
กลิ่นสาบของปลานิล ส่งผลกระทบอะไรบ้าง
{ ปัญหา & วิธีการแก้ไข }
เนื่องจากเกษตรกรผู้เลี้ยงปลานิลส่วนใหญ่ ไม่สามารถที่จะจัดการนำผลผลิตส่งขายสู่ตลาดได้ด้วยตนเอง
เพราะขาดอุปกรณ์และขาดความชำนาญในด้านการตลาด จึงต้องอาศัยการรับซื้อจากพ่อค้าคนกลาง โดยที่พ่อค้าคนกลางจะเข้าไปรับซื้อปลาที่หน้าบ่อ โดยมีปัจจัยในการกำหนดราคา ดังนี้
- ขนาดของพันธุ์ปลา : ปลานิลส่วนใหญ่เป็นปลาเพศเมีย สามารถออกลูกได้ตลอดทั้งปี
และลูกปลามีขนาดเล็กและไม่ได้น้ำหนักตามที่ผู้ซื้อต้องการ
- กลิ่นโคลนของเนื้อปลา : เนื่องการเกษตรกรส่วนใหญ่ ยังคงใช้เศษอาหารวัสดุที่เหลือจากการบริโภค
และการเลี้ยงปลาแบบผสมผสาน ทำให้เวลาแล่เนื้อปลามีกลิ่นโคลนนั้นเอง
- ปลาที่เกษตรกรจับ : การจับปลาของเกษตรกร ส่วนมากจะใช้การวิดบ่อ และการจับส่งลำเลียงไม่ถูกวิธี จึงทำให้ปลาตายจำนวนมาก เมื่อนำไปบรรจุจะมีแบคทีเรีย ทำให้เนื้อปลามีสีเขียว
- การขาดแคลนเงินทุน : สิ่งนี้ทำให้เมื่อปลามีขนาดโตพอจำหน่ายได้
เกษตรจะรีบจำหน่ายออกทันที ส่งผลทำให้ราคาต่ำ
วิธีการแก้ไขปัญหา และการกำจัดกลิ่นสาบของเนื้อปลานิล
ปัญหานี้พบได้มาก ในกลุ่มของเกษตรกรผู้เลี้ยงปลานิลในบ่อดิน ซึ่งส่งผลกระทบต่อการส่งออกอย่างมาก
โดยกลิ่นสาบหรือกลิ่นโคลน เดิมทีเข้าใจกันว่าเกิดจากอาหารที่ขึ้นรา เป็นสาเหตุที่ทำให้ปลามีกลิ่นดังคร่าว
แต่ในความเป็นจริงแล้ว กลิ่นโคลนในตัวปลาเกิดขึ้นเนื่องจากปลาดูดซับหสารละลาย ที่เรียกว่า " จีออสมิน "
( Geosmin ) เข้าไปทางเหงือก หรือกินเข้าไปโดยตรง และสะสมไว้ที่เนื้อเยื่อไขมัน
โดยตัวการที่ก่อให้เกิดสารชนิดนี้ คือ สาหร่ายสีน้ำเงินแกรมเขียวบางชนิด รวมถึงเชื้อราและจุลินทรีย์ที่เกิดขึ้นในบ่อเลี้ยงปลา ซึ่งจากการวิจัยพบว่า ตัวการเหล่านี้จะพบเจอมากอย่างหนาแน่นในบ่่อที่มีการให้อาหารมากเกินพอดี
มาถึงส่วนสำคัญในการแก้ไขปัญหากลิ่นโคลนของเนื้อปลานิล
ต้องขอกล่าวแบบนี้ว่า กลิ่นโคลนไม่ใช่กลิ่นถาวรที่อยู่กับตัสปลาตลอดไป เราสามารถแก้ไขปัญหาเหล่านี้
ด้วยการ นำปลาไปใส่ไว้ในน้ำสะอาดและงดอาหารเป็นเวลา 7 วัน ( ที่อุณหภูมิน้ำ 24 องศาเซลเซียส ) ถ้าอุณหภูมิสูงกว่านี้จะทำให้กลิ่นโคลนหมดไปจากตัวปลาเร็วขึ้น
** การแช่ปลาในน้ำสะอาดเป็นเวลา 7 วัน จากการทดสอบจะทำให้ปลาสูญเสียน้ำหนักไปประมาณ 5-12%**
เคล็ดไม่ลับ : ปลานิลเป็นปลาที่ไม่ต้องการกรดไขมัน W-6 ซึ่งมีมากในน้ำมันปลา เราจึงไม่ควรใส่น้ำมันปลาในอาหารปลานิล เพราะนอกจากจะไม่มีประโยชน์แล้ว ยังส่งผลให้ปลามีกลิ่นคาวรุนแรงอีกด้วย
เรียบเรียงโดย :
www.lukpramongthai.com อ้างอิงข้อมูลจาก :
https://www4.fisheries.go.th/local/file_document/20200415152840_1_file.pdf