“พาณิชย์” ประกาศรับสมัครร้านโชห่วยเข้าร่วมโครงการ “ร้านถูกใจ” สัปดาห์หน้า เมินผู้ประกอบการร้องศาลปกครอง กรณีผลิตสินค้าเฮาส์แบรนด์แข่ง เหตุต้องการช่วยลดค่าครองชีพ ยันผู้ผลิตไม่เสียประโยชน์
เมื่อวันที่ 28 มี.ค. นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการแก้ไขปัญหาค่าครองชีพประชาชน เพื่อกำหนดหลักเกณฑ์การดำเนินโครงการโชห่วยช่วยชาติ ภายใต้ชื่อ “ร้านถูกใจ” ว่า ได้มอบหมายให้กรมการค้าภายในจัดทำกรอบคุณสมบัติเพื่อรับสมัครร้านค้า และผู้ผลิตสินค้า (ซัพพลายเออร์) ที่จะเข้าร่วมโครงการ และให้กำหนดรูปแบบร้านค้า ตราสัญลักษณ์ร้านค้า จากนั้นให้ออกประกาศรับสมัครให้ได้ประมาณสัปดาห์หน้า โดยโครงการระยะแรกตั้งเป้าจะเปิดให้ได้ 2,000 แห่ง แห่งแรกจะเปิดตัวในกรุงเทพฯ และปริมณฑล วันที่ 19 เม.ย.55 และตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค.นี้ จะเปิดเพิ่มให้ครบ 8,000 แห่ง รวมเป็น 10,000 แห่งทั่วประเทศ
สำหรับเงื่อนไขร้านค้าที่จะเข้าร่วมโครงการ เบื้องต้นกำหนดให้ผู้เข้าร่วมโครงการ ต้องเป็นร้านค้าปลีกรายย่อยจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภค ร้านอาหารธงฟ้า ร้านค้าสหกรณ์ที่ประกอบธุรกิจในปัจจุบัน มีสถานที่จำหน่ายเป็นอาคารถาวร มีที่จัดวางสินค้าอย่างน้อย 6 ตารางเมตร (ตร.ม.) สำหรับร้านค้าปลีก และ 3 ตร.ม. สำหรับร้านอาหารธงฟ้า โดย กระทรวงฯ จะสนับสนุนชั้นวางสินค้า ช่วยในการตกแต่งร้านค้า และสามารถที่จำหน่ายสินค้าเดิมของตนเองได้ตามปกติ ไม่มีการห้ามแต่อย่างใด
นายบุญทรง กล่าวถึงการจ้างแรงงาน 1,000 คน งบประมาณ 100 ล้านบาท เพื่อให้เข้ามาช่วยดำเนินโครงการว่า อาจไม่จำเป็นต้องจ้างมากถึงขนาดนั้น จึงเสนอให้ปรับลดงบประมาณในส่วนนี้ไปเป็นงบประมาณในการจัดเตรียมสินค้า ให้กับร้านค้าถูกใจจะดีกว่า ขณะที่งบค่าโลจิสติกส์ 500 ล้านบาทนั้น ไม่ใช่แค่การเชื่อมโยงคอมพิวเตอร์ระหว่างบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด และร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการ แต่เป็นงบที่ช่วยเหลือด้านโลจิสติกส์ให้กับร้านค้าทั้งหมด
“กรณีที่ผู้ประกอบการบางรายจะยื่นฟ้องต่อศาลปกครองว่ากระทรวงพาณิชย์ผลิต สินค้าแบรนด์ถูกใจ ซึ่งเป็นเฮาส์แบรนด์มาขายแข่งกับสินค้าของเอกชนนั้น เจตนาไม่ต้องการผลิตสินค้ามาแข่งกับใคร แต่ต้องการช่วยเหลือประชาชนในเรื่องค่าครองชีพ และไม่เห็นว่าเอกชนจะเสียประโยชน์ตรงไหน เพราะได้ประโยชน์ในการรับผลิตสินค้าให้กับร้านถูกใจ” นายบุญทรง กล่าว.