ทำไมตึกฝรั่ง 200 ปีขึ้นไปมักมีระเบียงที่ชั้น 3
AREA แถลง ฉบับที่ 230/2566: วันพุธที่ 22 มีนาคม 2566
ผู้แถลง: ดร.โสภณ พรโชคชัย
ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย
บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส sopon@area.co.th https://www.facebook.com/dr.sopon4
ท่านสังเกตไหมตึกเก่าๆ แต่แข็งแรงที่สร้างมา 200 ปีขึ้นไปในประเทศตะวันตก (เช่นที่ยกมาบรรยายตามคลิป) จึงมักมีระเบียงที่ชั้น 3 ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส (www.area.co.th) มาแจกแจงให้ฟัง
เรื่องก็คือว่าในสมัยก่อนยังไม่มีลิฟท์ ผู้ที่มีรายได้สูงมักเลือกซื้อห้องชุดที่ชั้นสามและมีระเบียงให้ออกมาให้คนได้ ‘ชมบุญ’ ส่วนชั้นสี่ถึงหกเป็นที่อยู่อาศัยของผู้มีรายได้รองๆ ลงมา และชั้นล่างก็อาจเปิดเป็นร้านค้า ส่วนชั้น 2 จะเป็นที่อยู่อาศัยของคนงานที่คอยรับใช้คหบดีบนชั้น 3
จะสังเกตได้ว่าความสูงของชั้นสามมักจะสูงกว่าการอื่นๆเล็กน้อยเพราะจะทำให้ดูโล่งโปร่งและอลังการกว่า ส่วนผู้ที่อยู่ชั้นสองซึ่งเป็นคนงานหรือแม่บ้านแม่ครัวก็จะมีความสูงของเพดานที่น้อยกว่าชั้นอื่นๆ แต่ในสมัยปัจจุบันลิฟท์แล้วคหบดีก็มักนิยมอยู่ชั้นสูงสุดเป็นชั้น Penthouse อันที่อยู่ชั้น 3 อย่างเดิม
ทำไมตึกฝรั่ง 200 ปีขึ้นไปมักมีระเบียงที่ชั้น 3 https://www.youtube.com/watch?v=3ci34c8tzio .
ทำไมตึกฝรั่ง 200 ปีขึ้นไปมักมีระเบียงที่ชั้น 3
https://www.facebook.com/100067433894611/videos/1535667110175967/ .
ทำไมตึกฝรั่ง 200 ปีขึ้นไปมักมีระเบียงที่ชั้น 3 https://vt.tiktok.com/ZS8Vc3cdp/ .
ผู้แถลง:
ดร.โสภณ พรโชคชัย (sopon@area.co.th) ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส หรือ AREA (www.area.co.th): ซึ่งเป็นองค์กรที่มีฐานข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ภาคสนามขนาดใหญ่ที่สุดและปรับปรุงให้ทันสมัยที่สุดในประเทศไทย และดำเนินการเก็บข้อมูลต่อเนื่องมาตั้งแต่ พ.ศ.2537 เป็นศูนย์ข้อมูลที่มีความเป็นกลางทางวิชาการ และเป็นอิสระทางวิชาชีพ โดยไม่ถูกครอบงำโดยผู้มีส่วนได้ส่วนเสียใด ๆ สมาชิกของศูนย์ข้อมูลฯ ได้รับข้อมูลที่เป็น First-hand information ในเวลาเดียวกัน