kittykat
|
อยากศึกษาเรื่องการลงทุนในทองคำค่ะ
ขอคำแนะนำจากผู้มีประสบการณ์หน่อยคะ่ะ
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
คิดว่าจะซื้อเป็นทองคำแท่งเก็บไว้เองหรือจะเล่นแบบโกด์ลฟิวเจอร์ล่ะจะได้อธิบายให้ฟังได้ถูกค่ะ
|
|
|
|
|
|
|
|
pilly bally
|
ถ้าเป็น gold future ที่เค้าเล่นๆกัน ทำยังไงเหรอ
|
|
|
|
|
|
|
|
|
เราแชร์ประสบการณ์ การเล่นทองแท่ง ให้ฟังแล้วกันนะคะ
เริ่มแรก เราจะดู กราฟราคาทอง ย้อนหลัง 6 เดือน ถึง 1 ปี ลองดูว่า มันมีการขึ้นๆ ลงๆ บ่อยมั้ยยังไง
เล่นทองแท่งจะเริ่มต้นเล่นอย่างต่ำ 5 บาททองคำ ถ้าจะเพิ่มก็ทีล่ะ 5 ทีล่ะ 10 เพราะว่าเค้าไม่มีทองแท่งหน่วยย่อยๆ
เวลาเล่น ก็ต้องเล่นกะ ร้านทอง ที่น่าเชื่อถือ ร้านใหญ่ๆ เช่น ฮั้ว ร้านเล็ก อาจจะราคาความต่าง บวกเข้าไปเยอะ หรือไม่รับเล่นทองแท่งเลย
ส่วนจะซื้อ กะขายเวลาไหนก็ต้องแล้วแต่ ประสบการณ์ และการวางแผน
ถ้าไม่คิดอะไรมาก ก็ คิดว่าออมเงิน ถ้าทองราคาลง ก็เก็บไว้นานหน่อย ถ้าทองขึ้น ค่อยเอามาขาย แล้ว รอ ลง ค่อยซื้อใหม่ก็ได้
|
|
|
|
|
|
|
|
choo
|
อยากทราบเหมือนกันค่ะ คุณหน้าใหม่ #1 กรุณาอธิบายทั้ง 2 แบบได้ไหมคะ ?
ขอบคุณ
|
|
|
|
|
|
|
|
นา
|
กำลังหาข้อมูลอยู่ อยากซื้อทองแท่งเหมือนกันค่ะ
เพราะเป็นมือใหม่ ว่าจะเริ่มอย่างไร 
|
|
|
|
|
|
|
|
Kookjun
|
สำหรับรายย่อย รายเล็ก อย่างคนทำงานออฟฟิสแบบพวกเรา สามารถทำกำไรจากการลงทุนใน "ทองคำแท่ง" ได้หลายวิธีครับ ที่ผมเล่นอยู่ (ไล่ตามลำดับที่เข้าไปเล่น)
1. ซื้อ - ขายทองคำแท่ง เน้นว่าต้องเป็น "ทองแท่ง" เพราะถ้าเป็นทองรูปพรรณาจะต้องเสียค่าแรง (กำเหน็จ) โดยขนาดที่ซื้อได้ น่าจะเริ่มต้นจากขนาด 5 บาท (ถ้าต่ำกว่านี้อาจจะต้องเสียค่าบล็อก) ทั้งนี้ก็แล้วแต่ว่าจะไปซื้อที่ร้านทองร้านไหน เขามีขนาดเล็กสุดเท่าไรที่ไม่ต้องเสียค่าบล็อก ก็ต้องลองถามเอา .......
วิธีการก็ง่ายๆ ครับ "ถือเงินสดไปซื้อ ถือทองแท่งกลับบ้าน หาที่เก็บ" ........ วิธีนี้ผมไม่ทำแล้ว เพราะรู้สึกว่า "เสี่ยง" ที่
(1) ต้องถือเงินสดไป
(2) หาที่เก็บทองที่ตัวเองมั่นใจไม่ได้
(3) เสียเวลาเดิืนทางไปซื้อ เดินทางไปขาย (ร้านเดิม)
(4) ต้นทุนสูง เพราะเวลาซื้อทองแท่งตามร้านทอง ราคาที่เราซื้อมา กับราคาที่เราขายคืน จะต่างกัน 100 บาท เป็นอย่างต่ำ
2. ซื้อ - ขาย ทองคำแท่งผ่าน Internet กับร้านทอง เดี๋ยวนี้มีหลายบริษัทที่เขาขยายการให้บริการจากร้านทอง (ตู้แดง) มาเป็นการให้บริการซื้อขายผ่าน Internet / Mobile เช่น Ausiris, MTS Gold, Classic Gold
วิธีการก็ง่ายๆ คือ เราต้องติดต่อกับบริษัทเหล่านี้ก็ (เข้า Google พิมพ์ไปมั่วๆ ก็ได้ว่า ซื้อขายทองคำแท่ง เดี๋ยวก็เจอ) เพื่อทำการเปิดบัญชี วางเงินประกัน (เดี๋ยวนี้เขาให้วางเงินขั้นต่ำไว้ประมาณ 5% ของมูลค่าทองคำที่เราจะเล่น) โดยที่เราสามารถซื้อ - ขายทองคำ่แท่งในหน่วยตั้งแต่ 5 บาท และทวีคูณของ 5 บาท
โดยวิธีการคือ เขาจะให้ Username และ Password มาให้เรา Access เข้าระบบของเขา แล้วทุกอย่างมันก็เป็นไปตามขั้นตอนของเขา ไม่ยุ่งยากครับ
ข้อดี คือส่วนต่างระหว่างราคาที่เราซื้อมา กับราคาที่เราขายกลับให้เขา จะอยู่ที่ 40 - 50 บาท เท่าน้ัน ซึ่งก็แปลว่าเราสามารถทำกำไรได้ง่ายขึ้น และสามารถซื้อ-ขายได้ในทุกๆ ที่ที่เราอยู่ ยิ่งถ้ามี iPad, iPhone ด้วยแล้ว แม้กระทั้่งในห้องน้ำเรายังซื้อ - ขายทองได้เลยครับ เอาเป็นว่าสะดวกในทุกที่ที่มีสัญญาน Wife / 3G วิธีนี้ถ้าเราไม่ค่อยสบายใจที่ไม่เห็นตัวทอง เราก็สามารถบอกเขาว่าเราต้องการรับ "ทองแท่ง" ที่เราซื้อไว้มาเก็บเองก็ได้ พอขายได้ก็ค่อยเอาไปให้เขา (แรกๆ ผมก็ไปเอามาเก็บไว้เอง แต่ก็นั่นแหละ เสียว อยู่ดี สุดท้ายก็เลยฝากเขาไว้ เพราะเขาไม่เรียกเก็บค่าฝากทอง)
3. ซื้อ - ขาย กองทุนทองคำ อันนี้ต้องซื้อผ่านธนาคาร ก็มีหลายธนาคารที่มี Product ตัวนี้อยู่ เช่น ธนาคารกสิกรไทย ก็เป็น KGold (เข้า Google พิมพ์ กองทุนทองคำ เดี๋ยวก็เจอ) วิธีการก็ให้ลองไปถามจากเจ้าหน้าที่ธนาคารครับ
เอาแค่ 3 วิธีก่อนครับ ..... ส่วนเรื่อง Gold Future หรือ ETF ทองคำ ก็น่าสนใจ ถ้าต้องการรู้เพิ่มเติม ให้ถามอากู๋ (Google)
(ปล. แก้ไขเพื่อให้อ่านง่ายขึ้นนะคะ)
|
|
|
|
|
|
|
|
KookJun
|
ขอบคุณ คุณ Staff Forum ครับที่ได้กรุณา "แก้ไขให้อ่านง่ายขึ้น" ครับ
อ่านง่ายขึ้นเยอะเลยครับ
ผมขอให้ข้อมูลสำหรับผู้ใจลงทุนในทองคำเพิ่มเติม ครับ โดยจะให้รายละเอียดใน ข้อ 2 "ซื้อ - ขาย ทองคำแท่งผ่าน Internet" เพื่อให้เห็นภาพมากขึ้น ดังนี้
เนื่องจากว่า การที่เราจะเข้าไปดูหน้าจอซื้อ - ขาย ทางหน้าเว๊ปของบริษัททองที่ให้บริการนั้น เราจะต้องสมัครเป็นสมาชิกเสียก่อน ทีนี้ผมเชื่อว่า คนที่สนใจก็ยังจะไม่สามารถเข้าใจได้ ว่าหน้าตาเว๊ปมันเป็นอย่างไร แล้วจะซื้อ - จะขายอย่างไร ผมจะเขียนบรรยายให้พอนึกภาพได้ ดังนี้ครับ .....
1. เมื่อเราเข้าไปที่หน้าเว๊ปไซด์ของบริษัทที่เราสมัคร ในส่วนที่ซื้อ - ขายทองคำแท่งแล้ว หน้าเว๊ปจะปรากฏ Box ให้เราใส่ Username และ Password
2. เมื่อเรา Access เข้าไปแล้ว ก็จะปรากฏ "รายละเอียดบัญชี" ของเรา ในลักษณะแสดงรายละเอียดว่า ชื่อ-นามสกุล / มีจำนวนเงินที่เราวางไว้เป็นประกันเท่าไร / มีวงเงินว่าเราจะซื้อทองคำแท่งได้เท่าไร อย่างในกรณีของผม ..... ผมเปิดบัญชีซื้อขายทองคำแท่งกับบริษัทแห่งหนึ่ง (เป็นร้านทองที่อยู่ที่เยาวราช) โดยวางเงินประกันไว้ 20,000 บาท (สองหมื่นบาท) ทางบริษัท ให้วงเงินในการซื้อทองคำแท่งถึง 400,000 บาท (ถ้าเทียบไปก็ประมาณ 15 บาททองคำ)
3. ในหน้านี้ ก็จะปรากฎหน้าต่างเล็กๆ เป็น 2 ฝั่ง "ต้องการซื้อทองคำ" กับ "ต้องการขายทองคำ" ซึ่งเราสามารถเลือกซื้อได้ตามวงเงินที่เรามี
โดยจะมากกว่าหรือน้อยกว่า 15 บาท ก็ต้องดูว่า ราคาทองคำแท่งที่เราซื้อทั้งหมดเกินวงเงินที่เราได้หรือเปล่า แล้วแต่ราคาตอนนั้น โดยผมสามารถซื้อได้ในส่วนที่เต็มหน่วย 5 บาท คือ 5 บาท / 10 บาท / 15 บาท เท่านั้น ไม่สามารถซื้อ 4 บาท / 6 บาท หรือ 16 บาทได้ ... คงเข้าใจน๊ะ
4. ถ้าสนใจซื้อก็ กดสั่งซื้อไป (ถ้าสนใจขาย ก็กดสั่งขายไป .... การซื้อ-ขายทองคำแท่งผ่าน Internet นี้มันยังมีข้อดีอีกครับ คือ เราสามารถ "ขายทอง" ไปก่อน "ซื้อ" ได้ ประมาณว่า ถ้าเห็นว่าราคาทองมีแนวโน้มว่า "ลง" เราก็ขายไปก่อน แล้วเราก็ค่อยไปซื้ออีกครั้ในวันเดียวกัน หรือ วันรุ่งขึ้น วิธีนี้เราก็ทำกำไรได้แล้ว ถึงแม้ว่าจะยังไม่มีทองคำแท่งในมือ ... ถ้าสนใจ เดี๋ยวถ้ามีโอกาสค่อยว่ากัน ลองตั้งเป็นกระทู้ผ่านเข้ามา)
5. ในหน้านี้ จะเห็นราคาทองคำแบบ Real time ที่จะปรับเปลี่ยนอยู่ตลอดเวลาครับ .... เราก็จ้องไปเรื่อยๆ พอใจราคาที่เท่าไร ก็กดสั่งซื้อไปครับ (แต่ต้องระวังอย่าค้างอยู่ในหน้าจอนี้นานเกินไป ระบบจะให้เราอยู่ในระบบเขาน่าจะไม่เกิน 5 นาทีมั๊ง เพื่อให้คนอื่นเข้ามาทำรายการได้ คล้ายๆ กับการสั่งจองตั๋วเครื่องบิน Air Asia หรือ Nok Air นั่นแหละ มันไม่ให้เราอยู่ค้างนานๆ ) ระบบก็จะคำนวนเงินว่า เราสั่งซื้อไปกี่บาททองคำ ในราคาบาทละเท่าไร ก็จะิิออกมาเป็นจำนวนเงินที่เราต้องจ่าย
6. ในระบบก็จะมีหน้าสรุปอีกให้ ลองนึกภาพคล้ายๆ กับ ใบสั่งซื้อของครับว่า ซื้ออะไร / ซื้อกี่หน่วย / หน่วยละเท่าไร / Total เป็นเงินเท่าไร พร้อมกับรายละเอียดบัญชีของบริษัท เพื่อให้เราไปโอนเงินผ่านบัญชีธนาคาร (มีหลายธนาคารให้เลือก) รวมถึงว่า จะมีช่องให้ติ๊กเลือกว่า จะเลือกรับทองคำแท่งมาเก็บรักษาเอง หรือ จะเลือกฝากไว้กับเขา
7. เราก็ไปโอนเงินตามจำนวน .... แล้วก็โทรแจ้งกับบริษัทให้เขาได้ทราบ เื่พื่อ Confirm .... โดยทั่วไปจะต้องโอนภายใน 1 (T+1) ที่นี้ ก็มีคำถามต่อว่า "เราถ้าฉันไม่โอนเงินไปล่ะ ?" ใครจะทำอะไรฉันได้ ..... อืม ก็ไม่ใช่อย่างนั้นครัับ เขาก็ Black list คุณไว้สิครับ ถ้าคุณทำตัวไม่น่าคบแบบนี้ ทีนี้คุณก็จะซื้อ จะขายอะไรกับเขาไม่ได้ .... คุณก็อดทำกำำำไรจากทองคำครับ
ซึ่งไม่ดีน๊ะ ผมคงต้องบอกว่า ถ้าเราสั่งซื้อทองคำแท่งมาแล้ว แต่ปรากฏว่าราคาทองคำลดลงเรื่อยๆ ก็ไม่ต้องคิดมากครับ ก็แค่ถือเอาไว้ รอไปเรื่อยๆ จนกว่าราคาทองจะขึ้น แล้วคุณก็ค่อยขายไป ให้คิดว่า "ซื้อถูกขายแพง ... ซื้อแพงก็ขายแพงกว่า" แค่นี้ก็สบายใจครับ
โดยส่วนตัวผมทำกำไรจากการซื้อ - ขายทองคำแท่งได้แล้วประมาณ 20,000 บาท ในระยะเวลาประมาณ 18 เดือน โดยมีเงินต้นที่เล่นอยู่ประมาณ 500,000 บาท ถ้าคิดเป็นเปอร์เซนต์ ก็มากกว่า 10% ครับ
ที่ให้คิดเป็นเปอร์เซนต์นี้ ก็เพื่อที่จะได้มีหลักคิดว่า
1. ต้องมากกว่า "อัตราเงินฝากธนาคาร" ซึ่งคิดเป็นเปอร์เซนต์
2. ต้องมากกว่า "อัตราเงินเฟ้อ" ซึ่งก็คิดเป็นเปอร์เซนต์
ผมก็อยากจะแนะว่า การลงทุนใดๆ ก็ตาม มันจะต้องได้ "ผลตอบแทน" เป็นเปอร์เซนต์ที่มากกว่า หรือ สูงกว่า ทั้ง 2 ตัว ... พอเข้าใจใช่ไหมครับ
เดี๊่ยวถ้ากระทู้นี้่ยังอยู่ ผมจะเข้ามาให้รายละเอียดเพิ่มเติม ของข้อ 3 "ซื้อ - ขาย กองทุนทองคำ" ครับ
|
|
|
|
|
|
|
|
หัดเล่น
|
|
|
|
|
|
|
|
|
paah
|
แนะนะคะ ซื้อเคโกลล์กับธนาคารกสิกรไทยหรือธนาคารกรุงไทยก็ได้ค่ะ ปลอดภัย ถ้าธ.กสิกรไทยก็สามารถเดินได้บอกเจ้าหน้าที่ธ.ได้เลยว่าต้องการซื้อเคโกลล์ แต่ต้องมีบัญชีกับธนาคากสิกรก่อนนะค่ะ และจะซื้อขายเฉพาะวันจัน-ศุกร์ เวลา 8.00-14.00 น. นะคะ(ไ่ค่อยแน่ใจเรื่องเวลานะคะ) การซื้อขั้นต่ำที่ 5000 บาท และจะได้เป้นหน่วยลงทุน
ธ.กรุงไทยมี 2 แบบจะซื้อขายแบบธ.กสิกรไทยก็ได้ หรือจะซื้อผ่านเน็จแต่ต้องให้ทางธ.เปิดบริการให้ก่อนนะค่ะ
|
|
|
|
|
|
|
|
princekop
|
ท่องแท่งสามารถซื้อได้ที่ร้านทองใหญ่ๆ เขามีตั้งแต่ 1 บาท แต่เราจะเสียค่าบล๊อก บาทละ 150 บาท แต่เราซื้อมาหลายปีแล้วไปซื้อที่ร้านทองทองใบเยาวราช ตอนนั้นไปซื้ออยุ่บาทละประมาณ 15000 บาท ซื้อมา 2 บาท
|
|
|
|
|
|
|
|
คนเงินน้อย
|
ทองแท่งดีที่สุดครับ ผมเริ่มต้นที่ 5 บาทเมื่อปี 51 สมัยบาทละประมาณ 12000 ซื้อ ขาย สะสมมาเรื่อยด้วยเงินเริ่มต้น 60000 ตอนนี้มีทองคำเก็บไว้ขาย 30 บาท ซื้อขายไม่เคยขาดทุนแม้แต่บาทเดียว กำไรมากน้อยอยู่ที่ระยะเวลาที่เก็บ ลำบากหน่อยตอนซื้อขาย ต้องไปเข้าคิวเวลาที่ทองถูกหรือขึ้นแบบสูงมาก แต่ส่วนใหญ่ผมจะซื้อก่อนขายก่อนตามที่กำหนดไว้ ได้ทองกับไปเก็บไว้ที่บ้าน ถ้าแบบนี้ไม่ดีจริง กำไรแน่นอนคงไม่เห็นภาพคนไปต่อคิวกันเป็นร้อยรอซื่้อรอขายกัน ไม่มีความเสี่ยงในเรื่องขาดทุนเพราะเราเป็นคนกำหนดจะซื้อจะขายเมื่อไหร่ ไม่มีค่าจัดการใดๆนอกจากค่ารถเวลาไปซื้อไปขาย ส่วนแบบอื่นทุกอย่างมีความเสี่ยงทั้งนั้น ถ้าเริ่มต้นลองแบบที่ผมแนะนำก่อนดีกว่าทุนไม่หาย ได้กำไรแน่นอน อย่าเชื่อคำโฆษณาให้มาก รวยเร็วก็หมดเร็ว หลายคนที่ว่าเซียนทอง online ตอนนี้เค้าก็หันมาสู่การซื้อแบบ basicกันทั้งนั้น ถ้าอยากลงทุนจริงลองไปนั่งที่ร้านทองดูซิครับ ยังไม่ต้องซื้อก็ได้ ฟังเค้าคุยกันหาความรู้ไปก่อน เข้าใจแล้วค่อยเริ่มลงทุน ที่แนะนำเริ่มที่ 5 บาทเพราะมันพอจะเห็นกำไรเป็นก้อนมากกว่าที่จะลงทุนครั้งละ 1 หรือ 2 บาท
|
|
|
|
|
|
|
|
KookJun
|
เข้ามาให้รายละเอียดเพิ่มเติม สำหรับ ข้อ 3 "การซื้อ - ขาย กองทุนทองคำ"... จะพยายามบรรยายให้พอมองเห็นภาพครับ
"กองทุนรวมทองคำ" ก็ตามชื่อครับว่า เป็น "การรวมเงิน" เพื่อไปลงทุนซื้อทองคำแท่ง โดยผู้ขายกองทุนก็จะเป็นธนาคาร (Bank) ซึ่งก็จะมีอยู่หลาย Bank (ที่พอจะจำได้) ก็มี
1. ธนาคารกสิกรไทย
2. ธนาคารกรุงไทย
3. ธนาคารกรุงศรีอยุธยา
4. ธนาคาร UOB
5. ธนาคารธนชาติ
การซื้อกองทุน วิธีปฏิบัติก็คล้ายๆ กับเราไปเปิดบัญชีเงินฝากกับ Bank ครับ (เอาบัตรประชาชนแ่ค่ใบเดียวไปเปิดบัญชี) เพียงแต่ต้องบอกกับเจ้าหน้าที่ว่าเราต้องการซื้อกองทุน ทาง Bank ก็ต้องถามว่าเราสนใจกองทุนอะไร เนื่องจากธนาคารแต่ละแห่งจะมีกองทุนรวมเพื่อเปิดขายให้กับผู้สนใจเป็นร้อย ๆ กองทุน ครับ (ที่ผมลงทุนอยู่ก็จะมีกองทุนรวมทองคำ กับ กองทุนรวมน้ำมัน) โดยทาง Bank จะเปิด Book Bank ให้เรา 2 เล่ม คือ
1. บัญชีออมทรัพย์
2. บีญชีกองทุน
เมื่อเราได้แจ้งกับเจ้าหน้าที่แล้วว่า ต้องการซื้อกองทุนทองคำ (ในที่นี้ผมขอให้ภาพของ K-Gold ของธนาคารกสิกรไทยน๊ะครับ) ทางเจ้าหน้าที่ก็จะสอบถามเราคร่าวๆ ว่า เรามีความเข้าใจในการลงทุน / ในความเสี่ยง เพียงใด ก็อาจจะถามเรา และให้เราตอบแบบสอบถามประมาณ 10 ข้อได้ เพื่อประเมินถึงความเข้าใจเบื้องต้น จริงๆ แล้วในส่วนของแบบสอบถามนี้ เขาพยายามบอกให้เรารู้ว่า "การลงทุน มีความเสี่ยงที่อาจจะขาดทุนได้" ผมเชื่อว่าถ้าได้ลองทำแบบสอบถามแล้ว ถ้าเป็นคนที่ไม่เคยซื้อกองทุน น่าจะมีคำถามที่จะต้องถามเขา แต่ผมขอแนะนำว่า เราน่าจะต้องหาเอกสารเผยแพร่มาศึกษาก่อน (ตามปกติ Bank จะมีเอกสารเผยแพร่ เป็น Booklet เล่มเล็กๆ เนื้อหาประมาณ 50 หน้า มาให้อ่านได้ หรือ อาจจะเข้าไปที่เว๊ปไซด์
ของ Bank ก็ได้ตามชื่อของ Bank นั้น ๆ)
การซื้อกองทุนทองคำ ต้องเข้าใจก่อนว่า Bank จะนำเงินของเรา (ผู้ลงทุน) รวมๆ กันไปซื้อทองคำแท่งในตลาดต่างประเทศในแต่ละวัน แต่เราจะไม่ได้ทองคำแท่งมาเป็นของเรา สิ่งที่เราได้คือ "หน่วยลงทุน" ซึ่งแต่ละหน่วยลงทุนก็จะมีราคาที่แตกต่างกันไปในแต่ละวัน ทั้งนี้เนื่องจากราคาทองคำโลกมันขึ้นลงทุกวัน .... หน่วยลงทุน มันจะมี "มูลค่า" ที่เรียกกันเป็นตัวย่อว่า "์์NAV" (์ำNet Asset Value) โดย NAV จะมีวิธีการคิดที่แตกต่างกันไป เท่าที่เคยอ่านในเอกสารเผยแพร่ จะมีวิธีการคิด แต่.... แต่.... แต่.... อย่าพยายามคิดเลยครับ เสียเวลา เพราะมันมีตัวแปรอยู่ 5 -6 ตัว เช่น ราคาทองคำที่เขาใช้ิเป็นดอลล่าร์สหรัฐต่อ 1 ทรอยเอาซ์ / ค่าเงินบาทกับค่าเงินดอลล่าร์ / ค่าบริหารจัดการ / ค่าโน่น+ค่านี่ .... งง
โดย NAV ที่ประกาศออกมาในแต่ละวัน ก็จะมี 3 ตัวครับ คือ
1. NAV กลาง (ผมตั้งชื่อเอง)
1. NAV ของ ราคา Offer
2. NAV ของ ราคา Bid
ผมขอให้ความหมายของ 2 ตัวก่อนคือ
1. NAV ราคา Offer คือ "ราคาที่ธนาคารเสนอขายให้กับผู้ลงทุน"
2. NAV ราคา Bid คือ "ราคาที่ธนาคารซื้อคืนจากผู้ลงทุน" หรือ "ราคาที่เราขายคืนให้กับธนาคา"
ในทางปฏิบัติแล้ว Bank จะประกาศราคา NAV ของวันที่ผ่านมา 1 วัน เช่นถ้าเราเข้าไปดูที่ Bank หรือในเว๊ปไซดในวันที่ 2 มีนาคม เราก็จะเห็นราคา NAV ของวันที่ 1 มีนาคมเท่านั้น Bank จะคำนวน NAV ได้ก็ต่อเมื่อตลาดทองคำที่ต่างประเทศปิดทำการซื้อขายแล้วเท่านั้น (ตามปกติก็ประมาณ 4 ทุ่มของประเทศไทย ... แต่เวลาทำการของ Bank บ้านเรา คือปิด 15.30 น.) ดังนั้น นี่จึงนับเป็น "ความเสี่ยง" ที่เราต้องยอมรับ เพราะเราต้องซื้อกองทุนภายในเวลา 15.00 น. แต่เรายังไม่รู้เลยว่า เราจะซื้อหน่วยลงทุนของกองทุนทองคำ ได้ในราคาหน่วยละ (NAV)เท่าไร
เพื่อให้เข้าใจมากขึ้น ผมขอยกตัวอย่างประกอบตัวเลขครับ
สมมติว่า วันที่ 1 มีนาคม เราซื้อกองทุนทองคำ K-Gold 10,000 บาท ทาง Bank ก็จะ Key Book Bank ให้กับเราว่า วันที่ 1 มีนาคม เราซื้อ 10,000 บาท แต่ยังไม่มีระบุว่าเราได้กี่หน่วย วันรุ่งขึ้นวันที่ 2 มีนาคม เราเอา Book Bank ไปปรับรายการการ ก็จะปรากฏว่า NAV =13.8491 และจำนวนหน่วยลงทุนที่เราได้ ก็เท่ากับ 10,000 หารด้วย 13.8491 = 722.07 หน่วย
ที่นี้พอวันที่ 3 มีนาคม Bank ก็จะประกาศ NAV ของวันที่ 2 มีนาคม เราจะรู้ว่าเรากำไร หรือ ขาดทุน ก็ต้องดูที่ NAV กลาง .... ประมาณว่า ถ้ามันมีค่ามากกว่า NAV Offer ที่เราซื้อมา ก็แปลว่า "เรากำไร" แต่ถ้า NAV กลาง มันมีราคาต่ำกว่า NAV Offer ที่เราซื้อมา ก็แปลว่า "เราขาดทุน" ..... ก็ดูไปเรื่อยๆ ทุกวัน หรือถ้ากลัวงง ก็แค่เอา Book Bank ไป Up Book ทุกวัน เราก็จะเห็นว่า เงิน 10,000 บาท ที่เราซื้อไป มันมีค่ามากขึ้น หรือ น้อยลง กว่า 10,000 บาท
พอเข้าใจใช่ไหมครับ ..... ที่นี้ สมมติว่า วันที่ 5 มีนาคม เราต้องการใช้เงิน เราก็เอาไป "ขายคืนกับ Bank" จะขายคืนบางส่วนหรือทั้งหมดก็ได้ เช่น ขายคืน 5,000 บาททาง Bank ก็จะบันทึกว่า วันที่ 5 มีนาคม ขาย 5,000 ลงใน Book Bank ของเรา แล้วเราจะได้เงินหลังจากวันที่ 5 มีนาคมอีก 3 วัน (T+3) ส่วนว่าจะได้กำไร หรือ ขาดทุนเท่าไรก็อยู่ที่ว่า ราคา NAV Bid จะเป็นเท่าไร โดยเงินที่ได้ก็จะถูกโอนเข้าในบัญชีออมทรัพย์ของเรา
กองทุนรวมทองคำของแต่ละ Bank จะมีราคาและความแตกต่างกัน ราคาจะไม่เหมือนกัน ทั้งนี้ในบาง Bank ยังมีแยกออกเป็น 2 แบบคือ
1. มีการทำประกันความเสีียงค่าเงินบาท
2. ไมีมีการทำประกันความเสี่ยงค่าเงินบาท
แต่ละแบบก็มีดี มีด้อยต่างกัน ก็คงต้องไปศึกษากันเพิ่มเติม แต่ที่ผมเลือกลงทุนกับธนาคารกสิกรไทย เพราะกองทุนทองคำธนาคารกสิกรไทย มี
1. การทำประกันความเสี่ยงค่าเงิน
2. มีการจ่ายเงินปันผลด้วย โดยจะจ่ายปีละ ไม่เกิน 4 ครั้ง ครั้งละไม่เกิน 100 %
3. สาขาธนาคารมีมาก ทำให้มีความสะดวกในการซื้อ - ขาย
จากประสบการณ์ของผม ผมพบว่า "เงินปันผล" มันน่าสนใจมาก มาก มาก ครับ
สำหรับความเสี่ยงที่มองเห็นก็มี
1. เราไม่สามารถรู้ว่าเราจะซื้อได้ในราคา NAV เท่าไร ต้องติดตามดูจากราคาทองคำโลก (ถ้าจำไม่ผิด ต้องเป็นตลาดทองคำ London) แล้วคาดเดาเอาเอง แล้วสุ่มซื้อเอา หวังว่าจะซื้อได้ในราคา NAV ที่ต่ำ
2. ราคา NAV ในบางครั้งพบว่า มันไม่เป็นไปตาม Trend กล่าวคือ ราคาทองโลกลงมากๆ เราคิดว่า NAV น่าจะลงตามไปมากๆ แต่ปรากฏว่า ลงไปนิดเดียว ซึ่งก็ไม่สามารถหาสาเหตุได้ โทรไปถาม Bank ก็ให้รายละเอียดได้ประมาณนึง แต่ก็ยังไม่ค่อยเข้าใจอยู่ดี
หวังว่าคงจะพอเห็นภาพน๊ะครับ
|
|
|
|
|
|
|
|
bj
|
ลงทุนไป60บาท 3เดือนได้กำไร มาแสนต้นๆ ช่วงราคาผลันผ่วน จ้องให้ดีๆ วิ่งให้ถูกเลนส์ โชคดีนะครับ
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
มือสมัครเล่น
|
เท่าที่ผมเข้าใจ รู้สึกว่า กองทุนของ KBANK จะอ้างอิงกับ ตลาดทองคำที่สิงค์โปร์ ซึ่งตลาดสิงค์โปร์จะปิดเวลา 16.00 เฉพาะฉะนั้น ราคาทองคำของ KBANk ที่ใช้คำนวณ NAV จะใช้ราคาตอน 16.00 ครับ
ลองโหลด โปรแกรม Bloomberg ใช้อ้างอิงราคา KBANK (ดูเปอร์เซ็นต์ขึ้นหรือลง) แล้วเอามา x กับ NAV
|
|
|
|
|
|
|
|
Kookjun
|
สำหรับผู้สนใจในการลงทุน กองทุนทองคำ K-Gold ของ ธนาคารกสิกรไทย สามารถเข้าไปศึกษาข้อมูลได้ที่ www.kasikornasset.com
โดยให้ดูที่หน้าเว๊ปหน้าแรก หาและคลิ๊กที่ K-Gold มันจะ Link เข้าไปที่รายละเีอียดกองทุน
ผมขอ Copy ข้อมูลมาให้ดูบางส่วนครับ
ลักษณะของทองคำแท่งที่กองทุนหลักลงทุน
(ก) ทองคำแท่งต้องมีมาตรฐานและผ่านการรับรองจากหน่วยงานที่เป็นที่ยอมรับในอุตสาหกรรมผู้ค้าทองคำในระดับสากล โดยอาจรับรองที่ทองคำแท่งหรือที่ผู้ผลิตทองคำแท่งก็ได้ ทั้งนี้ ในการรับรองคุณสมบัติของทองคำแท่ง จะกระทำโดยหน่วยงานที่มีความเป็นอิสระเป็นที่ยอมรับในอุตสาหกรรมในระดับสากล คือ The London Bullion Market Association (“LBMA”)
(ข) มีราคาเป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวาง โดยผู้ลงทุนสามารถตรวจสอบราคาทองคำแท่ง London A.M./ P.M. Fix ผ่านทางเว็ปไซด์www.thebulliondesk.com
|
|
|
|
|
|
|
|
gon
|
ซื้อกับแบ้งไม่น่าค่ะแบ้งให้เราปันผลน้อยไปซื้อทองแท่งดีกว่า
|
|
|
|
|
|
|
|
เป็นชื่อฉันเองค่ะ
|
 เป็นความรู้ที่ดีมากๆเพราะสนใจการลงทุนนี้แต่ไม่รู้จะไปที่ไหน ตอนนี้
แจ่มแจ้งแล้ว ขอบคุณท่านผู้รู้ที่ให้เป็นวิทยาทานนะคะ
|
|
|
|
|
|
|
|
Rishu
|
You have shed a ray of sunhsnie into the forum. Thanks!
|
|
|
|
|
|
|
|
|
การลงทุนในทองคำ จริงๆ แล้วมีด้วยกัน ถึง 7 วิธี ซึ่งแต่ละวิธีก็มีข้อดีและข้อเสียแตกต่างกันไป ถ้าเพื่อนๆ คิดจะลงทุนแล้ว ผมขอให้เพื่อนๆ ลอง เช็คลิสต์ ต่อไปนี้ก่อนครับ ว่าเราจริงๆ แล้ว ตัวเราเองชอบลงทุนแบบไหนกันแน่ มาเช็คกันทีละตัวเลยครับ
ทองรูปพรรณ
สำหรับทองรูปพรรณ เราคงทราบกันดีอยู่แล้ว เนื่องจากทองรูปพรรณมีค่ากำเหน็จ ซึ่งก็คือค่าแรงในการทำลวดลายต่างๆ นั่นเอง ซึ่งค่อนข้างแพง บวกกับค่าสึกหรอ เวลาเราใส่ ไม่ว่าเราจะใส่ไปออกงาน หรือ ใส่ไปล้างจาน ก็อาจกระทบจนเกิดการสึกหรอ ทำให้ค่าทองหายไป ถ้าเป็นทองคำแท่ง ราคาซื้อกับขายมักจะห่างกัน แค่ 100 บาทเท่านั้นเช่น ทองแท่ง รับซื้อ 24,550 ขายออก 24,650 แต่ถ้าเป็นทองรูปพรรณ รับซื้อ 24,960 ขายออก 25,700 ราคาจะต่างกันถึง 740 บาทเลยทีเดียว ยิ่ง น้ำหนัก ทอง ลดลงจากการสึกหรอ ยิ่งไปกันใหญ่ เหล่านี้เป็นเหตุผลว่า ทำไม เราไม่ควรลงทุนในทองคำรูปพรรณ ครับ แต่ก็ไม่ได้เป็นข้อห้ามนะครับ ใครอยากซื้อใส่ ก็สามารถซื้อได้ เพราะถ้าเราซื้อไว้ใส่ ทองคำเหล่านี้อาจหมายถึงการลงทุนในสังคม ด้านอื่นๆ อีกด้วยครับ นอกเหนือจากการลงทุนเพื่อหวังกำไรทางตรงแต่เพียงอย่างเดียว
ทองคำแท่ง
สำหรับทองคำแท่ง เรานิยมลงทุนที่ 96.5% เท่านั้น ไม่นิยม ที่ 99.9% สาเหตุก็เพราะทอง 96.5% ขายง่าย และราคาถูกกว่า ทำให้กำไรต่อหน่วยลงทุน คือ ต่อบาท ได้มากกว่านั่นเอง สมมุตินะครับ เพื่อนๆ มีเงิน 50,000 บาท ซื้อทองคำแท่ง 96.5% ได้ 2 บาท (ถ้าบาทละ 25,000) ถ้ากำไร บาทละ 500 เพื่อนๆ ก็ได้เงิน 1,000 บาท แล้วนะครับ แต่ถ้าเป็นทอง 99.9% ราคาทองคำ อาจจะสัก 30,000 ยังซื้อได้ ไม่ถึง 2 บาท เลย สมมุติว่าได้ 1.67 บาท สมมุตว่ากำไร บาทละ 500 เพื่อน ๆ ก็ได้แค่ 833 เองครับ แต่ในความเป็นจริง เราก็ซื้อไม่ได้นะครับ 1.67 บาทเนี้ย
ทองคำ 96.5% มีหลายไซร์ คือ 2, 5, 10, 20 และ 50 บาท ทอง 99.9% ลงทุนได้คือ 100 กรัม 10, 20 และ 1 กิโลกรัม ซึ่งนักลงทุนต่างชาติจะนิยม ทอง 99.9 มากกว่า นักลงทุนชาวไทย
เหรียญทองคำ
เหรียญทองคำ ส่วนใหญ่นิยมกันมากในฝั่ง South African Krugerrand,Canadian Maple Leaf, Australian Gold Nugget,American Gold Eagle หรือ U.S. Eagles แต่ในประเทศไทย กลับไม่ค่อยมีคนนิยมสักเท่าไหร่ ข้อดีของเหรียญทองที่เราไม่รู้คือ เหรียญทองจะมีเรื่องของความนิยมในตัวเหรียญเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย คล้ายๆ กับการสะสมสแตมป์ เหรียญทอง Double Eagle ตอนนี้ซื้อขายกันที่ 1,250 เหรียญ ทั้งๆ ที่ตอนออกมาใหม่ๆ ค.ศ. 1907 หรือ พ.ศ. 2450 ยังแค่ 20 เหรียญเท่านั้นเอง
เราสามารถลงทุนในเหรียญทองในประเทศไทยได้จาก เหรียญกษาปณ์ที่ระลึก แบบที่เป็นทองคำได้ด้วย เพราะเหรียญลักษณะนี้ ก็ให้ผลลงทุนที่ไม่แพ้กัน เลยทีเดียว แม้ว่าราคาทองจะลดลง แต่ราคาหน้าเหรียญก็ยังเป็นหลักประกันให้กับเหรียญทอง แต่เมื่อไหร่ที่ราคาทอง พุ่งขึ้นไป แน่นอน ราคาย่อมมีแต่วิ่งขึ้นอย่างเดียวครับ
ตัวอย่าง การลงทุน ให้เหรียญทอง
เหรียญกษาปณ์ทองคำที่ระลึกมหามงคลพระชนมพรรษา 60 พรรษา หรือเหรียญ 60 พรรษา ออกเมื่อวันที่ 5 ธ.ค. 2530 น้ำหนักทองคำ 1 สลึงราคาหน้าเหรียญ 1,500 บาท พอมาถึงวันนี้ที่ราคาทองคำไปถึงบาทละมากกว่า 2.5 หมื่นบาท หรือสลึงละไม่ถึง 7,000 บาท แต่ในวงการนักสะสมเหรียญซื้อขายเหรียญนี้กันอยู่ที่ 15,000 บาท แล้ว
สำหรับ การลงทุนทองคำ แบบอื่นๆ คือ หุ้นเหมืองทอง, กองทุนทองคำ, โกล์ดฟิวเจอร์, ตลาดโกล์ดสปอต อ่านเพิ่มได้ที่เวบนะครับ เพราะโพสไม่ได้ ยาวเกิ้น แหะๆๆๆ
http://www.การลงทุนไทย.com
http://www.xn--12cm2caj9ccq9iuc5g.com
|
|
|
|
|
|
|
|
ไก่กุ๊ก
|
คุยกันเยอะๆครับผมเก็บข้อมูลได้เพียบเลยเป็นความรู้ที่ดีมากๆเลยครับทุกท่าน
|
|
|
|
|
|
|
|
วรา
|
|
|
|
|
|
|
|
|
hOnEi PiE
|
ต้องเริ่มต้นลงทุนประมาณกี่บาทดีคะ เงินไม่ค่อยหนา แต่อยากหาอะไรทำ หรือลงทุนดีกว่าวางเงินในธนาคารเฉยๆน่ะค่ะ
|
|
|
|
|
|
|
|
|
ถ้าซื้อแบบคิดว่า ราคาตกขาดทุน ฉันก็ไม่ขาย ก็ไม่ต้องคิดมากครับ คิดเสียว่าซื้อเป็นออมทรัพย์ ดีกว่าดอกเบี้ยธนาคาร เอาไว้ต่อสู้เงินเฟ้อ
แต่ถ้าจะซื้อเป็นนักเก็งกำไรจริงๆ ไปหาความรู้เรื่อง cut loss มาให้ดีๆก่อนครับ เดี๋ยวจะเป็นโรคเครียด กับ โรคนอนไม่หลับแทน
|
|
|
|
|
|
|
|
deerzabza
|
เรามีข้อมูลเกี่ยวกับการลงทุนทองคำ สนใจรับคำปรึกษาฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย สามารถนัดวันเวลาพบได้ ติดต่อที่ zabzaajii@hotmail.co.th
|
|
|
|
|
|
|
|
Tasnim
|
Thanks for wirting such an easy-to-understand article on this topic.
|
|
|
|
|
|
|
|
Xoli
|
Articles like this make life so much spimler.
|
|
|
|
|
|
|
|
jedi
|
|
|
|
|
|
|
|
|
joom
|
ขอบคุณคะได้ความรู้เยอะมาก จากอยากลงทุน แต่ไม่มีความรู้เลย
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
ศุภมล
|
อ่านดูข้อมูลแล้วน่าสนใจมากๆๆเลยค่ะ
|
|
|
|
|
|
|
|
คิดดี
|
ขอบคุณสำหรับข้อมูลนะค่ะ ดีมากเลยกำลังคิดที่จะลงทุนพอดี
|
|
|
|
|
|
|
|
