้รับค่าแรงล่วงเวลาอีกด้วย หรือการหารายได้เสริมอื่นๆ จากความถนัดความชอบของตนเอง เช่น หากมีฝีมือในการทำอาหาร หรือการทำขนม ช่วงเวลานี้อาจเป็นช่วงที่เหมาะที่จะเปิดตัวผู้มีฝีมือ ดีไม่ดี อาชีพเสริมนี้หากประสบความสำเร็จ อาจเป็นอาชีพหลักที่รักในอนาคตได้อีกด้วย

2. ปล่อยเช่า ทำให้มีรายได้เพิ่มขึ้น แต่ก็ทำให้เสียโอกาสในการใช้รถของตัวเองด้วย ที่สำคัญหากเลือกวิธีนี้ต้องดูว่าคุ้มค่ากับเงินค่าเช่าที่ได้รับหรือไม่ เพราะอาจเกิดอุบัติเหตุเฉี่ยวชน หรือสภาพภายในของรถเสื่อมเร็วกว่าการใช้งานเอง ดังนั้นค่าเช่าที่ควรได้อย่างน้อยที่สุดควรเพียงพอกับค่าผ่อนรถที่ต้องเสียไปในแต่ละเดือน หากเป็นการปล่อยเช่ารายเดือน

3. ขับรถติดโฆษณา เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่เจ้าของรถยังสามารถใช้รถของตัวเองได้ แต่จะมีสติ๊กเกอร์โฆษณาติดรอบคันรถ ซึ่งอาจทำให้รถของเราดูแปลกตาไป ซึ่งการใช้วิธีนี้อาจมีเงื่อนไข เช่น ต้องขับรถไป-กลับในเส้นทางเดิมและเวลาเดิมทุกวัน ในระยะทางไม่น้อยกว่า 600 กิโลเมตรต่อเดือน ต้องจอดในที่ที่มีคนพลุกพล่าน เพื่อให้สามารถเห็นสื่อโฆษณาที่ติดอยู่บนรถได้ นอกจากนี้ บริษัทจะเลือกว่าผู้ขับต้องเป็นผู้ที่ปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด เมาไม่ขับ เพื่อไม่ให้เสื่อมเสียถึงบริษัทที่โฆษณาบนตัวรถ

4. เปิดท้ายขายของ หากในบ้านมีของเหลือใช้ ที่มีสภาพดีอยู่ สามารถเพิ่มรายได้ของเราโดยนำสิ่งของเหล่านั้นมาใส่ท้ายรถคันโปรด เพื่อเปิดท้ายขายของตามตลาดนัด หรือลานจอดรถที่มีผู้คนพลุกพล่าน วิธีนี้เป็นการแปลงของใช้ที่มีอยู่เดิมให้กลายเป็นเงิน ใช้สำหรับการผ่อนรถต่อไป

6 วิธีดังกล่าวข้างต้น เป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยบรรเทาปัญหา สำหรับผู้ที่มีภาระในการผ่อนรถ หากมีข้อสงสัยหรือต้องการปรึกษาเพิ่มเติม สามารถติดต่อ K-Expert ธนาคารกสิกรไทย ได้ที่อีเมล K-Expert@kasikornbank.com และ เว็บบอร์ดในเว็บไซต์ K-Expert นอกจากนี้ สำหรับผู้ที่สนใจข่าวสารการเงินดีๆ ติดตามได้ที่ เว็บไซต์ www.askKBank.com/K-Expert และ Twitter @KBank_Expert

อุมาพันธุ์ เจริญยิ่ง ผู้อำนวยการฝ่ายวางแผนและให้คำปรึกษาทางการเงินส่วนบุคคล

ขอแนะนำอย่าไปใช้เลย K-express เพราะคิดดอกเบี้ยสูง และคิดยุบคิดยับต่างๆ เพราะโดนมาแล้ว จนต้องแจ้งยกเลิกบัตร ชำระเงินต้นและดอกเบี้ยไปหมดแล้ว ยังส่งบิลมาเก็บดอกเบี้ยอีก อย่าหลงกลแบ๊งค์นี้

อ่านมาตั้งนาน สุดท้าย ก็ โฆษณาให้ Kbank

ปล่อยให้ยึดเถอะครับเพราะถ้าปัจจุบันยังผ่อนไม่ไหว อนาคตก็คงไม่ต้องพูดถึง

แต่เกิดปัญหาผ่อนไม่ไหว เพราะมีค่าใช้จ่ายตามมามากกว่าที่คิดไว้

งกเงินแสน ลืมคิด หรือคิดไม่ทัน

พวกแบงค์นี่แหละตัวยึดเลย ไม่ใช่วิธีที่ถูกเลยที่จะกู้อีกที่ไปจ่ายอีกที่ คือเอาเงินเสียดอกไปจ่ายค่าผ่อนที่มีดอก ไปๆมาๆ( Chip หาไม่เจอ)หมดรถถูกยึดอยู่ดี ต้องคิดให้ดีว่าถ้าไม่ไหวรู้ตัวแล้วก็ขายเอาเงินไปโปะ ขาดทุนตอนนี้ดีกว่าฝืนต่อไป

ปัญหานี้กำลังก่อตัวขึ้นอย่างกว้างขวาง
คนคิดนโยบายนี้เหมือนมุ่งหาผลประโยชน์
โดยไม่คิดถึงปัญหาและความเดือดร้อนที่จะตามมา
รถก็ติดอยู่แล้วเพิ่มขึ้นอีกล้านกว่าคัน
ผลไม่อยากจะคิด
ปัญหาคนที่มีรายได้ไม่ถึง4หมื่น
ติดกับอยากได้ส่วนลด1แสน
ถ้าผ่อนไม่ไหวปัญหาต่างๆจะตามมา
1แสนแสนที่จะได้ก็กลายเป็นลูกหนี้รถก็จะถูกยึด
เพราะเขาตั้งกับดักอีกห้ามขายโอนมิฉนั้นแสนก็ไม่ได้
ตายกับตาย
ทางออกที่พอคิดได้
แบบที่ธนาคารเสนอมาก็น่าสนใจ
ถ้าไม่ไหวจริงก็ต้องบากหน้าไปคุยกับญาติเถอะครับ
ก่อนที่ปัญหาต่างๆจะตามมา

เหมือนบ้านเอื้ออาทรตอนซื้อนะซื้อง่ายเดี๋ยวนี้ไม่มีเงินจ่ายออกหมายศาลทั้งโดนยึดโดนจับติดคุกอีกเซ็ง

มีรถคันแรกแล้ว กิน-เที่ยวเยอะหนักกว่าเดิมอีกครับ แต่ก็ยังมีตังค์เก็บอยู่นะ (แต่ตังค์เก็บลดลงจากเป้าหมายที่ตั้งไว้แต่ละเดือน) เงินเดือนผม25,xxx ครับ วางแผนการใช้จ่ายเงินแต่ละเดือนดีๆครับ q*077

แนะนำว่า อย่าไปหลงลมธนาคารแล้วก่อหนี้เพิ่มอีกเลย ระบบของธนาคารที่ล่อให้คนไปกู้เงินมีกระบวนการที่ซับซ้อน ยากต่อการเข้าใจ แต่ถ้าคิดว่าสามารถเข้าใจได้ ก็เชิญตามสะบาย จะซื้ออะไรก็ตามให้เอาความจำเป็นมาก่อน แล้วค่อยซื้อ อย่าซื้อแล้วค่อยหาเหตุความจำเป็นมาสนับสนุนการซื้อ คิดให้ดีๆ

หาคนมาผ่อนต่อดีสุดครับ ขาดทุนเงินดาวน์ไปหน่อยต้องยอมครับ ไม่งั้นหนักแน่

คิดแต่รับหลักแสน ลืมคิดจ่ายหลักพัน

q*069 ก็ต้องสู้ๆๆกันต่อไปนะคับ

นโยบายเขามีข้อกำหนดต่างๆๆต้องอ่านให้ดีถี่ถ้วนก่อนนะครับ
q*062 ลองหารายได้เสริมต่างๆกับตัดภาระรายจ่ายลง ลองดูก่อนครับ ถ้าผ่อนไม่ไหวจริงคงต้องให้ญาติช่วยเเล้วครับ

โพสรูปรถมา แล้วไห้คนไปผ่อนต่อ อย่าปล่อยให้ยืด เดี๋ยวโดนปรับ และเสียประวัติอีก

เห็นด้วยค่ะ คนที่ต้องการจะผ่อนต่อมีเยอะดีกว่าโดนยึดแล้วเสียประวัติ ให้ไปผ่อนต่อแล้วเปลี่ยนชื่อคนซื้อให้คนที่จะผ่อนต่อจ่ายเองเราไม่ต้องทำอะไร แต่อาจจะไม่ได้เงินดาวน์คืนแต่ก็ดีกว่าเสียประวัติ

ก่อนหน้าก็มีคนทักท้วงว่าจะเกิดปัญหาแบบนี้ตามมา แล้วจะเป็นการซ้ำเติมคนมีรายได้น้อย แต่ก็ไม่เชื่อแถมออกมาหาว่ากีดกันคนรายได้น้อย แล้วเป็นไงตอนนี้ นี่และลืมคำว่าพอเพียง

ตอนนี้ผ่อนไปถึงสิ้นปีแล้วค่ะ
เพราะคิดแล้วว่า ถ้าต้องหาเงินเดือนละ 7,000 กว่าทุกเดือนคงไม่ไหว
ปีหน้าได้ภาษีคืน ก็จะผ่อนให้ถึงสิ้นปีเหมือนกันค่ะ

ยังไงก็สู้ ๆ นะคะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ

ขายดาวน์ไปเถอะยอมขาดทุนนิดหน่อยให้คนอื่นที่เค้าไหวไปผ่อนต่อ
เพราะที่อ่านๆดูคุณยังผ่อนไม่ถึงครึ่งทางเลย ถ้ารั้นจะเหนื่อนและเครียดอีกหลายเท่า q*069

กระทู้ฮอตในรอบ 7 วัน