ความยุติธรรม

[เมื่อ:]

สำเนามาจากเว็บทางวิชาการ ที่เขาเอาไว้สอนเด็กนักเรียน วัยใสบริสุทธิ์
(http://internationalschool.eduzones.com/yonokcreativelaw)

“ ความยุติธรรม ” เป็นคำที่ให้คำนิยามได้ยากที่สุดคำหนึ่งในทุก ๆ ภาษา เชื่อได้ว่าความยุติธรรมของแต่ละบุคคลคงแตกต่างกันไป เช่น
เจ้าหนี้ มองความความยุติธรรม คือ การที่ลูกหนี้ชำระหนี้ให้ครบถ้วน
ลูกหนี้ มองความยุติธรรม คือ เจ้าหนี้ควรคิดดอกเบี้ยให้น้อยลง หรือผ่อนชำระหนี้ให้บ้าง
โจทก์ มองว่าความยุติธรรม คือ ศาลพิพากษาให้ชนะคดี
จำเลยมองว่า ความยุติธรรมคือ ศาลยกฟ้องตนเอง
............................
แล้วความจริง " ความยุติธรรม" คืออะไร
ตามพจนานุกรมฉบับบัณฑิตยสถานให้คำนิยามคำว่า “ ยุติธรรม ” ว่าคือ ความเที่ยงธรรม ความชอบธรรม ความชอบด้วยเหตุผล
ซึ่งความยุติธรรม เป็นสิ่งหนึ่งที่นักกฎหมายทุกคนต้องคำนึงถึง เพราะเป็นหน้าหนึ่งของนักกฎหมายที่ต้องผดุงความยุติธรรรม(ดูเป็นหนังจีนมากมาย) ยังไม่พอต้องมีความ "เที่ยงธรรม" ด้วย เอาแล้วคะ.... แล้วความเที่ยงธรรมหล่ะ คืออะไร
คำว่า “ เที่ยงธรรม ” มีความหมายว่า “ ตั้งตรงด้วยความเป็นธรรม ” แล้วมันหมายความว่าอะไร
...................................
ค้นหาจาก พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน มีคำที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ได้ดังนี้
“ คุณ ” หมายความว่า ความดีที่มีประจำอยู่
“ ธรรม ” หมายความว่า คุณความดี ความถูกต้อง
“ คุณธรรม ” หมายความว่า สภาพคุณงามความดี
“ จริยะ ” หมายความว่า ความประพฤติ กริยาที่ควรประพฤติ
“ ธรรมจริยา ” หมายความว่า การประพฤติเป็นธรรม การประพฤติถูกธรรม
“ จริยธรรมา ” หมายความว่า ธรรมที่เป็นข้อประพฤติปฏิบัติ
“ จริยธรรมในวิชาชีพกฎหมาย ” หมายความว่า ข้อที่ผู้ประกอบอาชีพในทางกฎหมายความประพฤติและปฏิบัติ
............................................
เพราะฉะนั้น ใครที่คิดอยากเรียนกฎหมาย ต้องเข้าใจคำนี้ให้ดี เพราะเป็นสิ่งที่นักกฎหมายพึงมี พึงปฏิบัติ ต้องพยายามทำให้ความยุติธรรมตามตัวบทกฎหมาย เข้าใกล้ความยุติธรรมตามความเป็นจริงให้มากที่สุด
...............................................................
มาร่วมแบ่งปันประสบการณ์ การสร้างความยุติธรรมให้กับสังคมนี้ ด้วยกัน

[ตอบ #1 เมื่อ:]

ที่ว่ามามันก็ถูก แต่ว่ามันใช้ไม่ค่อยได้ผล ทุกวันทั่วโลกจึงไม่ค่อนสงบเท่าไหร่ เพราะสังคมคนมันต่างระดับกัน ความยุติธรรม เหตุผล กฎหมาย ก็เลยพลอยต่างระดับไปด้วยเช่นกัน บางกลุ่มประเทศ ความยุติธรรม เหตุผล กฎหมาย ก็ไปอีกอย่างหนึ่ง บางกลุ่มประเทศ ความยุติธรรม เหตุผล กฏหมายก็ไปอีกอย่างหนึ่ง ก็เลยต้องรบกันทั้งปีทั้งชาติ และก็อ้างว่าถูกด้วยกันทั้งคู่

ความถูกความผิดจริงๆจึงไม่มี มีแต่ความถูกผิดของสังคมในแต่ละระดับ ความยุติธรรม เหตุผล และกฎหมาย จริงๆจึงไม่มี มีแต่ความยุติธรรม เหตุผล และกฎหมาย ของสังคมแต่ละระดับ เราเลือกระดับใหนก็เห็นว่าระดับนั้น ถูก ยุติธรรม และมีเหตุผล

กลุ่มที่ปกครองแบบเผด็จการ เขาก็มีความถูก ความยุติธรรม เหตุผล และกฎหมายของเขาโดยเฉพาะ กลุ่มที่ปกครองแบบประชาธิปไตย เขาก็มีความถูก ความยุติธรรม เหตุผล และกฎหมายของเขาโดยเฉพาะ และเขาก็ยืนยันว่าของเขา ถูก ดี ทั้งคู่

แม้กระทั่งในสังคมคนประเทศเดียวกัน ก็ต่างระดับ คนหากินทุจริต โจร ขโมย ขี้เหล้า ขี้ยา นักเลง เจ้าพ่อ เจ้าแม่ เขาก็ว่าเขาถูก ความยุติธรรมเหตุผลเขาก็อีกอย่างหนึ่ง และยกย่องคนอีกอย่างหนึ่ง คนประกอบอาชีพสุจริต เขาก็บอกว่าเขาถูก และยกย่องคนอีกอย่างหนึ่ง

ถ้าจะถามว่าอันใหนมันจะทำให้ประเทศอยู่เป็นสุข เจริญรุ่งเรื่อง ก็ให้ดูผลจากที่ประเทศเหล่านั้น สังคมเหล่านั้นเป็นอยู่ ถ้ารบราฆ่าฟันกันทุกวัน ทะเลาะกันทุกวันเพราะผลจากการปกครอง อันนั้นยังไงก็ไม่สงบสุข ยังไงก็ไม่เจริญ เพราะไม่มีเวลาทำอย่างอื่นนอกจากรบกันฆ่ากัน

มันอยู่ที่ว่าเขาจะเลือก ความยุติธรรม เหตุผล และกฎหมายแบบใหน ชอบแบบใหน เลือกแล้วเขาก็ว่าของเขาดี เมืองไทยก็เหมือนกัน แต่ละกลุ่มก็ว่าคนเองดี ก็ดูผลที่เกิดจากสองกลุ่มทำ แล้วเลือกเอาตามที่อยากได้ ถ้าชอบแบบที่เป็นอยู่ทุกวันก็เลือกกลุ่มอำนาจทุกวันนี้เลย แต่ถ้าไม่ชอบก็รีบเปลี่ยน

[ตอบ #2 เมื่อ:]

ใช่ครับ ตามนั้นครับ

[ตอบ #3 เมื่อ:]

วันพระ
เอาคำพระเทศน์ มาฝาก

ดูกรภิกษุทั้งหลาย ความขัดสนก็ได้มาถึงความแพร่หลาย เมื่อความขัดสนมาถึงความแพร่หลาย อทินนาทานก็ได้ถึงความแพร่หลาย เมื่ออทินนาทานถึงความแพร่หลาย ศาสตราก็ได้ถึงความแพร่หลาย เมื่อศาสตราถึงความแพร่หลาย ปาณาติบาตก็ได้ถึงความแพร่หลาย เมื่อปาณาติบาตถึงความแพร่หลาย มุสาวาทก็ได้ถึงความแพร่หลาย เมื่อมุสาวาทถึงความแพร่หลาย ปิสุณาวาจา (วาจาส่อเสียด) ก็ได้ถึงความแพร่หลาย เมื่อปิสุณาวาจาถึงความแพร่หลาย กาเมสุมิจฉาจารก็ได้ถึงความแพร่หลาย เมื่อกาเมสุมิจฉาจารถึงความแพร่หลาย ธรรม ๒ ประการ คือ ผรุสวาจา (วาจาด่าทอ) และสัมผัสปลาปะ (วาจาเพ้อเจ้อ) ก็ถึงความแพร่หลาย เมื่อธรรม ๒ ประการแพร่หลาย อภิชฌา (ความเพ่งเล็งเพราะระแวง) และพยาบาท ความจ้องทำร้าย) ก็ถึงความแพร่หลาย เมื่ออภิชฌาและความพยาบาทถึงความแพร่หลาย มิจฉาทิฐิ (ความเห็นผิดเป็นชอบเห็นชอบเป็นผิด) ก็ถึงความแพร่หลาย เมื่อมิจฉาทิฐิถึงความแพร่หลาย ธรรม ๓ ประการ คือ อธรรมราคะ (ความกำหนัดในสิ่งที่ไม่สมควร) วิสมโลภ (ความโลภไม่เลือก – จะเอาแต่ได้ฝ่ายเดียว) มิจฉาธรรม (ค่านิยมอันผิด ความยึดถือผิด ความรู้ผิด) ก็ได้ถึงความแพร่หลาย เมื่อธรรมสามประการนี้ถึงความแพร่หลาย ธรรมเหล่านี้คือความไม่ประพฤติชอบในมารดา ความไม่ประพฤติชอบในบิดา ความไมประพฤติในสมณะ ความไม่ประพฤติชอบในพราหมณ์ ความไม่อ่อนน้อมในผู้ใหญ่ในตระคุณล ก็ได้ถึงความแพร่หลาย เมื่อธรรมเหล่านี้ถึงความแพร่หลาย แม้อายุของสัตว์เหล่านั้นก็เสื่อมถอย แม้วรรณะ (ผิวพรรณ) ก็เสื่อมถอย

[ตอบ #4 เมื่อ:]

ที่ว่ามามันก็ถูก แต่ว่ามันใช้ไม่ค่อยได้ผล ทุกวันทั่วโลกจึงไม่ค่อนสงบเท่าไหร่ เพราะสังคมคนมันต่างระดับกัน ความยุติธรรม เหตุผล กฎหมาย ก็เลยพลอยต่างระดับไปด้วยเช่นกัน บางกลุ่มประเทศ ความยุติธรรม เหตุผล กฎหมาย ก็ไปอีกอย่างหนึ่ง บางกลุ่มประเทศ ความยุติธรรม เหตุผล กฏหมายก็ไปอีกอย่างหนึ่ง ก็เลยต้องรบกันทั้งปีทั้งชาติ และก็อ้างว่าถูกด้วยกันทั้งคู่

ความถูกความผิดจริงๆจึงไม่มี มีแต่ความถูกผิดของสังคมในแต่ละระดับ ความยุติธรรม เหตุผล และกฎหมาย จริงๆจึงไม่มี มีแต่ความยุติธรรม เหตุผล และกฎหมาย ของสังคมแต่ละระดับ เราเลือกระดับใหนก็เห็นว่าระดับนั้น ถูก ยุติธรรม และมีเหตุผล

กลุ่มที่ปกครองแบบเผด็จการ เขาก็มีความถูก ความยุติธรรม เหตุผล และกฎหมายของเขาโดยเฉพาะ กลุ่มที่ปกครองแบบประชาธิปไตย เขาก็มีความถูก ความยุติธรรม เหตุผล และกฎหมายของเขาโดยเฉพาะ และเขาก็ยืนยันว่าของเขา ถูก ดี ทั้งคู่

แม้กระทั่งในสังคมคนประเทศเดียวกัน ก็ต่างระดับ คนหากินทุจริต โจร ขโมย ขี้เหล้า ขี้ยา นักเลง เจ้าพ่อ เจ้าแม่ เขาก็ว่าเขาถูก ความยุติธรรมเหตุผลเขาก็อีกอย่างหนึ่ง และยกย่องคนอีกอย่างหนึ่ง คนประกอบอาชีพสุจริต เขาก็บอกว่าเขาถูก และยกย่องคนอีกอย่างหนึ่ง

ถ้าจะถามว่าอันใหนมันจะทำให้ประเทศอยู่เป็นสุข เจริญรุ่งเรื่อง ก็ให้ดูผลจากที่ประเทศเหล่านั้น สังคมเหล่านั้นเป็นอยู่ ถ้ารบราฆ่าฟันกันทุกวัน ทะเลาะกันทุกวันเพราะผลจากการปกครอง อันนั้นยังไงก็ไม่สงบสุข ยังไงก็ไม่เจริญ เพราะไม่มีเวลาทำอย่างอื่นนอกจากรบกันฆ่ากัน

มันอยู่ที่ว่าเขาจะเลือก ความยุติธรรม เหตุผล และกฎหมายแบบใหน ชอบแบบใหน เลือกแล้วเขาก็ว่าของเขาดี เมืองไทยก็เหมือนกัน แต่ละกลุ่มก็ว่าคนเองดี ก็ดูผลที่เกิดจากสองกลุ่มทำ แล้วเลือกเอาตามที่อยากได้ ถ้าชอบแบบที่เป็นอยู่ทุกวันก็เลือกกลุ่มอำนาจทุกวันนี้เลย แต่ถ้าไม่ชอบก็รีบเปลี่ยน

ผมยังเหมือนเดิม และคิดเช่นเดียวกันครับ

ที่นำประเด็นมาเสนอทั้ง ความยุติธรรม และ ความเสื่อม เพื่อแสดงให้เห็นถึงบางสิ่งที่เกิดขึ้นในประเทศอย่างเราๆ ซึ่งความยุติธรรม ก็ นำมาจากคำสอนของคุณครูต่อเด็กนักเรียน วัยใสบริสุทธิ์ แต่เมื่อเขาจบมาแล้ว ไปประกอวอาชีพ บางคนไม่มีจุดยืนในวิชาชีพ ก็อาจกระทำตนไปในทางเสื่อมเสีย ซึ่งมิใช่หยุดที่ตัวเขาเอง แต่กระทบไปถึงสังคม ดังเป็นข่าวคราว อยู่เนืองๆ

รวมทั้ง ความเสื่อม ก็นำคำสอน (เทศน์) ของพระ เพื่อนำมาสอนคน ให้ตั้งอยู่ในความยุติธรรม ... ก็ไม่รู้ว่าเขาจะรับรู้แค่ไหน

[ตอบ #5 เมื่อ:]

ความยุติธรรมมีอยู่แน่นอน แต่บ้างครั้งความดีจะมักไม่มีใครมองเห็นสักเท่าไหร่

[ตอบ #6 เมื่อ:]

ความยุติธรรมมีอยู่แน่นอน แต่บ้างครั้งความดีจะมักไม่มีใครมองเห็นสักเท่าไหร่

เห็นด้วยครับ ... เชื่อได้ว่า "ความดีที่มีอยู่ตนเอง" คนรอบข้างตัวของคุณ ก็จะรู้ดีว่า คุณมีความดี แม้ว่า เขาอาจจะไม่แสดงออกก็ตาม

[ไอค่อนข้อความ:]

	ปรากฎข้อผิดพลาดตังต่อไปนี้ขณะส่งข้อความนี้:
	คำเตือน: ความคิดเห็นนี้ถูกล็อกไว้! เฉพาะผู้ดูแลเท่านั้นที่ตอบได้
ชื่อ:
	แชร์ไป Facebook ด้วย
กระทู้:
ไอค่อนข้อความ:	ไอค่อนขณะนี้ กระทู้ทั่วไปเหมาะสำหรับผู้ชมทุกวัย กระทู้สำหรับเด็กก่อนวัยเรียน กระทู้สำหรับเด็ก กระทู้ที่ผู้ใหญ่ควรให้คำแนะนำ กระทู้ที่ผู้ใหญ่ควรให้คำแนะนำแก่ผู้อ่านที่มีอายุน้อยกว่า 13 ปี กระทู้ที่ผู้ใหญ่ควรให้คำแนะนำแก่ผู้อ่านที่มีอายุน้อยกว่า 18 ปี กระทู้เฉพาะไม่เหมาะกับเด็กและเยาวชน
	ตัวหนาตัวเอียงตัวขีดเส้นใต้จัดย่อหน้าชิดซ้ายจัดย่อหน้ากึ่งกลางจัดย่อหน้าชิดขวา ขนาดตัวอักษร เล็กมาก เล็ก ปกติ ใหญ่ ใหญ่มาก เปลี่ยนสี สีดำ/ขาว สีแดง สีเหลือง สีชมพู สีเขียว สีส้ม สีม่วง สีนํ้าเงิน/ฟ้า สีเทา สีน้ำตาล สีเขียวฟ้า สีกรมท่า สีเลือดนก สีเหลืองอมเขียว
	[เพิ่มเติม]
	กลับไปกระทู้นี้ หลังจากการตั้งความคิดเห็น ไม่ใช้สัญลักษณ์แสดงอารมณ์
แนบไฟล์:	(แนบไฟล์เพิ่ม) ไฟล์ที่อนุญาต: gif, jpg, jpeg ขนาดไฟล์สูงสุดที่อนุญาต 20000000 KB : 4 ไฟล์ : ต่อความคิดเห็น
ติดตามกระทู้นี้ :	ส่งไปที่อีเมลของสมาชิกสนุก
	ส่งไปที่
พิมพ์อักษรตามภาพ: