หน้า: 1

ชนิดกระทู้ ผู้เขียน กระทู้: สุมหัวขายทรัพย์สินของชาติ..สุดท้ายคนที่เดือดร้อนคือประชาชน..  (อ่าน 3191 ครั้ง)
add
เรทกระทู้
« เมื่อ: 10 ม.ค. 12, 08:47 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
Send E-mail

แบ่งปันกระทู้นี้ให้เพื่อนคุณอ่านไหมคะ?

ปิดปิด
 
"รสนา" ชำแหละต้นทุน NGV ที่แท้จริงอยู่ที่ประมาณ 4 บาทต่อกก. แต่ปตท.มั่วนิ่มตั้งสูงถึง 8.39 บาท ชี้ม็อบเสียรู้รัฐบาลอย่างจัง เพราะยอมให้ขึ้นราคาแล้วไม่มีทางลงแน่นอน รู้ทันใช้เทคนิคค่อยๆขึ้นทีละ 50 ส.ต. จนคนไทยเดือดร้อนแบบไม่รู้ตัว พร้อมถามจะยอมถูกต้มอย่างนี้ต่อไปหรือ ด้าน "อิฐบูรณ์" แฉ LPG ยิ่งหนัก ปล่อยขึ้นราคาแบบไม่มีลิมิต อีกทั้งยังโกหกโทษรถยนต์ทำให้ขาดแคลน ที่แท้อุตสาหกรรมเครือปตท.เองคือต้นเหตุ

วันที่ 9 ม.ค. เมื่อเวลา 20.30 น. น.ส.รสนา โตสิตระกูล ส.ว.กทม.และประธานคณะกรรมการศึกษาตรวจสอบการทุจริตและเสริมสร้างธรรมาภิบาล วุฒิสภา และนายอิฐบูรณ์ อ้นวงษา หัวหน้าศูนย์พิทักษ์ผู้บริโภค มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค ได้ร่วมพูดคุยในรายการ "คนเคาะข่าว" ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ ASTV

น.ส.รสนา กล่าวถึงกรณีขึ้นราคาก๊าซ NGV ว่า ปัญหาอยู่ที่นักวิชาการก็ตาม ปตท.ก็ตาม ชอบพูดว่าราคาก๊าซ - พลังงานต้องสะท้อนต้นทุนที่แท้จริง แต่ต้นทุนที่แท้จริงเคยเอามาเปิดเผยหรือไม่ ราคาจากเอกสารโฆษณาของปตท.เอง ระบุว่าราคา NGV อยู่ที่ 8.39 บาท ต่อกก. ซึ่งมันไม่ใช่ต้นทุนจริง มันเป็นราคาที่ขายให้กับกฟผ. ซึ่งรวมค่าบริหารจัดการ รวมค่าผ่านท่อ รวมกำไร และยังบวกค่าขนส่งอีก 5.56 บาท เท่ากับค่าขนส่ง 40 เปอร์เซ็นต์ มันมีกิจการอะไรที่ค่าขนส่งมากถึง 40 เปอร์เซ็นต์

ส่วนราคาก๊าซในตลาดโลกเมื่อ วันที่ 23 ธ.ค. 2554 อยู่ที่ 2 เหรียญ 79 เซ็นต์ ต่อ 1 ล้านบีทียู 1 ล้านบีทียู เป็นค่าความร้อน ถ้าแปลงให้เป็นกิโลกรัมก็คือเท่ากับ 27.82 กก. พอเป็นเงินไทยเฉลี่ยตกที่กิโลกรัมละ 3 .37 บาท นี่คือต้นทุนตลาดโลก มันสะท้อนต้นทุนตรงไหน

อีกทั้งราคาก๊าซธรรมชาติปี 2007 -2011 ขึ้นสูงสุดเมื่อปี 2008 หลังจากนั้นต่ำลงเรื่อยๆ ทิศทางในตลาดโลกเป็นขาลง แต่คุณกลับสวนขึ้นและขึ้นในยามที่คนกำลังลำบากจากปัญหาน้ำท่วม


อีกทั้งความจริงแล้วราคาผ่านแนวท่อก๊าซมันถูกมาก เมื่อปี 2552 คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงานอนุญาตให้ปตท.ขึ้นค่าผ่านท่อได้ 2 บาท ต่อ1 ล้านบีทียู ก็คือรวมแล้ว 22 บาท กับอีกเศษนิดหน่อย ต่อ 27 .82 กก. เฉลี่ยแล้วไม่ถึง 1 บาทต่อกก. สมมุติเอาราคาตลาดโลก 3.37 บาท บวก 1 บาท อยู่ที่ 4 บาท แต่คุณบวกค่าขนส่งมหาโหดอย่างนี้ได้อย่างไร

v
v
รู้ไว้ใช่ว่า..เรื่องเล็กน้อยของนายทุน..อย่าสนับสนุนคนรวยจนไม่ลืมหูลืมตาทุกวันนี้ประชาชนเดือดร้อนจะขูดรีดกันไปถึงไหน..บรูไน..มาเลเซียเขามีน้ำมันเอง..ราคาถูกกว่าน้ำดื่มแต่ประเทศไทยมี oil/gas หากควบคุมราคา..ที่เป็นธรรมประชาชนได้ประโยชน..รัฐบาลเป็นผู้ควบคุมกลไกตลาดไม่ใช่นายทุนครับ..หรือรัฐบาลคือนายทุนเสียเอง..?



http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9550000003501




noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า

กระทู้ฮอตในรอบ 7 วัน

add
เรทกระทู้
« ตอบ #1 เมื่อ: 10 ม.ค. 12, 09:07 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

สมบัติทรัพย์สินของประเทศชาติ เป็นของแผ่นดินไทย ไม่ใช่ของใครคนใดคนหนึ่ง ผลประโยชน์ควรตกอยู่กับประชาชนไม่ใช่นักการเมือง...ระวังให้ดีมันผู้ใด โกงกินทรัพย์สินของแผ่นดิน จะไม่มีแผ่นดินอาศัยอยู่

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
add
เรทกระทู้
« ตอบ #2 เมื่อ: 10 ม.ค. 12, 09:36 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

จุดมุ่งหมายนักการเมืองไทยส่วนใหญ่ คือการพยายามขยายอิทธิพลเป็นผู้ควบคุม "กลไกตลาด" อย่างเบ็ดเสร็จ โดยลำพังเสียเอง ตามแบบอย่าง "อดีตยอดนายกฯนักธุรกิจ" ผู้เคยประสพความสำเร็จมาแล้วอย่างล้นหลาม จนกลายเป็น "ไอดอล" ของนักการเมืองไทยในยุคปัจจุบัน ที่ต่างพากันพยายามลอกเลียนแบบ จนส่งผลกระทบเป็นความเดือดร้อนต่อประชาชนอย่างที่เห็น

นักการเมืองไทยปัจจุบัน เชื่อว่าตนจะประสพความสำเร็จสูงสุดในอาชีพได้ ต้องเป็น "มาเฟียรัฐสภา "

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
นะฮะ
เรทกระทู้
« ตอบ #3 เมื่อ: 10 ม.ค. 12, 10:13 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 
เฮ้อ..นึกวาข่าวจากไหน..ที่แท้ก็ข่าวจาก ASTV

ปีก่อนข่าวจากสำนักนี้ชี้ว่าอภิสิทธิ์เลวร้ายกว่าทักษิณซะอีก...

แล้ว..ตกลงว่าเจ้าของค่ายนี้..ดีแต่ผู้เดียวเรอะ....????...!!!!!
q*033q*032q*031q*039
noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
add
เรทกระทู้
« ตอบ #4 เมื่อ: 10 ม.ค. 12, 10:14 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

คงจะมี กลไกอะไรบางอย่าง ที่ทำให้ มันแพงกว่าประเทศอื่น ให้นักวิชาการ มาช่วยแถลงไขหน่อยก็ดีนะครับ หึๆๆ q*039

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
add
เรทกระทู้
« ตอบ #5 เมื่อ: 10 ม.ค. 12, 10:19 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

ราคา 8.50 บาทมันใช้กันมา 5 ปีแล้วถ้าจำไม่ผิด ถ้าต้นทุนมัน 4 บาทกว่า

ๆจริงทำไมรสนาไม่ออกมาตั้งแต่ 3-4 ปีที่แล้วจะดูดีกว่านี้มาก

ปล.คคหสต.สำหรับ ส.ว.คนนี้ผมไม่ชอบตั้งแต่เ็ห็นภาพในทีวีเมื่อนานมาแล้ว

เรื่องอะไรสักอย่างแล้วมีคนไปก้มลงกราบแล้ว ส.ว.คนนี้ยังยิ้มรับแทนที่เป็น

เขาก้มลงจะรีบพยุงเขาขึ้น ภาพนั้นยังติดตาเสมอ

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
add
เรทกระทู้
« ตอบ #6 เมื่อ: 10 ม.ค. 12, 10:22 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

ถามหน่อยครับ

- ถ้า NGV. ต้นทุนต่ำ กำไรงามขนาดนั้น ผู้ค้าน้ำมันรายอื่นทำไมไม่สนใจลงทุนครับ???

เพราะเป็นตลาดขาขึ้นแต่ละปั้มคิวรอยาวเป็นหลายชั่วโมง หากกำไรงามอย่างนั้นน่าจะคืนทุนไม่ยาก

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
นะฮะ
เรทกระทู้
« ตอบ #7 เมื่อ: 10 ม.ค. 12, 11:09 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 
การบอกว่าเป็นการขายสมบัติชาตินั้น พูดแบบเอามันเท่านั้นเอง ประเทศอังกฤษเขาก็แปรรูปไปแทบหมดเช่นกัน บางยุคบางสมัยอาจจะเหมาะสม แต่บางยุคก็ได้แปรเปลี่ยนไป..เหมือนประเทศสังคมนิยมหลาย ๆ ประเทศ การผ่อนผันให้เอกชนมีทรัพย์สินส่วนตัว ก็เป็นไปได้ในยุคนี้ แต่ในยุคลัทธิคอมมูนิสต์เริ่มต้นแบบเข้มข้นนั้น การมีทรัพย์สินส่วนตัวของประชาชนไม่อาจจะเป็นไปได้เลย...

ปตท.ยุคนี้ ถึงจะแปรรูปเป็นบริษัทมหาชน แต่ก็ยังมีกระทรวงการคลังเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อยู่ โดยถืออยู่ในรูปกองทุนฯต่าง ๆ ส่วนประชาชนมีถือหุ้นอยู่เพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น
q*032q*033q*039

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
k542
เรทกระทู้
« ตอบ #8 เมื่อ: 10 ม.ค. 12, 11:40 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 
เฮ้อ..นึกวาข่าวจากไหน..ที่แท้ก็ข่าวจาก ASTV

ปีก่อนข่าวจากสำนักนี้ชี้ว่าอภิสิทธิ์เลวร้ายกว่าทักษิณซะอีก...

แล้ว..ตกลงว่าเจ้าของค่ายนี้..ดีแต่ผู้เดียวเรอะ....????...!!!!!
q*033q*032q*031q*039

q*062q*062
noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
นะฮะ
เรทกระทู้
« ตอบ #9 เมื่อ: 10 ม.ค. 12, 12:07 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 
การแปรรูปรัฐวิสาหกิจ.....ไม่เลวร้ายอย่างที่คิดหรอก..
การแปรรูปกิจการไฟฟ้าฯนับเป็นผลงานที่สุดยอดของรัฐบาลชวนฯ ทั้งๆที่สื่อต่างมั่นใจในพลังอำนาจต่อต้านที่สูงมากๆของการไฟฟ้านี้(ในช่วงรัฐบาลชาติชายฯแค่คิดจะแปรรูปฯเขารัฐบาลก็เกือบจะล้มฯ) และปรามาสว่ารัฐบาลชวนฯนี้จะต้องแพ้แน่ๆแบบรัฐบาลชาติชายฯ

แต่ผล...สามารถบังคับควบคุมการแปรรูปธุรกิจไฟฟ้าฯได้เบ็ดเสร็จ....มีการขายโรงไฟฟ้าใหม่ๆทันสมัยออกไป..ไม่ว่าโรงไฟฟ้าที่ระยอง ที่ขนอม(จ.นครฯ)และสุดใหญ่โตมโหฬารคือโรงไฟฟ้าราชบุรี...จนป่านนี้พนักงานรัฐวิสาหกิจการไฟฟ้าฯยังเชื่อว่าพวกเขายังเป็นเจ้าของโรงไฟฟ้าที่ใหม่และทันสมัยเหล่านี้อยู่ อย่างมิเสื่อมคลาย หรือการให้เอกชนเข้ามาลงทุนสร้างโรงไฟฟ้าฯเพื่อขายไฟฯก็ประสบความสำเร็จยิ่ง...ต่างชาติต่างชื่นชมความสามารถอันลึกล้ำนี้ของรัฐบาลชวนฯมากๆ....แล้วยังคิดกันอีกหรือว่ากฏหมาย ๑๑ ฉบับนั้นขายชาติ(น่าเสียดายที่สื่อไทยไม่ไปแวะเอาไมต์จ่อปากพนักงานไฟฟ้าฯ...สังคมจะได้รับฟังข้อมูลจริงๆจากองค์กรที่ได้รับผลดีจากกฏหมายแปรรูปรัฐวิสาหกิจฯ และเป็นตำนานและผลงานที่ยิ่งใหญ่ของรัฐบาลชวนฯที่ทุกฝ่ายยกนิ้วให้..เจ๋งจริงๆพลังสะตอนี่)

จากคุณ : ขายชาติ q*073q*074q*033q*039
noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
add
เรทกระทู้
« ตอบ #10 เมื่อ: 10 ม.ค. 12, 12:27 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 
ถามหน่อยครับ

- ถ้า NGV. ต้นทุนต่ำ กำไรงามขนาดนั้น ผู้ค้าน้ำมันรายอื่นทำไมไม่สนใจลงทุนครับ???

เพราะเป็นตลาดขาขึ้นแต่ละปั้มคิวรอยาวเป็นหลายชั่วโมง หากกำไรงามอย่างนั้นน่าจะคืนทุนไม่ยาก

ไม่มีนายทุนที่ไหนหรอกครับที่ออกมาบอกว่ากำไรมหาศาล บล้าาๆๆ ขนาดรวยเป็นหมืนล้านแสนล้านยังไม่รู้จักพอ ง่ายๆ..หากนายทุน.ขาดทุนทำไมไม่ให้รัฐบาลเป็นคนทำ..ไม่มีที่ไหนในโลกที่เขาทำแล้วขาดทุน ว่างๆก็ไปดูผลกำไรของนายทุนว่าได้ปีละเท่าไหร่ หากรัฐบาลไม่ชี้แจงข้อเท็จจริงให้ประชาชนทราบก็เตรียมนับถอยหลังได้ การซื้อเวลาแค่สี่เดือนไม่ใช่การแก้ปัญหา..ที่ brunei บริษัท brunei shell เป็นคนขุดเจาะ รัฐบาลควบคุมราคา 97 ลิตรละ 51เซนต์ ประมาณ 12 บาท ทำไมเขาอยู่ได้..แถมปีนี้มีการเจาะเพิ่ม มี RIG เข้ามาเจาะแล้วเกือบสิบตัวทั้งที่แปดปีที่ผ่านมามีRIG เจาะเพิ่มแค่ปีละไม่เกินสามตัว หากธุรกิจ oil&gas ขาดทุนคนบางกลุ่มคงไม่วิ่งกันหัวปั่นมั่งครับ..



CWDP-1 ติดตั้งเมื่อสองปีที่แล้ว..เป็นแท่นที่ทันสมัยที่สุด..การทำงานใช้ระบบ DCS/IPS ปี /2011 มีติดตั้งเพิ่ม อีกสามแท่น BUDP-1 SWDP-1,MGDP-1 หากขาดทุนเขาจะทำไปทำไม..?


noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
นะฮะ
เรทกระทู้
« ตอบ #11 เมื่อ: 10 ม.ค. 12, 12:28 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 
แปรรูปรัฐวิสาหกิจ ต้นเหตุวิกฤติอาร์เจนตินาจริงหรือ?

มองมุมใหม่ :แปรรูปรัฐวิสาหกิจ ต้นเหตุวิกฤติอาร์เจนตินาจริงหรือ?


10 พฤษภาคม 2549 16:58 น.
รศ.ดร.พิชิต ลิขิตกิจสมบูรณ์ คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

ในการเคลื่อนไหวคัดค้านการแปรรูปรัฐวิสาหกิจ กลุ่มต่อต้านโลกาภิวัตน์และนักฉวยโอกาสทางการเมืองของไทยชูกรณีวิกฤติอาร์เจนตินาปี 2544 เป็นตัวอย่างว่า เกิดจากนโยบายแปรรูปรัฐวิสาหกิจของรัฐบาลอาร์เจนตินา นำมาซึ่งการล่มสลายทางเศรษฐกิจอย่างทั่วด้าน ข่มขู่ให้คนไทยหวาดกลัวว่า หากประเทศไทยเดินตามแนวทางแปรรูปรัฐวิสาหกิจ ก็จะต้องมีชะตากรรมเช่นเดียวกับอาร์เจนตินา แต่ทั้งหมดนี้เป็นเพียงการบิดเบือนความจริงเพื่อปลุกปั่นความกลัวในหมู่ประชาชนอันเป็นวิธีที่พวกเขาถนัดอย่างยิ่ง

อาร์เจนตินาเคยเป็นประเทศร่ำรวยที่สุดแห่งหนึ่งของโลกในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 ด้วยเศรษฐกิจส่งออกสินค้าเกษตรไปป้อนตลาดยุโรปและสหรัฐอเมริกา แต่จุดหักมุมเกิดขึ้นในช่วงปี 2489-2495 เมื่อผู้นำเผด็จการฮวน เปรอง ขึ้นเป็นประธานาธิบดี ปลุกอารมณ์ชาตินิยม ต่อต้านสหรัฐอเมริกา และทุนต่างชาติ ทั้งดำเนินนโยบายเศรษฐกิจที่กลายเป็นมรดกอันเลวร้ายมาถึงปัจจุบันคือ การแพร่ขยายรัฐวิสาหกิจและนโยบายประชานิยม

รัฐบาลเปรอง เข้ายึดทรัพย์ธุรกิจของต่างชาติ แปรเป็นรัฐวิสาหกิจ แล้วปกป้องคุ้มครองด้วยการขึ้นกำแพงภาษีนำเข้าสูงลิบ กีดกันการค้าต่างประเทศ ห้ามการแข่งขันทั้งใน และต่างประเทศ รวมทั้งดำเนินนโยบาย "ประชานิยม" แจกจ่ายเม็ดเงิน และผลประโยชน์ให้กับกลุ่มพลังต่างๆ ทั้งสหภาพแรงงาน เกษตรกร กลุ่มธุรกิจ และทหาร

เศรษฐกิจอาร์เจนตินาเกิดวิกฤติชะงักงัน เงินเฟ้อพุ่งเพราะรัฐบาลใช้จ่ายเงินมหาศาลเพื่ออุ้มรัฐวิสาหกิจ และนโยบายประชานิยม กระทั่งเปรองถูกคณะทหารยึดอำนาจในปี 2498 แต่อนิจจา ระบอบรัฐวิสาหกิจและประชานิยมกลับยืนยงต่อมา

การเมืองอาร์เจนตินาผ่านการเมืองแบบเลือกตั้งสลับกับเผด็จการทหารขณะที่เศรษฐกิจเผชิญเงินเฟ้อพุ่งสลับกับภาวะตกต่ำตลอดสี่สิบปี รัฐบาลทุกยุคสมัยต้องพิมพ์ธนบัตรและกู้หนี้ต่างประเทศเพื่ออุ้มรัฐวิสาหกิจทั้งระบบที่ขาดทุนอย่างหนัก และใช้จ่ายในโครงการประชานิยมต่างๆ ทำให้เงินเฟ้อพุ่งไม่หยุด บางครั้งสูงถึง 4,000% ต่อปี กระทั่งปี 2525-2526 อำนาจคณะทหารก็ล่มสลายจากการพ่ายแพ้ในสงครามหมู่เกาะโฟล์คแลนด์ มีการฟื้นประชาธิปไตย และประธานาธิบดีพลเรือนจากการเลือกตั้ง

ถึงปี 2534 เศรษฐกิจอาร์เจนตินาถึงวิกฤติสุดขีด เงินเฟ้อสูงถึง 20,000% ต่อปี หนี้ต่างประเทศที่เกิดจากการอุ้มรัฐวิสาหกิจที่ขาดทุนมีสูงถึง 64,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐหรือ 38.8% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) เงินทุนสำรองระหว่างประเทศเกือบเป็นศูนย์ รัฐบาลจำต้องปฏิรูปเศรษฐกิจเพื่อความอยู่รอด เริ่มจากการลดอัตราภาษีศุลกากร ลดการคุ้มครองธุรกิจในประเทศ ให้สินค้านำเข้ามาแข่งขันได้ และแก้ไขกฎระเบียบส่งเสริมการส่งออก

รัฐบาลยังประกาศใช้ระบบอัตราแลกเปลี่ยนคงที่ ผูกติดปริมาณเงินเปโซไว้กับเงินดอลลาร์สหรัฐที่ไหลเข้าออกประเทศ ทำให้รัฐบาลไม่สามารถพิมพ์ธนบัตรออกมาใช้จ่ายได้ตามใจชอบอีกต่อไป

ระบบรัฐวิสาหกิจหยั่งรากลึกในเศรษฐกิจอาร์เจนตินา มีกิจการทุกประเภท ตั้งแต่สาธารณูปโภค เชื้อเพลิง ขนส่ง ไปถึงห้างสรรพสินค้า โรงภาพยนตร์ บาร์ไนท์คลับ คณะละครสัตว์ และโบสถ์คริสต์ เกือบทั้งหมดขาดทุนอย่างหนัก เป็นภาระที่รัฐบาลต้องหาเงินมาหล่อเลี้ยงจำนวนมหาศาลทุกปีและเป็นรากเง้าของปัญหาเงินเฟ้อ รัฐบาลจึงเร่งแปรรูปรัฐวิสาหกิจ มีทั้งยุบเลิกและแปลงสภาพเป็นบริษัทขายให้เอกชนไปดำเนินการ แล้วนำเงินไปใช้หนี้ต่างประเทศ

ผลก็คือ เงินเฟ้อลดต่ำกว่า 10% ขณะที่เศรษฐกิจฟื้นตัวเติบโตในอัตรา 7.9% ต่อปีในช่วง 2536-37 แต่ปัญหาใหญ่กลับยังไม่ได้รับการแก้ไขคือ หนี้ต่างประเทศลดลงไม่มาก รวมทั้งการใช้จ่ายเกินตัวทั้งของรัฐบาลกลางและท้องถิ่น

เมื่อเกิดวิกฤติเม็กซิโกปี 2537-2538 เจ้าหนี้ต่างชาติแตกตื่น เงินทุนไหลออก เศรษฐกิจถดถอย คนว่างงานพุ่ง ตั้งแต่ปี 2539 รัฐบาลกลับมาใช้จ่ายเกินตัวอีก แต่ไม่สามารถพิมพ์ธนบัตรได้ จึงหันไปกู้หนี้ด้วยการออกพันธบัตรขายในประเทศ และต่างประเทศเพื่อนำเงินมาใช้จ่าย งบประมาณรายจ่ายเพิ่มไปถึง 21% ของจีดีพีขณะที่หนี้ต่างประเทศพุ่งขึ้นเป็น 172,200 ล้านดอลลาร์หรือ 64.1% ของจีดีพีในปี 2544

แล้ววันแห่งชะตากรรมก็มาถึงในปี 2542 เมื่อเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น ทำให้เงินเปโซแข็งตามไปด้วย ซ้ำเติมด้วยบราซิลประเทศคู่ค้ารายใหญ่ประกาศลดค่าเงินเรียลถึง 40% ทำให้การส่งออกของอาร์เจนตินาตกต่ำ การนำเข้าพุ่ง ขาดดุลบัญชีเดินสะพัด เศรษฐกิจถดถอยต่อเนื่องหลายปี ผู้คนตกงานถึง 21% ท้ายสุดปี 2544 รัฐบาลไม่สามารถลดการใช้จ่ายได้ตามแผน เจ้าหนี้ต่างชาติแตกตื่นปฏิเสธให้เงินกู้เพิ่ม รายจ่ายรัฐบาลสะดุด ค่าเงินเปโซในตลาดมืดตกฮวบ ผู้คนแห่กันไปถอนเงินดอลลาร์จากธนาคาร เกิดจลาจลทั่วประเทศ ธุรกิจชะงัก และรัฐบาลประกาศพักชำระหนี้ ตามมาด้วยการลอยค่าเงินเปโซในปี 2546 และการตัดลดงบประมาณรายจ่ายของรัฐจำนวนมหาศาล เศรษฐกิจจึงค่อยๆ ฟื้นและขยายตัวดีในอัตราเฉลี่ย 8% ช่วง 2546-2548

เห็นได้ว่า การแปรรูปรัฐวิสาหกิจไม่ใช่สาเหตุให้เศรษฐกิจอาร์เจนตินาล่มสลายดังที่กลุ่มต่อต้านโลกาภิวัตน์และนักฉวยโอกาสทางการเมืองได้บิดเบือนมาตลอด แต่เป็นตรงข้ามคือ ระบบรัฐวิสาหกิจที่ทุจริต ไร้ประสิทธิภาพ และขาดทุนต่างหากที่เป็นรากเง้าของปัญหาทั้งหมด ก่อเป็นหนี้สินของรัฐบาลสั่งสมมาหลายสิบปีเป็นจำนวนนับแสนล้านดอลลาร์ถึงปัจจุบัน

ซ้ำเติมด้วยการขาดวินัยทางการคลังของรัฐบาลกลางและท้องถิ่นที่ใช้จ่ายโดยไม่สัมพันธ์กับการจัดเก็บภาษี แล้วหาทางออกง่ายๆ ด้วยการกู้หนี้สาธารณะเพิ่ม

บทเรียนสำคัญจากอาร์เจนตินาคือ ต้องแปรรูปรัฐวิสาหกิจ กำกับดูแลไม่ให้มีการผูกขาด ส่งเสริมการแข่งขัน เพิ่มประสิทธิภาพ ยกภาระหนี้สินและการลงทุนของรัฐวิสาหกิจออกไปจากการค้ำประกันและงบประมาณของรัฐบาล ในขณะที่รัฐบาลก็ต้องรักษาวินัยทางการคลังอย่างเข้มงวด ใช้จ่ายให้สัมพันธ์กับรายรับภาษี และระวังให้หนี้สาธารณะอยู่ในระดับต่ำและมีเสถียรภาพ.
q*033q*032q*039
noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
add
เรทกระทู้
« ตอบ #12 เมื่อ: 10 ม.ค. 12, 12:38 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 
การแปรรูปรัฐวิสาหกิจ.....ไม่เลวร้ายอย่างที่คิดหรอก..
การแปรรูปกิจการไฟฟ้าฯนับเป็นผลงานที่สุดยอดของรัฐบาลชวนฯ ทั้งๆที่สื่อต่างมั่นใจในพลังอำนาจต่อต้านที่สูงมากๆของการไฟฟ้านี้(ในช่วงรัฐบาลชาติชายฯแค่คิดจะแปรรูปฯเขารัฐบาลก็เกือบจะล้มฯ) และปรามาสว่ารัฐบาลชวนฯนี้จะต้องแพ้แน่ๆแบบรัฐบาลชาติชายฯ

แต่ผล...สามารถบังคับควบคุมการแปรรูปธุรกิจไฟฟ้าฯได้เบ็ดเสร็จ....มีการขายโรงไฟฟ้าใหม่ๆทันสมัยออกไป..ไม่ว่าโรงไฟฟ้าที่ระยอง ที่ขนอม(จ.นครฯ)และสุดใหญ่โตมโหฬารคือโรงไฟฟ้าราชบุรี...จนป่านนี้พนักงานรัฐวิสาหกิจการไฟฟ้าฯยังเชื่อว่าพวกเขายังเป็นเจ้าของโรงไฟฟ้าที่ใหม่และทันสมัยเหล่านี้อยู่ อย่างมิเสื่อมคลาย หรือการให้เอกชนเข้ามาลงทุนสร้างโรงไฟฟ้าฯเพื่อขายไฟฯก็ประสบความสำเร็จยิ่ง...ต่างชาติต่างชื่นชมความสามารถอันลึกล้ำนี้ของรัฐบาลชวนฯมากๆ....แล้วยังคิดกันอีกหรือว่ากฏหมาย ๑๑ ฉบับนั้นขายชาติ(น่าเสียดายที่สื่อไทยไม่ไปแวะเอาไมต์จ่อปากพนักงานไฟฟ้าฯ...สังคมจะได้รับฟังข้อมูลจริงๆจากองค์กรที่ได้รับผลดีจากกฏหมายแปรรูปรัฐวิสาหกิจฯ และเป็นตำนานและผลงานที่ยิ่งใหญ่ของรัฐบาลชวนฯที่ทุกฝ่ายยกนิ้วให้..เจ๋งจริงๆพลังสะตอนี่)

จากคุณ : ขายชาติ q*073q*074q*033q*039

นอกประเด็นแระ..เรื่องที่เขาประท้วงอยู่นะ NGV ไม่ใช่ไฟฟ้า..โยนมั่วเลยนะ..ตอนนี้เอา oil&gas ก่อน..วันหลังจะตั้งกระทู้ไฟฟ้าให้..

cocococococo




noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
add
เรทกระทู้
« ตอบ #13 เมื่อ: 10 ม.ค. 12, 12:48 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 
เฮ้อ..นึกวาข่าวจากไหน..ที่แท้ก็ข่าวจาก ASTV

ปีก่อนข่าวจากสำนักนี้ชี้ว่าอภิสิทธิ์เลวร้ายกว่าทักษิณซะอีก...

แล้ว..ตกลงว่าเจ้าของค่ายนี้..ดีแต่ผู้เดียวเรอะ....????...!!!!!
q*033q*032q*031q*039

ดูที่มาก็ต้องดูที่ความเป็นจริงด้วย..NGV ราคาแพง นายทุนได้ประโยชน์
NGV ราคาถูกประชาชนได้ประโยชน์..ไม่ใช่มาคร์..การเรียกร้องให้ประชาชนได้ประโยชน์.มันผิดตรงไหน..? เพราะ ASTVมิใช่หรือถึงกลับบ้านกลับช่องไม่ได้..




noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
add
เรทกระทู้
« ตอบ #14 เมื่อ: 10 ม.ค. 12, 13:25 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

สรุป มาวิเคราะห์ข่าว หรือ ที่มาของของ หรือ คนเขียนข่าวกันแน่ครับเนี้ย

การแปรรูป เป็น รัฐวิสาหกิจ ต่างจาก ขายเข้าตลาดหุ้นน่ะครับ คุณนะฮะ มันต่างกันเยอะ คงจะนำมาเปรียบเทียบว่าเหมือนกันไม่ได้

แล้วปัจจุบัน รัฐ ถือครองหุ้น 51% ต่อ นอกนั้นก็คือ ประชาชน(หรือเปล่า) 49% เพราะ หุ้น ปตท. รู้กันอยู่ครับ ไม่มีเส้นสายจริง ๆ หรือไม่ใหญ่จริงซื้อไม่ได้ครับ

แล้ว แปรรูป หรือ ขายเข้าตลาดหุ้น อันไหน ดูจะเหมาะสม กับ สินค้า ที่เรียกว่า "พลังงาน"

คนเรียนสายบริหาร เศรษฐศาสตร์ การขาย การตลาด รู้ ๆ กันอยู่ครับ ว่าไม่เหมาะสม ที่จะทำ สินค้า พลังงาน ที่เป็นต้นทุนการผลิต เข้าสู่ ตลาดทุน

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
add
เรทกระทู้
« ตอบ #15 เมื่อ: 10 ม.ค. 12, 14:02 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

ที่เคยได้ยินว่า เปิดขายหุ้น 5 นาที ขายหมดเกลี้ยง ใช่ที่นี่รึเปล่านะ? q*039

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
add
เรทกระทู้
« ตอบ #16 เมื่อ: 10 ม.ค. 12, 14:31 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 
ไม่มีนายทุนที่ไหนหรอกครับที่ออกมาบอกว่ากำไรมหาศาล บล้าาๆๆ ขนาดรวยเป็นหมืนล้านแสนล้านยังไม่รู้จักพอ ง่ายๆ..หากนายทุน.ขาดทุนทำไมไม่ให้รัฐบาลเป็นคนทำ..ไม่มีที่ไหนในโลกที่เขาทำแล้วขาดทุน ว่างๆก็ไปดูผลกำไรของนายทุนว่าได้ปีละเท่าไหร่ หากรัฐบาลไม่ชี้แจงข้อเท็จจริงให้ประชาชนทราบก็เตรียมนับถอยหลังได้ การซื้อเวลาแค่สี่เดือนไม่ใช่การแก้ปัญหา..ที่ brunei บริษัท brunei shell เป็นคนขุดเจาะ รัฐบาลควบคุมราคา 97 ลิตรละ 51เซนต์ ประมาณ 12 บาท ทำไมเขาอยู่ได้..แถมปีนี้มีการเจาะเพิ่ม มี RIG เข้ามาเจาะแล้วเกือบสิบตัวทั้งที่แปดปีที่ผ่านมามีRIG เจาะเพิ่มแค่ปีละไม่เกินสามตัว หากธุรกิจ oil&gas ขาดทุนคนบางกลุ่มคงไม่วิ่งกันหัวปั่นมั่งครับ..

CWDP-1 ติดตั้งเมื่อสองปีที่แล้ว..เป็นแท่นที่ทันสมัยที่สุด..การทำงานใช้ระบบ DCS/IPS ปี /2011 มีติดตั้งเพิ่ม อีกสามแท่น BUDP-1 SWDP-1,MGDP-1 หากขาดทุนเขาจะทำไปทำไม..?


คนละเรื่องเดียวกันเลยครับ นี่กำลังพูดถึง NGV ในเมืองไทย ไม่ใช่เหมารวมปิโตเลียมที่ไหนๆ ที่นี่ไทยแลนด์ บนต้นทุน บนข้อจำกัด ที่เป็นอยู่

จะไปเทียบกับบรูไนเศรษฐีน้ำมันไม่ได้หรอกครับ ที่นั่นเค้าแจกให้ประชาชนใช้ฟรียังได้เลย

เชื่อดิหากการค้า NGV มันต้นทุนต่ำ กำไรงามอย่างที่คุณว่าจริง มีหรือที่ผู้ค้าจะปล่อยให้ลูกค้ารอเป็นสองสามชั่งโมง หรือบางทีต้องรอกันเป็นวัน

อย่างทุกวันนี้ผมส่งไป จาก อุดร ไป กทม.

- รถน้ำมัน ออกก่อนช่วงหัวค่ำ เข้าท่าเรือถ่ายของเสร็จก่อนเที่ยง

- หากเป็นรถ NGV. จะเข้าท่าเรือได้ อย่างเร็วดึก หรือวันถัดไป

หากมองในแง่ผลประโยชน์ทั้งสองฝ่าย ให้ผู้ค้า ปรับราคาที่เค้ามีกำไร และปรับปรุงบริการให้สะดวกรวดเร็ว มีหัวจ่ายเยอะ ไม่ต้องรอนาน NGV. มีตลอด รถไม่เสียเวลา แบบนี้น่าจะ win win กว่าครับ

เนื้อ NGV จริงๆ อาจจะไม่แพงแต่มันบริหารจัดการยากครับ
noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
ขาย5นาทีหมด
เรทกระทู้
« ตอบ #17 เมื่อ: 10 ม.ค. 12, 14:56 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

ท่านได้ทราบมาว่าขาย 5 นาทีหมด ไปอยู่เศรษฐีกลุ่มใด ชาติใด และเงินค่าน้ำมันส่วนต่างนั้นเข้ากระเป๋าใคร ราคาขึ้นลงต้องดูจากราคาขายของสิงคโปร์ เพราะอะไร ทำไมเรากำหนดราคาขายเองไม่ได้ เหมือนเราเสียเอกราชทางเศรษฐกิจให้กับต่างชาติไปเช่นธนาคารที่มีอยู่หลายสิบธนาคารโดนต่างชาติซื้อกิจการไปหมด แล้วชาติไหนละที่ซื้อไป ไม่มีใครให้ความกระจ่างในเรื่องนี้ได้แล้วอนาคตเราจะเหลืออะไรไว้ให้ขายต่างชาติอีกละท่านพี่น้อง.....คุณอินเตอร์วินชั่น ผู้กล้าหาญ ช่วยบอกรายละเอียดหน่อย.....

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
add
เรทกระทู้
« ตอบ #18 เมื่อ: 10 ม.ค. 12, 15:45 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 
ท่านได้ทราบมาว่าขาย 5 นาทีหมด ไปอยู่เศรษฐีกลุ่มใด ชาติใด และเงินค่าน้ำมันส่วนต่างนั้นเข้ากระเป๋าใคร ราคาขึ้นลงต้องดูจากราคาขายของสิงคโปร์ เพราะอะไร ทำไมเรากำหนดราคาขายเองไม่ได้ เหมือนเราเสียเอกราชทางเศรษฐกิจให้กับต่างชาติไปเช่นธนาคารที่มีอยู่หลายสิบธนาคารโดนต่างชาติซื้อกิจการไปหมด แล้วชาติไหนละที่ซื้อไป ไม่มีใครให้ความกระจ่างในเรื่องนี้ได้แล้วอนาคตเราจะเหลืออะไรไว้ให้ขายต่างชาติอีกละท่านพี่น้อง.....คุณอินเตอร์วินชั่น ผู้กล้าหาญ ช่วยบอกรายละเอียดหน่อย.....

จ้ดให้ครับ.ตามคำขอ..

รายชื่อผู้ถือหุ้นใหญ่ 15 อันดับแรกของ ปตท. ณ วันที่ 7 กันยายน 2552

ลำดับที่รายชื่อจำนวนหุ้นร้อยละของจำนวนหุ้นทั้งหมด

1กระทรวงการคลัง1 51.49
2กองทุนรวม วายุภักษ์ หนึ่ง โดย บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน)217,900,000 7.70
3กองทุนรวม วายุภักษ์ หนึ่ง โดย บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน)217,900,000 7.70
4บริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด60,673,152 2.14
5STATE STREET BANK AND TRUST COMPANY57,302,341 2.02
6CHASE NOMINEES LIMITED 4250,289,800 1.78
7HSBC (SINGAPORE) NOMINEES PTE LTD.50,042,615 1.77
8NORTRUST NOMINEES LTD.46,881,245 1.66
9MELLON BANK, N.A. 26,854,435 .95
10สำนักงานประกันสังคม25,360,400 .90
11THE BANK OF NEW YORK (NOMINEES) LIMITED16,205,856 .57
12HSBC BANK PLC-CLIENTS GENERAL A/C14,476,800 .51
13กองทุน บำเหน็จบำนาญข้าราชการ14,072,350 .50
14GOVERNMENT OF SINGAPORE INVESTMENT CORPORATION C12,539,300 .44
15NORBAX INC.,1310,871,540 .38


http://www.pttplc.com/TH/investor-relations-shareholder-capital-data-shareholder-structure.aspx

ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ 10 อันดับแรก
PTTAR เป็นบริษัทในกลุ่ม ปตท. โดยมี บริษัท ปตท จำกัด (มหาชน) ถือหุ้นประมาณ 48.40 %*


โดยรายชื่อผู้ถือหุ้นรายใหญ่มีดังนี้


Rankรายชื่อจำนวนหุ้น% หุ้น
1บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)1,441,987,36848.40
2CHASE NOMINEES LIMITED 42189,240,002 6.35
3บริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด113,407,2983.81
4HSBC (SINGAPORE) NOMINEES PTE LTD 108,961,335 3.66
5STATE STREET BANK AND TRUST COMPANY35,828,514 1.20
6CHASE NOMINEES LIMITED 132,355,402 1.09
7NORBAX INC.,1321,830,3040.73
8กองทุน GPF EQ-TH16,516,0580.55
9GERLACH&CO-DIMENSIONAL EMERGING MARKETS VALUE FUND14,616,616 0.49
10กองทุน บำเหน็จบำนาญข้าราชการ โดย บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวมกสิกรไทย จำกัด 13,755,500 0.46


http://www.pttar.com/investor.asp?smenuid=26&shmenuid=23&nlevel=2



noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
ขอบคุณที่จัดให้
เรทกระทู้
« ตอบ #19 เมื่อ: 10 ม.ค. 12, 17:14 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

ขอขอบคุณ ท่านผู้กล้าหาญที่จัดให้ คุณคือบุคลากรชั้นมันสมองที่มีคุณภาพท่านหนึ่งในบอรด์การเมืองและยังมีอีกหลายท่าน เป็นตัวอย่างที่ดีในการนำเสนอและสนองต่อผู้ที่ติดตามผลงานคุณมาตลอด ไม่ต้องขัดแย้งกับใครมีแต่ความเป็นมิตรน้ำใจไมตรีที่ดีงามสำหรับทุกๆท่าน หากมีอะไรสงสัยจะถามท่านอีกครับ ดูจากรายชื่อบริษัทที่ถือหุ้นอยู่เป็นของบริษัทต่างชาติเข้าไปร่วม30%
ปีหนึ่งกำไรหลายแสนล้านบาท บริษัทเหล่านี้จะเป็นแบงค์เป็นทรัสจากสิงคโปร์เป็นส่วนใหญ่ ตาสีตาสาอย่างเราจะไปมีหุ้นได้อย่างไรเขาล๊อกการซื้อขายเสร็จภายใน 5 นาที ชาวบ้านก็ไปมุงซื้อกันที่ธนาคารกันทุกแห่งทั่วประเทศเพื่อแย่งคิวกันแต่เช้าตรู่ เพื่อจองซื้อกันเป็นหุ้นส่วน ปรากฎว่าไม่ได้กันทุกๆคน ก็เป็นด้วยประการฉะนี้นี่เอง ราคาขึ้นลงเพราะบริษัทจากสิงคโปร์ก็ถือหุ้นเกือบทั้งหมด ปีหนึ่งก็รับผลประโยชน์มากมายเลยทีเดียวเงินมันก็ไหลออกนอกส่วนหนึ่ง คุณผู้กล้าหาญก็คงไม่มีหุ้นไว้ดูเล่นๆจริงไหม คุณเสนอเป็นสาระความรู้ได้ดีมากครับ ท่านผู้กล้าหาญ....คราวต่อไปคงจะใช้บริการจากท่านอีกขอบคุณครับที่จัดให้....

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
add
เรทกระทู้
« ตอบ #20 เมื่อ: 10 ม.ค. 12, 19:27 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

ขอบคุณครับสำหรับข้อมูล q*039

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
add
เรทกระทู้
« ตอบ #21 เมื่อ: 10 ม.ค. 12, 21:46 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

คงมีแต่คนเสื้อแดง อย่างนะฮะ เรดเลิพ ที่เห็นดีเห็นงามกับการขึ้นราคา เสมือนหนึ่งตนเองเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ สงสัยสองคนนี้คงมีฐานะร่ำรวยขึ้นจากรัฐบาลชุดนี้ ส่วนประชาชนอย่างผมและคนอื่นๆแค่ค่าน้ำมันรถแต่ละเดือนก็อ่วมอรทัยแล้ว แถมค่าครองชีพมีแต่สูงขึ้น รัฐบาลทำห่าไรไม่ได้เลย ก่อนเข้ามาก็บอกว่าจะลดค่าครองชีพนิ แบบนี้มันดีแต่โม้ชัดๆ

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
add
เรทกระทู้
« ตอบ #22 เมื่อ: 10 ม.ค. 12, 22:22 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 
คงมีแต่คนเสื้อแดง อย่างนะฮะ เรดเลิพ ที่เห็นดีเห็นงามกับการขึ้นราคา เสมือนหนึ่งตนเองเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ สงสัยสองคนนี้คงมีฐานะร่ำรวยขึ้นจากรัฐบาลชุดนี้ ส่วนประชาชนอย่างผมและคนอื่นๆแค่ค่าน้ำมันรถแต่ละเดือนก็อ่วมอรทัยแล้ว แถมค่าครองชีพมีแต่สูงขึ้น รัฐบาลทำห่าไรไม่ได้เลย ก่อนเข้ามาก็บอกว่าจะลดค่าครองชีพนิ แบบนี้มันดีแต่โม้ชัดๆ

คุณkasa2009 ไม่รู้เหรอว่าหากไม่ยอมขึ้นราคา LPG และ NGV ผู้ใช้น้ำมันจนๆ อย่างผม หรือรวยแบบคุณนี่แหละที่จะต้องจ่ายเงินผ่านกองทุนน้ำมันไปอุดหนุนราคา LPG และ NGV. โดยเฉพาะ NGV. ส่วนใหญ่ใช้เพื่อการค้าทั้งนั้น แล้วจะมาขุดเลือดจากผู้ใช้มอเตอร์ไซด์ รถไถนา ไปอุดหนุนมันเป็นธรรมซะที่ไหนล่ะครับ
noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
add
เรทกระทู้
« ตอบ #23 เมื่อ: 11 ม.ค. 12, 01:39 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

เเรงได้ใจจริงกับหัวข้อกระทู้ มีเรื่องถามข้อ1คับ
ผมเคยได้ยินว่า ปตท ผูกขาดการขายngv เลยอ้างว่าไม่คุ้มถ้าจะขยายสาขา เเละปรับปรุงเรื่องการบริการ อันนี้พอมีข้อมูลไหมคับ

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
add
เรทกระทู้
« ตอบ #24 เมื่อ: 11 ม.ค. 12, 05:45 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 
เเรงได้ใจจริงกับหัวข้อกระทู้ มีเรื่องถามข้อ1คับ
ผมเคยได้ยินว่า ปตท ผูกขาดการขายngv เลยอ้างว่าไม่คุ้มถ้าจะขยายสาขา เเละปรับปรุงเรื่องการบริการ อันนี้พอมีข้อมูลไหมคับ


NGV มาจากอ่าวไทยส่วนใหญมี ปตท เป็นเจ้าของ บางส่วนนำเข้าจากประเทศพม่าดังนั้น ปตท ก็สามารถควบคุมตลาดได้ การขยายสาขา เเละปรับปรุงเรื่องการบริการ ผลตอบแทนน้อยซึ้งต่างจากการขายหน้าโรงงานการขยายสาขาก็เหมือนร้านโชห่วยผลกำไรได้จากการขายต่อลิตร.ซึ่งต่างจากการขายหน้าโรงงานที่ขายส่งทีละเป็นหมื่นเป็นแสนลิตรและไม่ต้องรับผิดชอบการบริการและมีค่าใช้จ่ายน้อยกว่า..เป้าหมายของนายทุนเขาต้องการส่งออกต่างประเทศมากกว่าครับเพราะเป็นราคาตลาดโลกการขายในประเทศราคาขึ้นอยู่กับรัฐคู่แข่งมากลงทุนสูงผลกำไรน้อย..ดังนั้นนายทุนเขาเลือกที่จะขายส่งมากกว่ามานั่งขายทีละลิตรครับ..


http://www.thammapiban.com/
v
v
v
แถลงการณ์ เครือข่ายประชาชน


ในปีงบดุลที่ผ่านมาแต่ละปี บมจ.ปตท. มีผลประกอบการ ได้กำไรปีละกว่า แสนล้านต่อเนื่องเพิ่มขึ้นทุกปี ส่วนใหญ่ผลกำไรมาจากการสำรวจและผลิต และขาย แก๊ส NGV และ LPG (อ้างอิงมาจาก งบดุล บมจ. ปตท. ตั้งแต่ พ.ศ. ๒๕๕๑​-๒๕๕๔ ) ดังนั้นการที่ ปตท.อ้างว่าขาดทุนจากการขาย แก๊ส NGV และ LPG จึงเป็นการโกหก หมกเม็ด ไร้จรรยาบรรณ และไม่เป็นธรรมกับผู้บริโภคทั้งยังส่งผลต่อราคาสินค้า ค่าขนส่ง ค่าโดยสารทุกชนิด และค่าไฟฟ้า ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ ของประเทศ ดังนั้น เครือข่ายประชาชน จึงขอแถลงการณ์ ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดังนี้


เครือข่ายประชาชน ขอคัดค้านการขึ้นราคา NGV และ LPG เพราะจากการ ตรวจสอบพบว่า ปตท.ไม่ได้ขาดทุนจริง และรัฐจะต้องควบคุม ปตท.มิให้ทำ การบิดเบือนกลไกทำให้เกิดการ ขาดแคลนพลังงานเพื่อการ ปรับขึ้น ราคาพลังงาน
คัดค้านการอนุญาต ขึ้นราคา ค่าบรรทุก และค่าโดยสาร หรือค่าขนส่ง มวลชน ทุกกรณี
ตั้งคณะกรรมการศึกษาโครงสร้างพลังงาน ทั้งระบบ จากภาคประชาชน เพื่อกำหนดราคา ค่าพลังงานและห้าม ปตท.ขึ้นราคา NGV LPG ระหว่างการศึกษา ตามหลักธรรมาภิบาล โดยมีเครือข่ายภาค ประชาชน เข้าร่วมเป็นคณะกรรมการ โดยสิทธิอันชอบธรรมตามรัฐธรรมนูญแห่ง ราชอาณาจักรไทย

จึงแถลงการณ์มาให้ทราบโดยทั่วกัน
สภาเครือข่ายการเมืองภาคพลเมือง
สภาเครือข่ายประชาชนอีสาน (สอส.) สภาประชาชน ๔ ภาค
เครือข่ายพลังงาน ๘ จังหวัด
เครือข่ายอนุรักษ์วิถีเกษตรกรรม
เครือข่ายคุ้มครองบางคล้า
คณะกรรมการพลังงานภาคประชาชน

๒๘ ธค. ๕๔
noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
add
เรทกระทู้
« ตอบ #25 เมื่อ: 11 ม.ค. 12, 06:28 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

เห็นที่ประชุมฯบอกจะให้ ngv ขึ้นราคาทุกเเดือนๆละ50สตางค์ ตลอดทุกเดือน ให้ได้ครบ 8 บาท จนถึงต้นปีหน้า แต่ 2 วันนี้ก็ผลักภาระให้ประชาชนโดยขึ้นราคาน้ำมันเบนซินอีก 50 สตางค์ไปเรียบร้อย ส่วนต่างที่เคยลดให้หลายบาทช่วงบริหารใหม่ๆ ตอนนี้ไม่เหลือส่วนต่างแล้วเช่นน้ำมันดีเซล ลดไป 3 บาท ให้ดีใจเล่น ขณะนี้ก็ค่อยๆขึ้นมาจบเต็ม 3 บาท คือ29.99 บาทต่อลิตร ส่วนต่างนั้นหมดไปบอกอนาคตจะต้องปล่อยให้ขึ้นไปอีก พลักภาระให้ประชาชนทำไม ขอถามท่านบ้างว่าใครได้กำไร ไม่สงสารชาวบ้านที่เพิ่งถูกน้ำท่วมกันมาเลยหรือ

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
add
เรทกระทู้
« ตอบ #26 เมื่อ: 11 ม.ค. 12, 17:53 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 
เห็นที่ประชุมฯบอกจะให้ ngv ขึ้นราคาทุกเเดือนๆละ50สตางค์ ตลอดทุกเดือน ให้ได้ครบ 8 บาท จนถึงต้นปีหน้า แต่ 2 วันนี้ก็ผลักภาระให้ประชาชนโดยขึ้นราคาน้ำมันเบนซินอีก 50 สตางค์ไปเรียบร้อย ส่วนต่างที่เคยลดให้หลายบาทช่วงบริหารใหม่ๆ ตอนนี้ไม่เหลือส่วนต่างแล้วเช่นน้ำมันดีเซล ลดไป 3 บาท ให้ดีใจเล่น ขณะนี้ก็ค่อยๆขึ้นมาจบเต็ม 3 บาท คือ29.99 บาทต่อลิตร ส่วนต่างนั้นหมดไปบอกอนาคตจะต้องปล่อยให้ขึ้นไปอีก พลักภาระให้ประชาชนทำไม ขอถามท่านบ้างว่าใครได้กำไร ไม่สงสารชาวบ้านที่เพิ่งถูกน้ำท่วมกันมาเลยหรือ



ช่วงนี้หมดโปรโมชั่น..สี่เดือนที่ต้องรีบถอนทุนพี่น้องประชาชนทุกท่านเตรียมทำใจได้ครับ..น้ำมันขึ้นราคา.แก๊สขึ้นราคา.จากนั้น รถโดยสารขึ้นราคา.แล้วก็จะเป็นค่าครองชีพทุกอย่าจะขึ้นตาม..ตอนนี้มีแต่ขึ้นครับไม่มีลง.นโยบายลดค่าครองชีพของรัฐบาลเป็นเพียงเทคนิคการหาเสียง ตอนนี้อำนาจอยู่ในมือนายทุนคนที่รำรวยคงไม่ต้องบอกว่าเป็นใคร..NGV ราคาปากหลุม มาเลเซีย 6 บาท พม่า 6.5บาท แต่ของ ปตท 8 บาท ประชาชนต้องหาความจริงเรื่องนี้ครับ..





noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
แย่ดีแต่เผา
เรทกระทู้
« ตอบ #27 เมื่อ: 11 ม.ค. 12, 21:01 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 
คุณไพร่ไฮโซช่วยแต่คนรวย ช่วยแต่ผู้ถือหุ้น ปตท ช่วยแต่เศรษฐีพี่ชาย เศรษฐีพี่สาวจริงๆ ในที่สุดปี 2555 คุณนายกไพร่ไฮโซ. ก็ผลักภาระหนี้สาธารณะที่พวกตันเจริญ กลุ่ม 16 ปิ่น จักกะพาท ฉกจนแบ๊งค์ล้มระนาว ปี 40 ..กลับมาให้ประชาชน .... มีแต่ทักษิณ.ที่ฉกข้อมูลวงในรู้ล่วงหน้าว่าชวลิตจะลดค่าเงินบาทที่รอดตัว .เอาแต่ธุรกิจของตัวเองรอดปี 40 .....ส่วน ชาวบ้านกระโดดตึกตาย ต้องไปเปิดท้ายขายของ......


.พี่ชายแหกตาคนอิสาน คนเหนือ คนเสื้อแดงว่าได้ใช้หนี้ IMF ปี 2540 เมื่อ 13 ปีที่แล้วเรียบร้อยแล้ว ...แท้ที่จริงเคยได้อำนาจเกือบ 6 ปี ดีแต่ใช้อำนาจคนจนอิสาน คนเหนือที่มีเงินเล่นหวย ฉกซุกหุ้นเข้ากระเป๋าธุรกิจการเมืองของครอบครัว ยิ่งรวยก็ยิ่งโกง ยิ่งรวยก็ยิ่งซุกหุ้น .....แต่ไม่ได้ใช้หนี้สาธารณะประเทศเลย....


จนปี 2555 มาโอนหนี้สาธารณะจากกระทรวงการคลังไปให้แบ๊งค์ชาติ ....พวกนักธุรกิจการเมืองผู้ถือหุ้น ปตท เอาบิ๊กแบ๊กกั้นน้ำไม่ให้โดนตึกธุรกิจการเมือง ปตท ของตัวเอง .เพราะเอาแต่ธุรกิจของตัวเองรอด ไม่ให้ธุรกิจที่ตัวเองถือหุ้นเดือดร้อน .....น้องสาวทักษิณ เป็นรัฐบาล ยิ่งขึ้นค่า เอ็นจีวี เพิ่มความทุกข์ทางเศรษฐกิจให้คนจน......


..ส่วนที่ขาดทุนมหาศาลอยู่แล้ว เช่น ขสมก รถเมย์ฟรี ๆ รถไฟฟรีๆ นักการเมืองมันปล่อยให้ขาดทุน


.สุดท้าย คนจนก็ต้องรับภาระหนี้สาธารณะ ที่นักธุรกิจการเมืองจอมฉก ผลักหนี้มาให้แบ๊งค์ชาติ และแบ๊งค์ชาติก็ผลักหนี้ต่อมาให้ธนาคารพาณิชย์ และธนาคารรัฐ ..ทุกวันนี้ ถึงธนาคารไทยเข็มแข็งหลังจากผ่านวิกฤติเศรษฐกิจต้มยำกุ้ง ....แต่ก็ต้องผลักหนี้ต่อมาให้คนจน ...มาเก็บเงินต่อกับลูกค้า ..ผู้.ฝาก ผู้ถอน เพื่อส่งเงินให้แบ๊งค์ชาติเอาไปจ่ายหนี้สาธารณะเงินต้นกองทุนฟื้นฟูปี 2540 ที่นางยิ่งลักษ์ผลักมาให้คนจน

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
add
เรทกระทู้
« ตอบ #28 เมื่อ: 11 ม.ค. 12, 22:23 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 
คงมีแต่คนเสื้อแดง อย่างนะฮะ เรดเลิพ ที่เห็นดีเห็นงามกับการขึ้นราคา เสมือนหนึ่งตนเองเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ สงสัยสองคนนี้คงมีฐานะร่ำรวยขึ้นจากรัฐบาลชุดนี้ ส่วนประชาชนอย่างผมและคนอื่นๆแค่ค่าน้ำมันรถแต่ละเดือนก็อ่วมอรทัยแล้ว แถมค่าครองชีพมีแต่สูงขึ้น รัฐบาลทำห่าไรไม่ได้เลย ก่อนเข้ามาก็บอกว่าจะลดค่าครองชีพนิ แบบนี้มันดีแต่โม้ชัดๆ


เผยต้นทุนก๊าซธรรมชาติปากหลุมถูกกว่าตลาดโลก 40-67%


ข้อมูลจากรายงานการพิจารณาศึกษาของคณะกรรมาธิการศึกษา ตรวจสอบเรื่องการทุจริต และเสริมสร้างธรรมาภิบาล วุฒิสภา มีตัวเลขที่ประชาชนไม่เคยรับรู้มาก่อนหลาย ๆ เรื่อง โดยข้อมูลที่น่าสนใจอย่างมากคือต้นทุนราคาก๊าซธรรมชาติที่อ่าวไทยทุก ๆ แหล่ง มีราคาถูกกว่าราคาในตลาดโลก 40-67% ซึ่งเป็นต้นทุนก๊าซธรรมชาติที่สมเหตุสมผลกับราคาจำหน่ายก๊าซ LPG และ NGV ในปัจจุบันอยู่แล้ว ดังนั้นจึงเป็นเรื่องที่ชวนสงสัยถึงข้ออ้างเรื่องการขาดทุนของธุรกิจก๊าซธรรมชาติในยานยนต์ว่าจริงๆแล้วขาดทุนจริงหรือไม่ หรือใครกันแน่ที่ขาดทุน
ยังมีข้อน่าสงสัยอีกประเด็นหนึ่งว่า ในเมื่อราคาก๊าซธรรมชาติที่ปากหลุมสะท้อนว่าต้นทุนราคา LPG และ NGV ในประเทศ มีราคาต่ำกว่าตลาดโลก แล้วการที่รัฐบาลต้องนำเงินจากกองทุนน้ำมันไปอุดหนุนราคา LPG และNGV ให้สูงเท่าราคาตลาดโลกมาหลายยุคหลายสมัยตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมานั้น เป็นเรื่องที่เหมาะสมหรือไม่ ? ผู้ที่รับผลประโยชน์ตรงนั้นไปอย่างเต็ม ๆยต้องคืนเงินสู่แผ่นดิน และประชาชนหรือไม่
การที่มีนักวิชาการทางด้านพลังงานออกมาเรียกร้องให้มีการลอยตัวราคาก๊าซธรรมชาติที่ปากหลุมนั้นเป็นการยืนยันได้เป็นอย่างดีถึงต้นทุนก๊าซธรรมชาติที่แท้จริงในช่วงที่ผ่านมา เมื่อมีคนรู้ทัน นักวิชาการฯ กลับออกมาเรียกร้องให้มีการลอยตัวราคาก๊าซ ณ ปากหลุม ซึ่งจะทำให้ต้นทุนราคาก๊าซสูงขึ้น ในที่สุดจะนำไปสู่การขึ้นราคาก๊าซ LPG และ NGV อันจะนำมาซึ่งความเดือดร้อนของประชาชนทุกกลุ่ม ทั้งภาคครัวเรือนและภาคขนส่ง จึงไม่น่าจะเป็นวิถีคิดของนักวิชาการที่เป็นปากเสียงของประชาชนแต่อย่างใด
ขณะเดียวกัน การเร่งลอยตัวราคา LPG ในสถานการณ์ที่ประเทศกำลังเผชิญปัญหาน้ำท่วม และปัญหาค่าครองชีพที่ปรับตัวสูงขึ้นจากนโยบายค่าแรง 300 บาทและ ปรับเงินเดือนผู้จบปริญญาตรีให้เป็น 15,000 บาท โดยรัฐบาลสามารถบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนได้อย่างเท่าเทียมกันด้วยการไม่ลอยตัวราคาก๊าซธรรมชาติ ทั้งแอลพีจีและเอ็นจีวี เพราะการควบคุมค่าใช้จ่ายด้านเชื้อเพลิงนั้น เป็นสิ่งที่สามารถช่วยเหลือคนไทยทุกกลุ่มได้โดยไม่ต้องใช้เงินของรัฐบาล อีกทั้งยังเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาการแบ่งแยกชนชั้นและฐานะ อันอาจจะเกิดขึ้นได้ถ้าหากใช้มาตรการแจกคูปอง ซึ่งเป็นชนวนให้ปัญหาการแตกแยกของคนไทยลุกลามบานปลายจนยากจะเยียวยาแก้ไข


http://www.gasforcars.net/news_detail.php?n_id=1695



noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
add
เรทกระทู้
« ตอบ #29 เมื่อ: 12 ม.ค. 12, 11:18 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

ค่าครองชีพที่อังกฤษสูงมากๆๆ มากกว่าอเมริกาอีก
นะฮะรู้อะไรบ้าง...

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
add
เรทกระทู้
« ตอบ #30 เมื่อ: 12 ม.ค. 12, 23:14 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

ขอบคุณ จขกท ที่ตอบข้อข้องใจ อีกไม่นานเกินรอ ผมว่าได้กินข้าวจานละ50บาท พิเศษ60บาท เเน่นอน รอให้เรื่องเงินเดือนทำได้เต้มระบบก่อน เเทนที่จะไปบีบคนรวยช่วยคนจน กลับบีบคนจนช่วยคนรวย สบายละประเทศไทย

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
zole
เรทกระทู้
« ตอบ #31 เมื่อ: 16 ม.ค. 12, 19:42 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

เห็นหรือยังว่า นักการเมืองหลอกลวงประชาชนได้เนียนจริงๆ
หลอกให้ไปตายเพื่อให้พวกเขาได้อำนาจก็ได้
หลอกให้เลือกตั้งราคาสินค้าจะถูกกว่ารัฐบาลที่แล้วก็ได้

คนจนสิจะอยู่กันลำบากมากขึ้น อีกไม่นานคนจนที่ทนไม่ไหว คงเอาระเบิดไปปาบ้านนายกฯ โทษฐานหลอกให้เลือกแล้วลำบากต่อ

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
add
เรทกระทู้
« ตอบ #32 เมื่อ: 16 ม.ค. 12, 22:43 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

ไม่รู้จะสงสารตัวเองหรือสงสารพวกรากหญ้าดี...
นโยบายก่อนหาเสียง เหมือนมาจากสวรรค์ ...
แต่ตอนนี้ ทั้งเราและเค้า กำลังพากันตกจากสวรรค์ ...
วันหนึ่ง คงได้ทานข้าวราดแกงจานละ 100 ....
q*031

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:  ทรัพย์สิน 

หน้า: 1

 
ตอบ

ชื่อ:
 
แชร์ไป Facebook ด้วย
กระทู้:
ไอค่อนข้อความ:
ตัวหนาตัวเอียงตัวขีดเส้นใต้จัดย่อหน้าชิดซ้ายจัดย่อหน้ากึ่งกลางจัดย่อหน้าชิดขวา

 
 

[เพิ่มเติม]
แนบไฟล์: (แนบไฟล์เพิ่ม)
ไฟล์ที่อนุญาต: gif, jpg, jpeg
ขนาดไฟล์สูงสุดที่อนุญาต 20000000 KB : 4 ไฟล์ : ต่อความคิดเห็น
ติดตามกระทู้นี้ : ส่งไปที่อีเมลของสมาชิกสนุก
  ส่งไปที่
พิมพ์อักษรตามภาพ:
พิมพ์ตัวอักษรที่แสดงในรูปภาพ
 
:  
  • ข้อความของคุณอยู่ในกระทู้นี้
  • กระทู้ที่ถูกใส่กุญแจ
  • กระทู้ปกติ
  • กระทู้ติดหมุด
  • กระทู้น่าสนใจ (มีผู้ตอบมากกว่า 15 ครั้ง)
  • โพลล์
  • กระทู้น่าสนใจมาก (มีผู้ตอบมากกว่า 25 ครั้ง)
         
หากท่านพบเห็นการกระทำ หรือพฤติกรรมใด ๆ ที่ไม่เหมาะสม ซึ่งอาจก่อให้เกิดความเสื่อมเสียแก่สถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ รวมถึง การใช้ข้อความที่ไม่สุภาพ พฤติกรรมการหลอกลวง การเผยแพร่ภาพลามก อนาจาร หรือการกระทำใด ๆ ที่อาจก่อให้ผู้อื่น ได้รับความเสียหาย กรุณาแจ้งมาที่ แนะนำติชม