แบบทดสอบทักษะภาษาอังกฤษ "ลิงกัวสกิล" บรรลุหลักชัยสำคัญ หลังคนทั่วโลกทำแบบทดสอบทะลุ 1 ล้านครั้งเป็นที่เรียบร้อย
แบบทดสอบวัดระดับภาษาอังกฤษ ลิงกัวสกิล (Linguaskill) บรรลุผลสำเร็จครั้งสำคัญ หลังจากที่ผู้คนทั่วโลกทำแบบทดสอบรวมแล้วกว่า 1 ล้านครั้ง นับตั้งแต่เปิดตัวเป็นครั้งแรกเมื่อปี 2561 ทั้งนี้ ทีมผู้เชี่ยวชาญจากเคมบริดจ์ ยูนิเวอร์ซิตี้ เพรส แอนด์ แอสเซสเมนท์ (Cambridge University Press & Assessment) เป็นผู้พัฒนาแบบทดสอบวัดระดับภาษาอังกฤษออนไลน์แบบรวดเร็วนี้ ซึ่งใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) และอัลกอริทึมแบบปรับได้ (Adaptive Algorithm) ที่ล้ำสมัย
นับตั้งแต่เคมบริดจ์เปิดตัวลิงกัวสกิลเป็นครั้งแรกนั้น ความต้องการทำแบบทดสอบลิงกัวสกิลก็เพิ่มขึ้นอย่างไม่หยุดยั้ง โดยผู้เชี่ยวชาญด้านทรัพยากรบุคคลต่างใช้ผล
คะแนนจากการสอบลิงกัวสกิลในการตัดสินใจสำคัญ ๆ เกี่ยวกับการสรรหา พัฒนา และฝึกอบรมพนัก
งาน นอกจากนี้ โรงเรียนและมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ยังใช้การสอบลิงกัวสกิลในการวัดระดับภาษาอังกฤษของนักเรียนนักศึกษา เพื่อให้ผู้เรียนได้เรียนหลักสูตรที่เหมาะสมกับระดับความสามารถของตนเอง อีกทั้งยังสามารถวัดความก้าวหน้าในการเรียน และวัดผลก่อนจบการศึกษาในท้ายที่สุด
แบบทดสอบลิงกัวสกิลแบ่งออกเป็นหลายระดับ โดยได้รับการออกแบบมาเป็นอย่างดีเพื่อวัดระดับภาษาอังกฤษของบุคคลหรือกลุ่มบุคคล ซึ่งครอบคลุมทักษะภาษาอังกฤษทั้ง 4 ด้าน ประกอบด้วยการพูด การอ่าน การเขียน และการฟัง พร้อมกับให้ผลลัพธ์ที่
แม่นยำภายใน 48 ชั่วโมง โดยผลลัพธ์ที่ได้นั้นมีความสอดคล้องโดยสมบูรณ์กับกรอบมาตรฐานความสามารถทางภาษาอังกฤษของสหภาพยุโรป (Common European Framework of Reference หรือ CEFR) ซึ่งเป็นมาตรฐานในการระบุความสามารถทางภาษาที่ได้รับการยอมรับในระดับโลก
ลิงกัวสกิลได้รับการยอมรับมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง
แบบทดสอบวัดระดับภาษาอังกฤษลิงกัวสกิลได้รับการยอมรับอย่างเป็นทางการจากองค์กรต่าง ๆ มากกว่า 1,300 แห่งทั่วโลก ครอบคลุมทั้งสถาบันอุดมศึกษา กระทรวงและหน่วยงานของภาครัฐ และภาคธุรกิจ ซึ่งรวมถึงสถาบันชื่อดังอย่างมหาวิทยาลัยบาร์เซโลนา (University of Barcelona) ประเทศสเปน, สายการบินแท็ปแอร์ปอร์ตูกัล (TAP Air Portugal) ประเทศโปรตุเกส, กระทรวงศึกษาธิการ วัฒนธรรม กีฬา วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีของญี่ปุ่น (MEXT) เป็นต้น
สำหรับในภูมิภาคเอเชียนั้น นอกเหนือจากกระทรวงศึกษาธิการ วัฒนธรรม กีฬา วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีของญี่ปุ่นแล้ว ยังมีอีกหลายหน่วยงานที่ยอมรับแบบทดสอบวัดระดับภาษาอังกฤษลิงกัวสกิล เช่น กระทรวงการอุดมศึกษาและกรมการศึกษาเอกชนของมาเลเซีย กระทรวงศึกษาธิการของไทย กระทรวงศึกษาธิการของเวียดนาม และสถาบันการอุดมศึกษาเขตพิเศษเมืองหลวงจาการ์ตา เป็นต้น
ในส่วนขององค์กรธุรกิจนั้น ลิงกัวสกิลได้รับการยอมรับจากองค์กรที่มีชื่อเสียงมากกว่า 40 แห่งในภูมิภาคเอเชีย เพื่อใช้ในการสรรหา ฝึกอบรม และพัฒนาพนักงาน โดยองค์กรเหล่านี้รวมถึงสายการบินเจแปนแอร์ไลน์ (Japan Airline), ดีเอชแอล เอเชียแปซิฟิก (DHL Asia Pacific), โรงแรมเลอ เมอริเดียน จาการ์ตา (Le Meridien Hotel Jakarta), โตเกียว โอลิมปิก (Tokyo Oylmpics), พีที คิโน อินโดนีเซีย ทีบีเค (PT Kino Indonesia TBK), พีที ซินาร์ ซอสโร (PT Sinar Sosro), พีที มาโยรา อินดาห์ ทีบีเค (PT Mayora Indah TBK), สมาคมอาหารเสริมแห่งมาเลเซีย (Malaysian Dietary Supplement Association) และศูนย์การแพทย์พรินซ์คอร์ทมาเลเซีย (Prince Court Medical Center Malaysia) เป็นต้น
https://www.youtube.com/watch?v=itA--7GmjsA
ทดสอบวัดระดับภาษาอังกฤษอย่างสะดวกสบายและเชื่อถือได้ด้วยลิงกัวสกิล
ลิงกัวสกิลสามารถจัดการสอบและคุมสอบได้ง่ายในที่ทำการขององค์กรต่าง ๆ โดยใช้เพียงแค่
คอมพิวเตอร์ อินเทอร์เน็ต ไมโครโฟน และชุดหูฟังเท่านั้น นอกจากนั้นยังสามารถสอบเองได้ที่บ้านผ่านบริการคุมสอบออนไลน์ ซึ่งความยืดหยุ่นเช่นนี้ทำให้ยังคงมีการสอบลิงกัวสกิลอย่างครอบคลุมทั่วโลกตลอดระยะเวลาที่เกิดสถานการณ์โรคระบาด และความจริงแล้ว ตลอด 4 ปีที่ผ่านมา ไม่มีวันไหนเลยที่ไม่มีการสอบลิงกัวสกิล
คุณฟรานเชสกา วูดวอร์ด (Francesca Woodward) กรรมการผู้จัดการสากลฝ่ายภาษาอังกฤษของเคมบริดจ์ ยูนิเวอร์ซิตี้ เพรส แอนด์ แอสเซสเมนต์ กล่าวว่า "ลิงกัวสกิลได้รับการพิสูจน์แล้วว่าเป็นแบบทดสอบออนไลน์ที่ยอดเยี่ยมสำหรับวัดระดับความสามารถทางภาษาอังกฤษ และเรายินดีเป็นอย่างที่ได้เฉลิมฉลองความสำเร็จครั้งสำคัญนี้ ผู้เชี่ยวชาญของเราได้ออกแบบลิงกัวสกิลให้ใช้เทคโนโลยี AI และอัลกอริทึมแบบปรับได้ เพื่อวัดระดับความสามารถทางภาษาอังกฤษด้วยความ
แม่นยำสูง รวดเร็ว และประหยัดค่าใช้จ่าย ซึ่งช่วยให้ผู้คนหลายหมื่นคนทั่วโลกเข้าถึงโอกาสทางการศึกษาและโอกาสในการทำงานมากยิ่งขึ้น"
ลิงกัวสกิลใช้เทคโนโลยีที่ล้ำสมัย
ลิงกัวสกิลใช้อัลกอริทึมแบบปรับได้ที่ล้ำสมัย ดังนั้นการสอบแต่ละครั้งจึงถูกปรับให้เหมาะสมกับผู้สอบแต่ละคน โดยเทคโนโลยีที่รองรับการทดสอบทักษะการอ่านและการฟังสามารถดึงความสามารถที่แท้จริงของผู้สอบออกมาได้อย่างรวดเร็ว จากนั้นจึงปรับแบบทดสอบให้ง่ายลงหรือยากขึ้นตามการตอบของแต่ละคน โดยคุณสมบัตินี้ช่วยให้ลิงกัวสกิลสามารถมอบผลลัพธ์ที่เชื่อถือได้และแม่นยำเพียงใช้แบบทดสอบสั้น ๆ ที่ครอบคลุมการทดสอบหลายระดับตามกรอบมาตรฐาน CEFR
ในส่วนของทักษะการพูดและการเขียนนั้น มีการนำ AI มาใช้ในการให้คะแนนอัตโนมัติ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแนวทางการให้คะแนนแบบไฮบริด หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า "human-in-the-loop" ซึ่งเป็นการผสมผสานกันระหว่างปัญญาของมนุษย์กับคอมพิวเตอร์ ด้วยการให้คะแนนอัตโนมัติในการประเมินแบบเรียลไทม์ แต่ก็มีผู้เชี่ยวชาญร่วมตรวจข้อสอบด้วย นับเป็นการอาศัยความสามารถของผู้เชี่ยวชาญที่ผ่านการฝึกฝนมาเป็นอย่างดีเพื่อสนับสนุนและพัฒนาระบบให้คะแนนอัตโนมัติต่อไป โดยระบบให้คะแนนขั้นสูงนี้ช่วยให้ได้รับผลลัพธ์ที่รวดเร็วและเชื่อถือได้ภายใน 48 ชั่วโมงเท่านั้น
อ่านเพิ่มเติมได้ที่ :
https://www.thaipr.net/general/3328239
