เหลียวดูค่าตอบแทน"ซีอีโอ"รับเป็นล้าน?

[เมื่อ:]

โวยขึ้นค่าแรง 300 บาท ปริญญาตรี 15,000 บาท แล้วเหลียวดูค่าตอบแทน"ซีอีโอ"รับเป็นล้าน ?


ไม่ว่าค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาท/คน/ วัน และเงินเดือนผู้จบปริญญาตรี 15,000 บาท ของพรรคเพื่อไทย จะเป็นจริงวันไหน


เงินเดือนของผู้บริหาร หรือ ซีอีโอ. ก็พุ่งห่างออกไป หลายเท่าตัว นักเศรษฐศาสตร์การเมืองเคยชี้ว่า ช่องว่างของรายได้ในสังคมไทย ห่างกันถึง 14-15 เท่าตัวหรือมากกว่านั้น ?

เอาเข้าจริง ซีอีโอ ค่าตอบแทนสูงลิบ เหล่านี้เองคือ ผู้กำหนด อัตราค่าจ้างขั้นต่ำ 300 บาท/คน/วัน หรือเงินเดือน 15,000 บาท สำหรับคนจบปริญญาตรี

ลองมาดู เงินเดือนและค่าตอบแทนของผู้บริหาร ประเทศไทยดูบ้างว่า สูงเพียงใด


จากการผลสำรวจข้อมูลจากบริษัท จดทะเบียนในกลุ่มหุ้น SET 50 ใน ปี 2547 ระบุว่า นับเฉลี่ย/คน/ปี แยกรายอุตสาหกรรมพบว่า บริษัท จดทะเบียนทั้งตลาดจ่ายเงินค่าตอบแทนผู้บริหารเฉลี่ย/คน/ปีละ 3.05 ล้านบาท เป็นค่าตอบแทนที่อยู่ในรูปของเงินเดือน, เงินโบนัส และเงินสมทบสำรองเลี้ยงชีพ


โดยกลุ่มธุรกิจธนาคารพาณิชย์ เป็นอุตสาหกรรมที่จ่ายค่าตอบแทนให้แก่ ผู้บริหารสูงสุด เมื่อเทียบกับอุตสาหกรรมทุกกลุ่มในตลาดหุ้น หรือคิดเป็นอัตรา ค่าจ้างเฉลี่ย/คน/ปีละ 7.68 ล้านบาท

ถัดมาเป็นกลุ่มธุรกิจในกลุ่มพาณิชย์ อาทิ ซีพี-7-11, บิ๊กซี, โฮมโปร, แม็คโคร และโรบินสัน ซึ่งถือเป็นอีกกลุ่มที่จ่ายค่าจ้างให้แก่ผู้บริหารระดับสูง เฉลี่ยคนละ 5.62 ล้านบาท

ขณะที่ส่วนของค่าตอบแทนในกลุ่มเงินทุนหลักทรัพย์ ถือเป็นกลุ่มที่มีช่วง ค่าจ้างกว้างที่สุด โดยมีค่าตอบแทนเฉลี่ยต่อคนต่ำสุดที่ 1.87 แสนบาท และสูงสุดอยู่ที่ 35.81 ล้านบาท


โดยในหมวดคลังสินค้า และไซโล มีการจ่ายค่าตอบแทนผู้บริหารโดยเฉลี่ย/คน/ปี น้อยที่สุด คือประมาณ 9.75 แสนบาท


แต่กระนั้น ถ้ามาโฟกัสเฉพาะกลุ่มธนาคารพาณิชย์ ในปี 2548 ปรากฏว่า กลุ่มผู้บริหารธนาคารพาณิชย์ รับค่าตอบแทนเฉลี่ยจากธนาคารพาณิชย์ทั้งหมด 14 แห่ง ประมาณคนละ 9.31 ล้านบาท/ปี เพิ่มขึ้นจากปี 2547 ที่ผลตอบแทนเฉลี่ยอยู่ที่ 7.68 ล้านบาท/คน/ปี


ธนาคารไทยพาณิชย์ มีค่าตอบแทนเฉลี่ยสูงสุด เพราะจ่ายผลตอบแทน ผู้บริหาร 6 ราย รวม 94.33 ล้านบาท คิดเฉลี่ยที่อัตรา 15.72 ล้านบาท/คน/ปี


ตามมาด้วย ธนาคารกสิกรไทย จ่ายค่าตอบแทนให้ผู้บริหาร 9 ราย คิดรวม 139.41 ล้านบาท คิดเฉลี่ยที่อัตรา 15.49 ล้านบาท/คน/ปี


ขณะที่ ธนาคารทิสโก้ จ่ายค่าตอบแทนให้ผู้บริหาร 11 ราย รวมทั้งสิ้น 169.67 ล้านบาท หรือเฉลี่ยประมาณ 15.42 ล้านบาท/คน/ปี


ส่วน ธนาคารกรุงไทย จ่ายค่าตอบแทนให้ผู้บริหาร 17 ราย รวมทั้งสิ้น 178.21 ล้านบาท หรือเฉลี่ยประมาณ 10.49 ล้านบาท/คน/ปี


นอกจากนั้นผลสำรวจของกองวิจัยตลาดแรงงาน กรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน ในปี 2552 ยังเปิดเผยถึง 8 อาชีพที่มีเงินเดือนเกิน 1 แสนบาทด้วย


โดยอาชีพที่มีรายได้เกิน 1 แสนบาท/เดือน ได้แก่ อาชีพนักบิน 2.41 แสนบาท, วิศวกรเหมืองแร่ และนักโลหะการ 2.35 แสนบาท, ผู้จัดการฝ่ายโฆษณา และประชาสัมพันธ์ 1.53 แสนบาท, กรรมการ และผู้บริหารระดับสูง 1.38 แสนบาท, ผู้พิพากษา 1.21 แสนบาท, สถาปนิก 1.17 แสนบาท, ผู้บริหารองค์การนายจ้าง-ลูกจ้าง 1.06 แสนบาท และวิศวกรเคมี 1.05 แสนบาท


ซึ่งเป็นที่น่าสังเกตว่าอาชีพผู้จัดการฝ่ายโฆษณา และประชาสัมพันธ์ กลับเป็นอาชีพที่มีรายได้สูงกว่ากรรมการ และผู้บริหารระดับสูง ทั้ง ๆ ที่ผู้จัดการฝ่ายโฆษณา และประชา สัมพันธ์มีกำลังคนประมาณ 3,700 คน ส่วนกรรมการ และผู้บริหารระดับสูงมีถึง 1.6 หมื่นคน


นอกจากนั้นผลสำรวจของกองวิจัยตลาดแรงงาน ยังแยกย่อยลงไปในรายละเอียดเกี่ยวกับรายได้ในช่วง 60,000-100,000 บาท มี 12 อาชีพ ในจำนวนนี้อาชีพผู้จัดการฝ่ายจัดหา และจำหน่ายสินค้ามีระดับรายได้สูงสุดในบรรดาอาชีพระดับผู้จัดการด้วยกัน และพบว่าอาชีพนักคณิตศาสตร์มีรายได้สูงกว่าแพทย์


โดยผู้จัดการฝ่ายจัดหา และจำหน่ายสินค้ามีรายได้ 8.5 หมื่นบาท,นักคณิตศาสตร์ 7.3 หมื่นบาท, ผู้จัดการฝ่ายผลิต และปฏิบัติการด้านการบริการทางธุรกิจ 7 หมื่นบาท, แพทย์ 6.9 หมื่นบาท, ผู้จัดการฝ่ายผลิต และปฏิบัติการด้านผลิต 6.7 หมื่นบาท, ผู้จัดการทั่วไปด้านการผลิต 6.4 หมื่นบาท


ผู้จัดการฝ่ายวิจัย และพัฒนา 6.4 หมื่นบาท, ผู้จัดการทั่วไปด้านการเกษตร 6.3 หมื่นบาท, ผู้จัดการทั่วไปด้านการก่อสร้าง 6.2 หมื่นบาท และข้าราชการอาวุโส 6.2 หมื่นบาท


ถามว่าตัวเลขเหล่านี้ส่งผลอย่างไร ต่อการบริหารประเทศของกระทรวงแรงงาน กระทรวงการคลัง หรือรัฐบาลใหม่ ?
คำตอบคืออาจไม่ส่งผลเท่าใดนัก


แต่ผลสำรวจตรงนี้ อาจเป็นคำถามที่ต้องการคำตอบที่ทำให้ทุกกระทรวงที่เกี่ยวข้อง คงต้องไปคิดว่า การขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาท/คน/วัน และการให้เงินเดือนปริญญาตรี 15,000 บาท ในสภาพค่าครองชีพปัจจุบัน
ไม่ได้มากหรือน้อยเกินไปเลย


ตรงข้ามอาจดูน้อยด้วยซ้ำ และดูยิ่งน้อยเข้าไปใหญ่เมื่อเทียบกับเงินเดือนของซีอีโอ และอีกหลายอาชีพท็อปฮิตที่ต่างรับเงินเดือนกันอู้ฟู่


แต่สำหรับชนชั้นแรงงาน และพนักงานใหม่ในบัญชีจ้างของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ทำไมผู้ประกอบการหลายราย จึงต่างโอดครวญว่าอาจทำให้ต้นทุนประกอบการเพิ่มมากขึ้น

จนทำให้เขาอาจจะต้องเลิกจ้างแรงงานไทย โดยหันไปจ้างแรงงานนอกระบบ

ซึ่งไม่เป็นธรรมเลยจริง ๆ !

( เรื่อง ประชาชาติธุรกิจ )

[ตอบ #1 เมื่อ:]

จริงครับ พวกผู้บริหารเงินเดือนสูงมาก

ยิ่งเจ้าของบริษัทใหญ่ยิ่งรวยมหาศาล

นั่นเพราะกดค่าแรงคนงาน เพื่อความรำรวยมากมายของตนเอง

แต่ทำอย่างไรดีล่ะครับ พวกนี้จะเห็นใจคนจนมากขึ้น

เพราะถ้าเขาขึ้นค่าแรงให้คนงาน เขาก็ผลักภาระค่าแรงไปที่ราคาสินค้าอยู่ดี สุดท้ายคนจนก็ซวยเหมือนเดิม

คนที่จะเห็นใจคนจนอย่างแท้จริง ต้องไม่ใช่คนรวยที่รวยมาจากการขูดรีดกำไรจากประชาชนจากสัมปทานที่ได้มาจากรัฐ จนรวยเป็นแสนๆล้านในเวลาไม่กี่ปี

คนที่จะเห็นใจคนจนจริงๆ ต้องไม่หาทางเลี่ยงภาษี

ถ้าคนรวยมหาศาล จะมาอ้างว่าเห็นใจคนจน มันฟังยาก ฟังไม่ค่อยขึ้น

เพราะพฤติกรรมตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันของบางคน ก็ร่ำรวยสะสมที่ดินมากมายมหาศาล การสะสมที่ดินของเศรษฐีทำให้ที่ดินยิ่งแพงขึ้น เพราะเหลือที่ดินให้คนจนน้อยลง

คนที่บอกว่าเห็นใจคนจน อยากช่วยคนจน สุดท้ายเขาก็คือนายทุนที่กอบโกยความร่ำรวยมหาศาลมาจากการขูดรีดคนจนเช่นกันครับ

[ตอบ #2 เมื่อ:]

อย่าลืมว่าคนพวกนี้รับผิดชอบสูงมาก ถ้าผลประกอบหรือบริหารงานผิดพลาด เช่น ธนาคารต่างๆ ผลคือ Bank Run หลังจากนั้น คือ ล้มทั้งระบบ และระบบเศรษฐกิจล่ม

คนพวกนี้อาจจะไม่ดูทำงานแบกแฟ้มหนาๆ ทำงานหนัก แต่คนพวกนี้แทบไม่ได้หยุดคิดเรื่องงานเลยนะ ในขณะที่กลุ่มคนค่าแรงขั้นต่ำ เสร็จงาน กลับบ้าน นอน พรุ่งนี้ค่อยทำต่อ

อย่าเปรียบเทียบกับ เปรียบไม่ได้ ไม่งั้นคนกลุ่มแรกไม่ต้องกดค่าแรงๆต่ำ เพื่อลด Space หรอกหรอ?

จะคลั่งอะไรก็คลั่งไป แต่ดูสภาพความเป็นจริง ไม่ใช่เห็นคนจน ก็ต้องจนมันทั้งประเทศ

นี่ไม่ใช่ประชาธิปไตย นี่มันคอมมิวนิสต์ชัดๆ

[ตอบ #3 เมื่อ:]

มันคนละเรื่องกัน ถ้าเล่นประเด็น ปญอ. แบบนี้ ก็อย่ามองแค่เมืองไทย ประเทศอื่นก็เป็นกันหมด..

[ตอบ #4 เมื่อ:]

ไม่ทราบว่าสติปัญญากับความสามารถเท่ากับพวกผู้บริหารรึเปล่าล่ะ ถึงได้ออกมาพูดแบบนี้ ถ้าคุณมีความสามารถจริงคุณก็มีสิทธิ์ที่จะได้ค่าตอบแทนเช่นนั้นเหมือนกัน

[ตอบ #5 เมื่อ:]

ในบริษัทเงินเดือนหัวหน้าจะห่างกับลูกน้องมากโดยเฉพาะผู้บริหารหากลดของคนพวกนี้ลงมาแล้วมาเพิ่มให้แรงงานระดับล่างบ้างก็คงจะดี แต่ในความเป็นจริงเป็นไปได้มั้ยต้องถามเจ้าของบริษัท นี่คือความเลื่อมล้ำของสังคม คนรวยคือพวกใช้สมอง คนจนคือพวกใช้แรงงาน

[ตอบ #6 เมื่อ:]

แล้วเอาอะไรมาวัดหละว่าคนที่เป็นลูกจ้าง
ไม่มีความสามารถเท่าพวกซีอีโอ
ซีอีโอหลายคนก็ใช้พวกเลขาและทีมงานหาข้อมูล
ไม่ได้คิดเอง
แต่โอกาสต่างหากที่แรงงานขาด
ซีอีโอก็ไม่ได้เก่งทุกคนหรอกนะ
ที่สำประเด็นคือไม่ได้หมายความว่าให้ขึ้นค่าแรงให้เท่าซีอีโอ
แต่อัตราค่าแรงควรมีความเหมาะสม
ไม่ใช่ต่างกันราวฟ้ากับเหว
คำว่าขาดทุนถ้าขึ้นค่าแรงมันไม่มีหรอก
มีแต่จะเอากำไรมากหรือน้อยต่างหาก

[ตอบ #7 เมื่อ:]

เห็นด้วยกับ จขกท. ....รายได้สูงจริงๆ

อยากมีงั้นบ้างก้อต้องมีประสบการณ์ หรือ ทำธุรกิจของตัวเอง ...แต่...คงไม่เหมือนยุคเสื่อผืนหมอนใบล่ะ...เพราะนี่มันยุคดิจิตัล

[ตอบ #8 เมื่อ:]

ช่องว่าง ยังไงก็ต้องมี โดยธรรมชาติ ห่างกันแล้วยังไง การพูดว่าห่างกันมากโดยไม่ดูเหตุผลประกอบ มันก็แค่คนที่อิจฉา ทำไม่ได้แบบเขาพูดกัน

ค่าแรง 300 หรือ เงินเดือน 15,000 ทำได้ ในบางที่บางโอกาส แต่ทำทั้งระบบทีเดียวพร้อมกันก็โกลาหลวุ่นวาย

การเปรียบเทียบ กับคนที่มีมากกว่าก็ไม่ใช่ว่าไม่ดีซะทีเดียว แต่เราต้องดูเหุตประกอบ การไล่ระดับชั้นเงินเดือนขึ้นไปเรื่อยๆ ในองค์การใหญ่มากๆ
การเสี่ยงต่อคดีความ

เรามาเปรียบเทียบกับระดับที่พอกัน ปริญญาตรี ควรให้เงินเดือนเริ่มที่ 15,000 หรือไม่ ผมตอบว่าถ้าได้ก็ดี แต่ต้องดูเหตุผล

การให้เงินเดือนปริญญาตรี จบใหม่ 15,000 แล้วคนเก่าคนอื่นล่ะ แล้วคนจบปีที่แล้วล่ะ อย่างนี้คุณถามหาความเท่าเทียมให้เขาหรือเปล่า แล้วยังมีคนที่ไม่จบแต่ทำงานมานาน แล้วมีประสบการณ์มากกว่าคนจบเอกล่ะ

ปัญหาเป็นปัญหาทั้งระบบ มากมากกกกกกก

ปัจจุบัน เอกชน เงินเดือนสูงกว่ารัฐ คนเก่งหน่อยก็ไปเอกชนหมด ใครจะ
ไปรับใช้ประชาชนล่ะ คนที่เหลือ เหรอ ใครจะไปเป็นครูล่ะ

เมื่อรายได้สูง ค่าครองชีพจะสูงตาม ดังนั้น รายได้ของคนอื่นที่ไม่จบอะไร
หรือ เกษตรกร พ่อค้าแม่ขาย ก็ควรสูงตามไปด้วย จขกท คิดไว้ไหมว่าจะทำอย่างไร บริษัทเล็กล่ะ ร้านเล็กๆ ล่ะ

ปัญหามันอยู่ที่นักการเมืองทุกพรรค เอาแต่ใช้นโยบายซื้อเสียง ประมูลประเทศ ใครให้มากกว่ากัน ซ้ำยังมีหน้ามาใช้คำพูดว่า "ทันที" โดยไม่มีความรับชอบ ต่างหาก

[ตอบ #9 เมื่อ:]

ถ้าอยากได้เงินเดือนเท่าตำแหน่ง ซีอีโอ ถามว่าคุณมีความสามารถ
มากพอเป็นที่ต้องการของตลาดหรือไม่
คนเราอาจจะเรียนจบวุฒิเท่ากัน เหมือนกัน แต่เงินเดือน ค่าตอบแทน
ไม่เท่ากันจ้า อันนี้ขึ้นอยู่ที่กึ้นของแต่ละคน
ให้เรานั่งตำแหน่ง ซีอีโอ เราก็ไม่รับ ไม่ชอบ ไม่อยากเป็นลูกน้องของนายทุน ที่สำคัญความสามารถไม่ถึง
ขอมีรายได้พอมีพอกินก็พอ ไม่เครียด ไม่เหนื่อยกายและใจด้วย

[ตอบ #10 เมื่อ:]

พนักงานตาดำๆ อย่างเราชาตินี้ก็ไม่มีวันซื้อบ้านได้ เพราะบ้านหนึ่งหลังราคาแพงมาก เราทำงานกับเขาจนเราเกษียณเราก็ซื้อบ้านไม่ได้ ในขณะที่เจ้าของกิจการมีบ้านหลังหนึ่งราคาเป็นร้อยๆ ล้าน กดขี่แรงงานสุดๆ เดือนๆ หนึ่งเราชักหน้าแทบไม่ถึงหลัง เขากินมื้อหนึ่งจ่ายมากกว่าเงินเดือนเราทั้งเดือนใจร้ายมากทำไปได้

[ตอบ #11 เมื่อ:]

คนที่ทำงานบริหาร CEO ระดับสูงๆ ก็ต้องเริ่มจากระดับล่างๆ ก่อนทั้งนั้น ถ้าไม่ใช่ลูกหลานเจ้าของกิจการ ต้องมีความสามารถ ใช้สมองและสองมือ เจ้าของบริษัทมองเห็นศักยภาพว่าบริหารบริษัทเค้าให้เจริญก้าวหน้าไปได้ดี (ไม่ใช่อยู่ๆ จ้างใครก็ได้มาบริหารกิจการ) ต้องสะสมประสบการณ์ ไม่ใช่ได้มาฟรีๆ หรือปะท้วงเอา
ถ้าอยากได้เงินดีๆ ก็มองดูตลาดว่าเค้าต้องการแรงงานด้านไหน เลือกเรียนสายนั้นและตัวเองต้องมีความสนใจเป็นทุนเดิมด้วย (ไม่ใช่เรียนตามความนิยม) ไม่มีทักษะฝีมือด้านไหนๆ เลยก็จะได้แต่ค่าแรงขั้นต่ำที่จะจ้างใครก็ได้ ต่างด้าวยิ่งถูกกว่าด้วย

เอาแต่ตัวเลขมาเปรียบเทียบ ไม่มองถึงหลักความจริงว่าทำงานได้เหมาะสมกับค่าจ้างรึเปล่า คนเห็นตัวเลขก็ตาลุกหาว่าไม่ยุติธรรมซะงั้น

[ตอบ #12 เมื่อ:]

CEO หรือ ผู้บริหารระดับสูง

การบริหาร คือ การใช้คนอื่นทำงานให้ประสบความสำเร็จ

ถูกละนิที่เค้าควรได้เงินเดือนเยอะ ๆ เพราะ การรับผิดชอบก็สูงกว่า
เป็นถึง CEO แต่ถ้า ลูกน้องทำงานไม่ดี บริหารไม่เป็น
เงินเดือน จากเป็นแสน อาจจะเป็นหนี้ 100 ล้านมันก็แค่พลิกฝ่ามือ

[ตอบ #13 เมื่อ:]

นี่แหละชาติถึงไม่พัฒนาสักที
เพราะมีแต่พวกชอบกดขี่แรงงาน
และดูถูกคนไทยด้วยกัน
ค่าแรงต้องน้อยไว้ก่อนแล้วเมื่อไหร่ประเทศ
จะเจริญ
เจ้าของกระทู้นำข้อมูลมาให้ดู
ไม่ได้หมายความว่าจะต้องขึ้นเงินเดือนเป็นแสน
แต่ส่วนต่างของฐานเงินเดือนมันมากเกินไปต่างหากหละ
ถ้าคิดถึงแต่พวกนายทุนประเทศเราต้องเป็นประเทศมีค่าแรงขั้นต่ำ
น้อยๆตลอดไปหรือไง
ลองคิดถึงใจเขาใจเราบ้างนะ
แล้วถ้าขึ้นค่าแรงรัฐก็ต้องมีมาตรการควบคุมราคาสินค้า
ตามความเหมาะสมของกลไกตลาดอย่างแท้จริงด้วย
ซึ่งตามที่ว่ามาทั้งหมดสามารถทำได้ถ้าเหล่าบรรดานายทุนทั้งหลาย
เปิดใจและกล้าที่จะเปิดเผยข้อเท็จจริง

[ตอบ #14 เมื่อ:]

อยากให้ลูกจ้างใด้เงินเดือนสุงเพราะลูกจ้างเอกชนเขาจะเลิกจ้างตอนใหนก็ได้ไม่ค่อยมีความมั่นคงอยากให้เราออกก้หาเรื่องว่าไม่มีผลงาน

[ตอบ #15 เมื่อ:]

ก็ลองมองย้อนดูตัวเองสิว่า เรามีความสามารถเท่าเค้ารึเปล่า

[ตอบ #16 เมื่อ:]

ราคาสินค้าสูงขึ้น แต่ค่าแรงถูกไม่เหมาะสมกับสภาพความเป็นจริง ทำให้สังคมมีชนชั้น ไม่เปิดโอกาศให้คนใช้แรงงานได้ลืมตาอ้าปากแต่เขาต้องมารับสภาพสินค้าแพง รัฐบาลไม่เคยมาไส่ใจเอาแต่การคอรับชั่น ส่วย โดยไม่มองว่าคนใช้แรงงานไม่มีรายได้อื่นมีรายได้จากค่าจ้างเท่านั้น ผมเห็นด้วยกับพรรคเพื่อไทยที่จะได้มองถึงความเป็นจริงที่ค่าจ้างนั้นถูก แต่ราคาสินค้าแพงขึ้น จึงต้องปรับค่าแรงให้เหมาะกับสภาพความเป็นจริง

[ตอบ #17 เมื่อ:]

บริษัทใหญ่ ๆ เขาบอกกับแล้วว่าไม่น่ามีปัญหา ปัญหาอยู่ที่ sme เข้าใจไหม บริษัทใหญ่ เขาไม่จ้างหรอกวันละ 300 บาท เสียเวลา ซับงานพวกนี้ให้ sme หมด ที่ควรจะห่วงกันคือรายเล็ก ซึ่งควรมีมาตราการรองรับ เหมือนประกันราคาหรือจำนำข้าว ทำไมไม่พูดถึงตรงนี้ จขกท.

[ตอบ #18 เมื่อ:]

สงสัยคุณรัฐบาล เป็นเจ้าของการกิจการทั้งประเทศ อยากให้ทำอะ ไรก็ต้องทำ แค่นี้ก็จะแย่อยู่แล้ ว ไม่ต่างอะไรกั บเผด็จการนี่หรือประชาธิปตัย

[ตอบ #19 เมื่อ:]

คนใช้แรงงาน กับคนที่เป็นผู้บริหาร มันก็คือฟันเฟืองที่สำคัญทุกตัว แต่มันต่างกันตรงเนื้องาน ถ้าช่องว่างของรายได้ต่างกันมากก็ไม่เห็นด้วยด้วยครับ

[ตอบ #20 เมื่อ:]

แก้ปัญหาง่ายนิดเดียว เราก้อสมัครงานเป็นCEOหรือผู้บริหารเลย หรือไม่ก้อไปเปิดธุรกิจเองแล้วอยากจะจ่ายเงินเดือนขั้นต่ำเท่าไหร่ก้อจ่ายไปเลย สาม สี่ ห้าร้อยบาทต่อวันก้อจ่ายไป แค่นี้ก้อไม่ต้องคิดมากแล้ว

[ตอบ #21 เมื่อ:]

ผมเองอยากถามพวกคุณเหมือนกันว่าใครห้ามคุณไม่ให้มีเงินเดือนสูงๆ หรือรายได้สูงๆ แต่คุณต้องพัฒนาตัวเอง หาโอกาศให้ตัวเองคุณก็จะเป็นคนที่มีเงินเดือนสูง ไม่เห็นต้องง้อให้รัฐหรือเอกชนมาปรับเงินให้คุณ เพราะถ้าพวกคุณมีศัพยภาพสูง ต่อไปงานที่เงินน้อยๆ ก็ไม่ทำ พวกนายจ้างก็ต้องจ่ายเงินจ้างคุณสูงๆ ขึ้นเอง เพราะหาคนทำไม่ได้ เพราะคนเหล่านั้นมีศักยภาพสามารถหาอาชีพหรือหารายได้สูงๆ เองได้ไม่ต้องไปง้อ ซึ่งก็จะเป็นไปตามระบบ ไม่ต้องบีบบังคับใครไม่ต้องไปทุบหัวใคร หรือพวกคุณว่าไง

[ตอบ #22 เมื่อ:]

แล้วเอาอะไรมาวัดหละว่าคนที่เป็นลูกจ้าง
ไม่มีความสามารถเท่าพวกซีอีโอ
ซีอีโอหลายคนก็ใช้พวกเลขาและทีมงานหาข้อมูล
ไม่ได้คิดเอง
แต่โอกาสต่างหากที่แรงงานขาด
ซีอีโอก็ไม่ได้เก่งทุกคนหรอกนะ
ที่สำประเด็นคือไม่ได้หมายความว่าให้ขึ้นค่าแรงให้เท่าซีอีโอ
แต่อัตราค่าแรงควรมีความเหมาะสม
ไม่ใช่ต่างกันราวฟ้ากับเหว
คำว่าขาดทุนถ้าขึ้นค่าแรงมันไม่มีหรอก
มีแต่จะเอากำไรมากหรือน้อยต่างหาก

ซีอีโอใช้พวกเลขาและทีมงานหาข้อมูล แต่การตัดสินใจและความเสี่ยงยังคงอยู่ที่ซีอีโอ ภาระหน้าที่มันต่างกัน ช่างกล้าเอามาเปรียบเทียบ เพราะถ้าเลขากับทีมงานทำงานแทนซีอีโอได้ บริษัทคงไม่จ้างคนเพื่อทำงานแบบเดียวกัน ส่วนนึงยอมรับว่า CEO บางคน เป็นเครือญาติ หรือ ลูกหลานของเจ้าของกิจการ แต่ CEO ที่ได้ตำแหน่งมาด้วยความสามารถก็มี อีกอย่างการขึ้นค่าแรงขั้นตำ่ไม่ได้ขึ้นแต่เฉพาะกับบริษัทใหญ่ๆ แล้วกับธุรกิจอื่นที่ไม่มี CEO ล่ะ จะเปรียบยังไง คนที่บอกว่าไม่มีคำว่าขาดทุนหรอก มีแต่กำไรมากน้อย ก็ขอถามหน่อยว่า เคยทำธุรกิจเคยบริหารธุรกิจหรือเปล่า ถ้าค่าแรงขึ้นจริงเจ้าของกิจการต้องมีการเลิกจ้างแน่นอนเพื่อลดต้นทุน คนสายป่านสั้นรับไม่ไหวก็ต้องคัดคนออกอย่างเดียว เพราะถ้าค้าขายแล้วไม่มีกำไรก็ไม่รู้ว่าจะทำไปทำไม

[ตอบ #23 เมื่อ:]

แนะนำให้ท่านทั้งหลายไปสมัครงานงานตำแหน่ง CEO

หรือไม่ก็เปิดกิจการเป็นเจ้าของธุรกิจเอง จะได้เลิกบ่นสักที

[ตอบ #24 เมื่อ:]

แล้วเอาอะไรมาวัดหละว่าคนที่เป็นลูกจ้าง
ไม่มีความสามารถเท่าพวกซีอีโอ
ซีอีโอหลายคนก็ใช้พวกเลขาและทีมงานหาข้อมูล
ไม่ได้คิดเอง
แต่โอกาสต่างหากที่แรงงานขาด
ซีอีโอก็ไม่ได้เก่งทุกคนหรอกนะ
ที่สำประเด็นคือไม่ได้หมายความว่าให้ขึ้นค่าแรงให้เท่าซีอีโอ
แต่อัตราค่าแรงควรมีความเหมาะสม
ไม่ใช่ต่างกันราวฟ้ากับเหว
คำว่าขาดทุนถ้าขึ้นค่าแรงมันไม่มีหรอก
มีแต่จะเอากำไรมากหรือน้อยต่างหาก

ใช้อะไรคิด.....

[ตอบ #25 เมื่อ:]

ถ้าแรงงานราคาถูกทำงานเหมือนคนเกาหลีหรือญีปุ่น500บาทก็ต้องให้แต่แรงงานไทยอู้ทั้งวัน ไม่ต้องรอรัฐบาลหรอกเจ้าของธุกิจเขาก็ทำกันได้เขาคิดกันมานานแล้ว

[ตอบ #26 เมื่อ:]

หน้าที่ต่างกัน ความรับผิดชอบต่างกัน เอาจำนวนเงินมาเทียบกันได้ไง อีกอย่างที่ยกมาก็มีแต่ CEO ของบริษัทใหญ่ๆ แล้วเจ้าของธุรกิจ SME ไม่เห็นข้อมูลมานำเสนอบ้าง อย่าลืมว่าเงินค่าแรง 300 ไม่ได้ให้ขึ้นแต่บริษัทขนาดใหญ่ เค้ารวมทั้งหมด แต่คุณเอาแค่ข้อมูลของบริษัทขนาดใหญ่มาอ้างเท่านั้น ที่กลัวกันไม่ใช่บริษัทใหญ่จะอยู่กันไม่ได้ ที่เค้ากลัวกันคือธุรกิจ SME ขนาดกลางกับขนาดเล็กตะหากที่ขะรับภาระไม่ไหว

[ตอบ #27 เมื่อ:]

บางครั้งมันก็อยู่ที่จังหวะมากกว่า
ผมจบแค่ ปวช สายช่าง
ทำงานมาแค่ 7 ปี เอง
แต่ว่าเริ่มงานตั้งแต่เถ้าแก่เค้าเริ่มร้านใหม่ๆ (โรงกลึง)
ปัจจุบันผมได้เป็นผู้จัดการร้าน มีเงิินเดือน 25000 บาท (ซึ่งมันไม่ได้มากมายหรอกสำหรับหลายๆคน แต่ผมก็พอใจแล้วสำหรับวุฒิแค่นี้)
ตอนเริ่มงานสมัยนั้น ผมได้ค่าแรงแค่วันละ 100 บาทเอง
เราอย่าไปคาดหวังอะไรมากครับ พยายามสู้ให้ถึงที่สุึด
ซักวันเราก็จะดีขึ้นเอง

[ตอบ #28 เมื่อ:]

คุณเอามาเทียบก็เกินไปครับ คนพวกนั้น เขาเรียนจบ นอก กว่าจะไปยืนถึงจุดนั้น คุณคิดว่าเขาเดินไปแล้วบอกว่า ผมอยากทำตำแหน่งนี้ครับ มันต้องดูหลาย ๆอย่างถ้าเอาชาวนามาเป็นจะเป็นได้ไหม ผมจบ ปวช ไม่เ็ห็นต้องมาง้อ 300 บาท กับ 15000 บาทเลย ทุกวันนี้ ทำงานมา 2-3 ปีเงินเดือนที่รับมากกว่า ตัวเลขที่รัฐจะให้สะอีก อยู่ที่โอกาสแล้วความสามารถมากกว่าครับ ก็ขอให้สู้ ๆทุกคนผมเชื่อว่า ฝันของคนอีกหลายคน มันมาพร้อมกับความพยายาม งดดื่่ม งดเที่ยว งดการพนัน มันมีแน่นอนครับ คำว่า จน เคลียด กินเหล้า มันหมดยุคไปนานแล้วสำหรับคนที่พัฒนาตัวเองเพื่ออนาคต

[ตอบ #29 เมื่อ:]

อยากเป็นตำแหน่งสูงๆก็หาทางขึ้นไปสิ ไม่ใช่มานั่งบ่น ขนาดตัวเองยังทำไม่ได้แล้วจะให้ใครมาช่วย

[ตอบ #30 เมื่อ:]

ไม่ทราบว่าสติปัญญากับความสามารถเท่ากับพวกผู้บริหารรึเปล่าล่ะ ถึงได้ออกมาพูดแบบนี้ ถ้าคุณมีความสามารถจริงคุณก็มีสิทธิ์ที่จะได้ค่าตอบแทนเช่นนั้นเหมือนกัน

แล้วถ้าไม่มีคนแบบ ที่คุณกำลังว่าเค้าอยู่ สติปัญาที่ว่าก็คงไม่มีประโยขน์หรอกครับก็ลงมาทำเองดิ ไม่ต้องจ้าง แค่นั้นก็จบแล้วจะจ้างทำไมทำเงินปีๆนืงไม่ใช่น้อย พิมอะไรคิดมั่งดินี้หรอกที่ว่าสติปัญยา โง่สิ้นดี

[ตอบ #31 เมื่อ:]

จบ ป.เอกใช่ว่าจะพฉลาดกว่าจบ ป.สี่
เหตุใดพระสงฆ์หลายท่านที่มิได้รับการศึกษาสูง
แต่สอนให้ญาติธรรม ทำความดีละเว้นความชั่วได้
ท่านเหล่านี้กลับมีปัญญายิ่งกว่าด็อกเตอร์ทั้งหลาย
ด็อกเตอร์เหล่านี้ส่วนใหญ่ ได้มาเพราะสมองความจำดีก็แค่นั้น
ส่วนปัญญาที่จะพิจารณาว่าสิ่งใดชอบ สิ่งใดควร มันคนละเรื่องกัน

[ตอบ #32 เมื่อ:]

ดูจริงๆ พวกนี้เอาเปรียบอาชีพอื่นมากที่สุด แล้วอาชีพอื่นเขาไม่ทำงานหรือไง ถ้าไม่มีพวกอาชีพอื่น ผู้บริหารระดับสูงจะทำงานได้ไหม ยิ่งถ้าไม่มีชาวนา คนในประเทศนี้จะมีข้าวกินไหม นี่คือ ระบบที่แตกต่างกันมากในช่วงของเงินเดือน ประเทศไทยควรที่จะเปลี่ยนแปลงได้แล้ว อย่าให้ช่วงเงินเดือนต่างกันมาก ในขณะที่พวกผู้บริหารเงินเดือนก็สูง ยิ่งได้สวัสดิการเยอะอีก ในขณะที่ข้าราชการบรรจุใหม่เงินเดือนแปดพันและเบิกค่าเช่าบ้านไม่ได้เลย ค่าครองชีพก็แพง นี่คือความเดือดร้อนของข้าราชการชั้นผู้น้อย จะมีก็แค่ค่ารักษาพยาบาลเท่านั้น ซึ่งทุกวันนี้ก็ไม่ได้ต่างกันเลยกับเอกชน เพียงแต่อาจจะเรียกคนละอย่าง

[ตอบ #33 เมื่อ:]

งานนี้ขอบอกว่าคนที่พุดถูกที่สุดคือคนที่ใช้สติปัญญา มองและมองหลายๆด้าน นะครับไม่ใช่ด้านเดียว มองแบบองค์รวมด้วย ลูกจ้างแต่ละระดับก็มองต่างกัน
1/มองว่าทำอย่างไรจะมีกินไปวันๆ
2/มองว่าครอบครัวชีวิตจะมีกินไปวันๆ
3/มองว่าอนาคตครอบครัวจะเป็นอย่างไร
4/มองว่าบริษัทที่ทำอยู่จะไปอย่างไรในอนาคต
5/มองว่าประเทศชาติจะไปอย่างไร
6/มองว่าระบบทั้งระบบชองชาติจะไปอย่างไรหากตัวแปรบางตัวเกินมีปัญหาเช่น การเมือง,การเงินเศรษฐกิจ,ฯลฯ

นี้แหละคุณมองอยู่ที่ระดับใดผลตอบแทนก็จะอยู่ที่ระดับนั้น
ขอให้มองว่าสิ่งที่ตัวเองอยู่นะมีความพอเพียงใหม ถ้าพอก้ไม่อิจแา แต่ไม่พอก็ต้องเร่งทำฒอย่ามัวแต่วิจารณ์ด้านลบคนอื่นเขามันไม่ดี

[ตอบ #34 เมื่อ:]

กว่าเขาจะไต่ระดับมาเป็น ซีอีโอได้ ต้องผ่านอะไรมาหลายๆอย่าง มองไปถึงด้านหลังด้วย ไม่ใช่มองด้านหน้าอย่างเดียว ด้านหลังเขา อาจมีความทุกข์มากกว่าสุข (ภาระที่รับผิดชอบ)

เหมื่อกับที่หลายๆคนมองคนขับรถเบนซ์หรือรถหรูๆแล้วอิจฉา แต่กว่าจะถึงวันนั้นเขาเหนื่อยมาขนาดไหน ไม่มีใครรู้

ก็เป็นไปตามนั้น ทำงานโดยใช้สมองจะได้เงินมากกว่าใช้แรงงานอ่ะ

[ตอบ #35 เมื่อ:]

ไม่ใช่ อะไรที่จะขึ้นก็ ขึ้น นะครับ
โยงกันไปหมด

[ตอบ #36 เมื่อ:]

เอาค่าแรงขั้นต่ำสิครับ อย่าไปเอาค่าแรงผู้บริหาร คุณแยกไม่ออกหรือว่าผู้บริหาร กับ ค่าแรงขั้นต่ำ ค่าแรง 300 บาท/ต่อวัน ถ้าผู้บริหารเขาบอกว่าให้ได้เขาก็จ่ายให้ลูกจ้างให้ไม่ได้เขาก็ไม่จ่าย ไม่เกี่ยวกับเงินเดือนเขาเลย จะเอาเงินเดือนภารโรงไปเทียบกับผู้อำนวยได้อย่างไร?

[ไอค่อนข้อความ:]

	ปรากฎข้อผิดพลาดตังต่อไปนี้ขณะส่งข้อความนี้:
	คำเตือน: ความคิดเห็นนี้ถูกล็อกไว้! เฉพาะผู้ดูแลเท่านั้นที่ตอบได้
ชื่อ:
	แชร์ไป Facebook ด้วย
กระทู้:
ไอค่อนข้อความ:	ไอค่อนขณะนี้ กระทู้ทั่วไปเหมาะสำหรับผู้ชมทุกวัย กระทู้สำหรับเด็กก่อนวัยเรียน กระทู้สำหรับเด็ก กระทู้ที่ผู้ใหญ่ควรให้คำแนะนำ กระทู้ที่ผู้ใหญ่ควรให้คำแนะนำแก่ผู้อ่านที่มีอายุน้อยกว่า 13 ปี กระทู้ที่ผู้ใหญ่ควรให้คำแนะนำแก่ผู้อ่านที่มีอายุน้อยกว่า 18 ปี กระทู้เฉพาะไม่เหมาะกับเด็กและเยาวชน
	ตัวหนาตัวเอียงตัวขีดเส้นใต้จัดย่อหน้าชิดซ้ายจัดย่อหน้ากึ่งกลางจัดย่อหน้าชิดขวา ขนาดตัวอักษร เล็กมาก เล็ก ปกติ ใหญ่ ใหญ่มาก เปลี่ยนสี สีดำ/ขาว สีแดง สีเหลือง สีชมพู สีเขียว สีส้ม สีม่วง สีนํ้าเงิน/ฟ้า สีเทา สีน้ำตาล สีเขียวฟ้า สีกรมท่า สีเลือดนก สีเหลืองอมเขียว
	[เพิ่มเติม]
	กลับไปกระทู้นี้ หลังจากการตั้งความคิดเห็น ไม่ใช้สัญลักษณ์แสดงอารมณ์
แนบไฟล์:	(แนบไฟล์เพิ่ม) ไฟล์ที่อนุญาต: gif, jpg, jpeg ขนาดไฟล์สูงสุดที่อนุญาต 20000000 KB : 4 ไฟล์ : ต่อความคิดเห็น
ติดตามกระทู้นี้ :	ส่งไปที่อีเมลของสมาชิกสนุก
	ส่งไปที่
พิมพ์อักษรตามภาพ: