เมื่อไม่นานมานี้เพิ่งจะมีโอกาสได้ผ่อนชีวิตจากคันเร่ง มาแตะเข้าเกียร์ว่างไปลั้ลลาที่หมู่เกาะ "กุญชรผยองเดช" หรือเรียกกันแบบชาวบ้านก็คือ "
เกาะช้าง" นั่นแหละ เนื่องด้วยเป็นการเปิดซิงในการไปเยือนเกาะนี้ครั้งแรกของผมและครอบครัว สถานหลับนอนจึงต้องคัดสรรกันเป็นพิเศษ และเราก็ตัดสินใจจิ้มนิ้วเลือก "ดุสิต ปริ๊นเซส" เพราะด้วยความหะรูหะราที่น่าจะทำให้การพักผ่อนเป็นไปด้วยความโสภา
หลังจากมาราธอนขับรถกันมาจนก้นด้านจากกรุงเทพฯ ราวๆ 5-6 ชั่วโมง เมื่อเลี้ยวรถเข้าไปในที่พัก คุณจะได้พบกับรูปปั้นเทพีนางเงือกสีเทายืนตระหง่านคอยทักทายทุกท่าน และทันทีที่ก้าวลงจากรถก็จะได้รับการต้อนรับอย่างยอดเยี่ยมของพนัก
งานที่จะยกมือไหว้ด้วยความนอบน้อม และรีบมาช่วยคุณยกสัมภาระอย่างขยันขันแข็ง นับเป็นความประทับใจแรกที่ผมได้สัมผัส หลังจากนั้นเมื่อเดินเข้าไปด้านในสังเกตรายรอบก็พบได้ถึงการตก
แต่งของที่พักที่โอ่อ่า หรูหรา เน้นดีไซน์ที่โค้งมนและมีบ่อน้ำคอยเติมความสดชื่นให้ทุกท่านอยู่เป็นระยะ
ระหว่างกำลังเดินเรื่องติดต่อรายละเอียดห้องพักที่เคาน์เตอร์ ผมและครอบครัวก็ได้รับการต้อนรับอีกดอกจากพนักงานสาวโฉมยงหน้าแฉล้ม (ที่น่าจะให้คุณ
แม่ไปสู่ขอ อิอิ) เดินมาเสิร์ฟน้ำกระเจี๊ยบเย็นฉ่ำ พร้อมผ้าเย็นกลิ่นสดชื่นที่ช่วยคลายความเหนื่อยได้เป็นปลิดทิ้ง (จริงๆ หายเหนื่อยตั้งแต่เห้นหน้าคุณน้องผู้นั้นแล้วล่ะครับ หุหุ) แม้จะเป็นบริการเล็กๆ แต่ผมว่าน่าจะสร้างความประทับใจให้กับแขกทุกท่านที่มาเยือนได้อย่างแน่นอน
ใกล้ๆ เคาน์เตอร์ต้อนรับก็มีมุมสำหรับบริการของว่างจำพวกเค้ก, ไอศกรีม, เครื่องดื่มต่างๆ ซึ่งราคาค่อนข้างโหดเอาการ อย่างเค้กชิ้นนึงก็กดไป 140 บาท แต่ช่วงเย็นๆ แอบมีเคาะกระหน่ำซัมเมอร์เซลล์หั่นเหลือครึ่งราคาแค่ 70 บาท ก็เลยสอยมาชิมสักชิ้น ความอร่อยก็อยู่ในระดับที่โอเค เข้มข้นใช้ได้เลยทีเดียว ส่วนไอศกรีมหากคุณร้องถามถึงวอลล์หรือเนสต์เล่ก็คงเดินไปซื้อได้แต่ในเซเว่น เพราะที่นี่เค้าจำหน่ายแต่ยี่ห้อ Haagen-dazs ซึ่งทั้งรสชาติและราคาก็จัดหนักแก่กระเป๋าสตางค์อยู่
