หน้า: 1

ชนิดกระทู้ ผู้เขียน กระทู้: พระราชกรณียกิจ  (อ่าน 37 ครั้ง)
add
เรทกระทู้
« เมื่อ: 23 ส.ค. 11, 09:37 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
Send E-mail

แบ่งปันกระทู้นี้ให้เพื่อนคุณอ่านไหมคะ?

ปิดปิด
 

แม้ว่าบทบาทของพระมหากษัตริย์หลังการเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ.2475

จะลดลงเป็นพระมหากษัตริย์ภายใต้รัฐธรรมนูญ พระองค์ยังคงพยายามปฏิบัติพระราชภารกิจเพื่อก่อให้เกิดประโยชน์ในด้านต่าง ๆ

จะเห็นได้จากการที่พระองค์ไปประทับแรม ณ พระตำหนักตามภูมิภาคต่าง ๆ เพื่อที่จะทรงมีโอกาสได้รับทราบถึงทุกข์สุข

และสภาพความเป็นอยู่ที่แท้จริงของราษฎร ซึ่งทำให้พระองค์ทรงพบว่าประชาชนชาวไทยส่วนมากมีปัญหาในเรื่องฐานะความเป็นอยู่

ซึ่งจะต้องแก้ไขไปพร้อม ๆ กัน ไม่ว่าจะเป็นด้านการพัฒนาแหล่งน้ำและชลประทาน ด้านการจัดการและพัฒนาที่ดิน ด้านเกษตรกรรม

ด้านการศึกษาวิจัย ด้านการแพทย์และการสาธารณสุข ด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ ด้านอาชีพเสริมและอื่น ๆ

ด้วยเหตุนี้โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริและโครงการตามพระราชประสงค์จึงได้เกิดขึ้นอย่างมากมายกว่า 2,000 โครงการ

ซึ่งล้วนแล้วแต่เพื่อความเป็นอยู่ของชีวิตที่ดีขึ้นของราษฎร์ทั้งสิ้น



ในด้านการศึกษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระราชดำริพร้อมกับได้พระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์

เป็นทุนริเริ่มในการจัดสร้างโรงเรียนและวัดทำโครงการที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา อาทิเช่น โรงเรียนตามวัดต่าง ๆ

โรงเรียนเจ้าพ่อหลวงอุปถัมภ์ โรงเรียนร่มเกล้า โรงเรียนราชประชาสมาสัย กองทุนนวฤกษ์ มูลนิธิอานันทมหิดล

ศาลารวมใจ โครงการพระดาบส โครงการสารานุกรมไทย และอื่น ๆ


ด้านขนบธรรมเนียมประเพณี ทรงฟื้นฟูสืบทอดประเพณีหลายอย่างเพื่อเป็นขวัญ เช่น

พระราชพิธีจรดพระนั่งคัลแรกนาขวัญ พระราชพิธีถือน้ำพระพิพัฒน์สัตยา เป็นต้น


ด้านศาสนา ทรงออกผนวชตามพระราชประเพณี เมื่อพุทธศักราช 2495 ทรงอุปถัมภ์การทำนุบำรุงศาสนาทุกด้าน

เช่น การสร้างวัด สร้างพระพุทธรูป ประกอบพิธีทางศาสนา เช่น การทอดกฐิน ผ้าป่า และการบำเพ็ญการกุศลต่าง ๆ

นอกจากนี้ยังทรงเป็นองค์อุปถัมภ์ทุก ๆ ศาสนาที่ประชาชนนับถือ


นับตั้งแต่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชเสด็จขึ้นครองสิริราชสมบัติเป็นพระมหากษัตริย์พระองค์ที่ 9

แห่งพระบรมราชจักรีวงศ์ เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน พุทธศักราช 2489 พระองค์ทรงดำรงฐานะเป็นพระประมุขของชาติ

ที่ทรงทุ่มเทพระวรกาย พระสติปัญญาความสามารถและพระวิริยะอุตสาหะ ในการปฎิบัติพระราชกรณียกิจน้อยใหญ่นานับปการ

เพื่อนำประโยชน์และความเจริญอย่างยั่งยืนมาสู่ประชาชนชาวไทยและความมั่นคงเป็นปึกแผ่นของประเทศชาติมาโดยตลอด


ในปีพุทธศักราช 2549 เป็นปีมหามงคลอันประเสริฐที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติครบ 60 ปี

พสกนิกรทุกหมู่เหล่าต่างปลื้มปิติโสมนัสเปี่ยมด้วยความจงรักภักดี สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเทิดทูนไว้เหนือเกล้าฯ

จึงได้ขอพระราชทานจัดงานฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี ขึ้นตามโบราณราชประเพณี ด้วยความกตัญญูกตเวทิตา

และนำความกราบบังคมทูลพระกรุณาขอพระราชทานชื่อการจัดงานและชื่อพระราชพีธี ซึ่งได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ

พระราชทานชื่อการจัดงานนี้ว่า “การจัดงานฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี” ชื่อพระราชพิธีว่า

“ พระราชพิธีฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี ” ชื่อการจัดงานและชื่อพระราชพิธีภาษาอังกฤษว่า

“ The Sixtieth Anniversary Celebrations of His Majesty’s Accession to the Throne ”
q*062q*066q*062q*066

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า

กระทู้ฮอตในรอบ 7 วัน

Tags:  พระราชกรณียกิจ 

หน้า: 1

 
ตอบ

ชื่อ:
 
แชร์ไป Facebook ด้วย
กระทู้:
ไอค่อนข้อความ:
ตัวหนาตัวเอียงตัวขีดเส้นใต้จัดย่อหน้าชิดซ้ายจัดย่อหน้ากึ่งกลางจัดย่อหน้าชิดขวา

 
 

[เพิ่มเติม]
แนบไฟล์: (แนบไฟล์เพิ่ม)
ไฟล์ที่อนุญาต: gif, jpg, jpeg
ขนาดไฟล์สูงสุดที่อนุญาต 20000000 KB : 4 ไฟล์ : ต่อความคิดเห็น
ติดตามกระทู้นี้ : ส่งไปที่อีเมลของสมาชิกสนุก
  ส่งไปที่
พิมพ์อักษรตามภาพ:
พิมพ์ตัวอักษรที่แสดงในรูปภาพ
 
:  
  • ข้อความของคุณอยู่ในกระทู้นี้
  • กระทู้ที่ถูกใส่กุญแจ
  • กระทู้ปกติ
  • กระทู้ติดหมุด
  • กระทู้น่าสนใจ (มีผู้ตอบมากกว่า 15 ครั้ง)
  • โพลล์
  • กระทู้น่าสนใจมาก (มีผู้ตอบมากกว่า 25 ครั้ง)
         
หากท่านพบเห็นการกระทำ หรือพฤติกรรมใด ๆ ที่ไม่เหมาะสม ซึ่งอาจก่อให้เกิดความเสื่อมเสียแก่สถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ รวมถึง การใช้ข้อความที่ไม่สุภาพ พฤติกรรมการหลอกลวง การเผยแพร่ภาพลามก อนาจาร หรือการกระทำใด ๆ ที่อาจก่อให้ผู้อื่น ได้รับความเสียหาย กรุณาแจ้งมาที่ แนะนำติชม