รถดับกลางทางเกิดจากอะไร อากาศร้อนเกี่ยวไหมมาดูกัน 
ลองคิดดูว่าถ้าหากวันหนึ่งคุณกำลังขับรถเพื่อออกเดินทางไปทำธุระที่ไหนสักแห่ง แต่รถดันเกิดดับกลางทางไปเสียดื้อ ๆ ซึ่งไม่ว่าจะเกิดขึ้นด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม มันต้องส่งผลเสียต่อผู้ขับขี่ไม่ทางใดก็ทางหนึ่งแน่นอน ดังนั้นวันนี้เราจึงได้รวบรวมสาเหตุของอาการรถดับกลางทางมาให้ทุกคนได้ลองอ่านและศึกษากันดูครับ
1.ขั้วลบของแบตเตอรี่หลวม ขั้วลบแบตเตอรี่หลวมเกิดขึ้นจากการที่สายขั้วลบหลวมจนเกิดหลุดออกจากตัวแบตเตอรี่ หรือไม่ก็มีสนิมหรือขี้เกลือขึ้นจนทำให้ขั้วแบตเตอรี่มีปัญหา ดังนั้นหากรถดับแล้วมีไฟแจ้งเตือนขึ้นเต็มหน้าปัดรถ มันก็มีความเป็นไปได้สูงว่าขั้วแบตเตอรี่อาจมีปัญหาเกิดขึ้น คุณจึงควรเปิดฝากระโปรงรถและทำการตรวจสอบดูความเรียบร้อยของขั้วแบตเตอรี่ แบตเตอรี่จึงเป็นอีกหนึ่งชิ้นส่วนสำคัญที่เราต้องหมั่นตรวจเช็ก เพื่อป้องกันไม่ให้มีการ
เปลี่ยนแบตรถยนต์ โดยไม่จำเป็น
2.อุณหภูมิเครื่องยนต์สูงเกินไป รถยนต์รุ่นใหม่จะมีระบบตัดการทำ
งานเพื่อความปลอดภัย เมื่อเครื่องยนต์มีอุณหภูมิสูงหรือร้อนมากเกินไป เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้เครื่องยนต์เกิดความเสียหายในระหว่างขับขี่ ดังนั้นหากคุณจำเป็นต้องขับรถเดินทางไกลเป็นเวลานาน ๆ คุณก็ควรจอดรถแวะพักบ้างเป็นระยะ ๆ เพื่อป้องกันไม่ให้เครื่องยนต์ร้อนหรือมีอุณหภูมิสูงจนเกินไป และยังทำให้ตัวคุณได้มีเวลาพักผ่อนเพื่อคลายความเหนื่อยล้าระหว่างเดินทางด้วย
3.หัวเทียนเสื่อมสภาพ หัวเทียนมีหน้าที่สร้างประกายไฟเพื่อจุดระเบิดในห้องเผาไหม้ เพื่อดันลูกสูบเคลื่อนที่ขึ้นลงสร้างกำลังในการขับเคลื่อนตัวรถ หากหัวเทียนของรถคุณเก่าหรือเสื่อมสภาพ มันก็อาจจะทำให้รถของคุณดับกลางทางระหว่างที่ขับขี่ได้ ดังนั้นเพื่อป้องกันไม่ให้เรื่องนี้เกิดขึ้น คุณจึงจำเป็นต้องหมั่นนำรถไปตรวจเช็กสภาพตามระยะเวลาที่กำหนดครับ
4.หัวฉีดมีปัญหา หากในกรณีที่หัวฉีดมีปัญหา มันจะส่งผลให้เครื่องยนต์เสียกำลัง ความเร็วตก เกิดอาการเบาจนเครื่องดับในที่สุด ซึ่งมันอาจเกิดขึ้นได้ด้วยหลายสาเหตุด้วยกัน เช่น มีคราบสกปรกหรือสิ่งแปลกปลอมเข้าไปอุดตันหัวฉีด, หัวฉีดมีอาการรั่วหรือแตก จนส่งผลให้น้ำมันท่วมในห้องเผาไหม้ เป็นต้นครับ
5.ปั๊มและกรองน้ำมันเชื้อเพลิงมีปัญหา ปั๊มน้ำมันเชื้อเพลิงและกรองน้ำมันเชื้อเพลิงถือเป็นอีกหนึ่งชิ้นส่วนรถยนต์ที่มีความสำคัญและส่งผลต่อการขับเคลื่อนของตัวรถ หากตัวอุปกรณ์เสียหรือมีปัญหาเกิดขึ้นมันก็อาจส่งผลให้เครื่องยนต์สตาร์ทติดยาก เร่งไม่ขึ้น หรือรถดับกลางทางได้ เราจึงควรเปลี่ยนปั๊มน้ำมันเชื้อเพลิงในทุก ๆ 5 ปี ส่วนกรองน้ำมันเชื้อเพลิงต้องเปลี่ยนทุก 20,000 - 25,000 กิโลเมตร
6.ลิ้นปีกผีเสื้อสกปรก ลิ้นปีกผีเสื้อมีหน้าที่ปิดเปิดให้อากาศบริสุทธิ์ผ่านไส้กรองอากาศเข้าไปผสมกับน้ำมันจากหัวฉีด โดยอาศัยกำลังดูดอากาศจากเครื่องยนต์ดูดเอาอากาศผ่านลิ้นเข้าไป ผสมกับน้ำมันให้ได้สัดส่วนเพื่อการเผาไหม้ในห้องเครื่องยนต์ หากลิ้นปีกผีเสื้อสกปรกมันจะส่งผลให้รอบเครื่องยนต์ต่ำ จนเครื่องยนต์ดับไปในที่สุด ดังนั้นคุณจึงควรทำการล้างปีกผีเสื้อทุก ๆ 50,000 กิโลเมตร เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหารถดับกลางทางครับ
รถยนต์เป็นยานพาหนะละเอียดอ่อนที่เราต้องใส่ใจและให้ความสำคัญ เราจึงจำเป็นต้องดูแลรถยนต์อย่างสม่ำเสมอแม้จะไม่ได้ขับ ดังนั้นหากคุณเป็นเจ้าของรถสายจอดนาน คุณควรใช้เครื่องชาร์จแบตเตอรี่ CTEK ชาร์จไฟให้เต็มอยู่ตลอด เพื่อป้องกันปัญหาแบตเตอรี่เสื่อมจากการจอดรถทิ้งไว้เป็นเวลานาน
ป้องกันแบตเตอรี่เสื่อมจากการจอดนาน ด้วยเครื่องชาร์จแบตเตอรี่
CTEK MXS 5.0 และ
CTEK XS 0.8 เครื่องชาร์จแบตเตอรี่อัจฉริยะที่ขายดีที่สุดในท้องตลาด เทคโนโลยีลิขสิทธิ์เฉพาะจากประเทศสวีเดน ใช้งานง่าย ปลอดภัย รับประกัน 5 ปี ไม่ต้องมีความรู้เรื่องช่างก็สามารถใช้งานได้ในทันที มาพร้อมกับระบบตัดไฟอัตโนมัติเมื่อชาร์จเต็ม สามารถชาร์จทิ้งไว้ได้เป็นเดือน ๆ โดยไม่ทำให้แบตเตอรี่เสีย เป็นมิตรกับระบบไฟฟ้าภายในตัวรถอย่างแน่นอน