งงถูกแจ้งจับเพิ่มคดีทำร้ายร่างกาย 
ด้านนายภูมิพัฒน์ ขจรพบ หนึ่งในพนัก
งานที่ได้รับหนังสือเรียกร้องค่าเสียหายดังกล่าว กล่าวว่า ตนและเพื่อนอีก 3 คนได้รับหมายเรียกผู้ต้องหาของสภ.เมืองนครราชสีมา เมื่อวันที่ 26 เมษายน 2555 ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา พุทธศักราช 2477 มาตรา 52 ด้วยเหตุที่ต้องหาว่า
“ร่วมกันพยายามทำร้ายร่างกาย นายจรัญ คัมภิรานนท์” ซึ่งในความจริงตนกับเพื่อนๆ ไม่เคยรู้จักหน้าตาของคนที่อ้างว่าพยายามทำร้ายร่างกายเลยแม้แต่น้อย ขณะที่พวกตนพยายามที่จะขอแจ้งความกลับแต่ทางตำรวจยังไม่รับแจ้งความ จึงยังไม่ทราบจะทำอย่างไรนอกจากการไปรายงานตัว และปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว โดยพ่อ
แม่ของพวกตน เป็นผู้ที่รับหมายศาลไว้เช่นกัน สร้างความตกใจให้กับครอบครัวไม่น้อย เพราะไม่ทราบว่าลูกๆ ของพวกเขาทำผิดอะไร
ขณะที่นายชาลี ลอยสูง ประธานคณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทย (คสรท.) กล่าวว่า จากการที่ทางคนงานชินเอมาร้องทุกข์ และปรึกษาหารือกับทางคณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทย เพื่อให้เข้าไปช่วยเหลือนั้น จริงๆ ทางคสรท.ได้ทำงานร่วมกับทางสภาองค์การลูกจ้างยานยนต์แห่งประเทศไทย และได้รับหนังสือขอความช่วยเหลือแล้ว กำลังดำเนินการในการรับบริจาคข้าวสารอาหารแห้ง และงบประมาณในการให้ความช่วยเหลือพี่น้องคนงานชินเอ
“วันนี้ได้รับฟังข้อเท็จจริงจากคนงานแล้ว ดูเหมือนว่าทางนายจ้างจะว่าจ้างสำนักงานทนายความในการกระทำการแทนดังนี้
1.มีการส่งจดหมายเวียนถึงคนงานเพื่อขอลดสวัสดิการทั้งหมด นำมาซึ่งการยื่นข้อเรียกร้องของคนงานที่มีถึง 35 ข้อด้วยจริงคือสภาพการจ้างเดิม มีข้อเรียกร้องใหม่ไม่กี่ข้อ
2.มีการใช้ความไม่รู้ของคนงานในการออกจดหมายขู่ว่าจะฟ้องเรียกค่าเสียหาย 200 ล้านบาท และการส่งหมายเรียกตัวผู้ต้องหา กรณีพยายามทำร้ายร่างกาย ไปตามบ้านเกิดของคนงาน ซึ่งส่งผลกระทบต่อชีวิต และครอบครัวของคนงานอย่างมาก อันนี้ต้องมีคนรับผิดชอบต่อประเด็นดังกล่าว เพราะพ่อ แม่ คนงาน ส่วนใหญ่ไม่รู้กฎหมาย เมื่อเห็นข้อความต่างๆ ที่ดูเป็นทางการของสำนักงานฯ นำมาซึ่งความเสียหายต่อชีวิตครอบครัว การต่อสู้ของคนงานครั้งนี้เขาต้องการความเป็นธรรมสิ่งที่เคยได้เคยมี และเขายังเชื่อว่าเขากับนายจ้างสามารถที่จะพูดคุยกันได้ จึงคิดว่ากระทรวงแรงงานคงต้องหาทางช่วยให้คนงานได้พูดคุยกับนายจ้างแทนการพูดคุยผ่านตัวแทนที่ไม่มีอำนาจ” นายชาลีกล่าว



ที่มา :
http://www.tcijthai.com/TCIJ/view.php?ids=702