บางคน มือเปื้อนเลือดมาตั้งแต่ก่อนเป็นนักการเมืองแล้ว พวกนี้ผ่านความเป็นผู้ยิ่งหใญ่ ความเป็นผู้มีอิทธพลในชนบทมาก่อนแล้ว ร่ำรวยมาบนกองเลือดกองกระดูกของคนทั้งนั้น เขาร่ำรวยมาจากยุคอิทธิพลเฟื่องฟู ยุคที่ผู้มีอำนาจในมืออยากได้อะไรก็ชี้เอา จะเป็นของไครก็ไม่สน ชี้แล้วต้องได้ ถ้าไม่ได้ไม่นานเจ้าของก็ตาย สุดท้ายเขาก็ได้ไปอยู่ดี
เมื่อก่อนโน้น แค่จ่าแค่กำนันตามบ้านนอกก็มีอิทธิพลล้นฟ้าแล้ว ผู้กำกับหรือผู้ว่าย้ายมาใหม่ต้องไปเยี่ยมเขาเพื่อฝากเนื้อฝากตัว ถ้าไม่อยากเดือดร้อน ชาวบ้านไม่ต้องไปพูดถึง กลัวจนหัวหด นักการเมืองแบบนี้ในยุคเผด็จการจะมีมากเป็นพิเศษและมักจะได้ดี เพราะมีต้นตอกำเนิดคล้ายกัน จึงนิยมใช้บริการเพื่อสืบทอดอำนาจแทน
ถึงแม้จะเข้ามาเล่นการเมืองระดับประเทศแล้ว บางคนก็ยังใช้วิธีการเดิมที่เคยใช้คืออำนาจนิยม บังคับ ใส่ร้าย สร้างหลักฐานเอง เพราะมันได้ผลไว คนเกรงกลัว สามารถบิดเบือนความจริงได้ดั่งใจด้วยอำนาจที่มีอยู่ สามารถทำขาวให้เป็นดำได้ในทันทีที่ต้องการ สังเกตได้ง่ายๆตลอดระยะเวลาที่คนชนิดนี้มีอำนาจ ประเทศจะตกอยู่ในสภาพอึมครึมหวาดกลัวทำร้ายเข่นฆ่ากันเหมือนยุคมาเฟียไม่มีผิด
ทราบว่าในสมัยนึงที่ประเทศจีน เคยศาลเตี้ยคนพวกนี้กลางตลาดบ่อยๆ จนสูญหายไปหมดครับ.