
ต้องยอมรับว่าตอนนี้เราอยู่ในยุคที่เทคโนโลยีและนวัตกรรมต่างๆ เข้ามาอย่างรวดเร็ว การใช้ชีวิตของมนุษย์จึงดูเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้น เหล่าผู้ประกอบการและธุรกิจทั้งหลายนำเทคโนโลยีเหล่านั้นมาปรับใช้ เพราะประหยัดต้นทุน, ไม่เกิดปัญหาในการร่วม
งานกันเหมือนมนุษย์ และทำให้กิจการนั้นก้าวทันยุคทันสมัย จะดีกว่ามั้ย ถ้าเรานำเทคโนโลยีและนวัตกรรมต่างๆเหล่านั้นมาปรับใช้ให้เข้ากับทุกอาชีพ ทกงาน เพื่อให้เกิดการพัฒนาและเติบโตมากยิ่งขึ้น
คนไทยส่วนใหญ่ เราเติบโตกันมาจากรากเหง้าของเกษตรกรรม มีแหล่งทรัพยากรธรรมชาติที่มหาศาล แม้จะเป็นเพียงแค่ 1% จากทั้งโลกก็ตาม แต่เรื่องความหลากหลายทางชีวภาพเราไม่แพ้ใคร โดยมีมากถึง 10% ซึ่งตรงนี้ถือเป็นข้อดีที่ควรค่าแก่การนำมาพัฒนาให้ประเทศไทยกลายเป็นแหล่งความมั่นคงทางอาหารของโลก แต่การที่จะทำให้ประเทศไทยเติบโตไปในจุดนั้น เราอย่ายึดติดกับการทำสิ่งต่างๆในรูปแบบเดิม ควรที่จะนำเทคโนโลยี และนวัตกรรมต่างๆ เข้ามาปรับใช้ อาทิเช่น ด้านเกษตรกรรมกับการปลูกข้าว เดิมทีเรานิยมปลูกแบบมีน้ำขังในนาข้าว (นาดำ) ทำให้จุลินทรีย์ในน้ำย่อยสลายซากพืช เกิดการหมักหมมและกลายเป็นก๊าซมีเทน (CH4) ลอยขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศ ถูกสะสมและส่งผลต่อการเกิดภาวะโลกร้อน ซึ่งปัจจุบันประเทศไทยได้นำเทคโนโลยี ไรซ์ นามา (Thai Rice NAMA) ของประเทศเยอรมัน มาปรับใช้กับการปลูกข้าวของไทย โดยผ่านกระบวนการปรับพื้นที่ด้วยเลเซอร์ (Laser Land Leveling: LLL) ช่วยประหยัดน้ำได้ถึง 30-50%, การทำนาแบบเปียกสลับแห้ง (Alternate Wetting and Drying: AWO) ให้น้ำแก่ต้นข้าวในช่วงเวลาที่ต้องการเท่านั้น, การใช้ปุ๋ยตามค่าวิเคราะห์ดิน ช่วยประหยัดค่าปุ๋ยและไม่ทำให้ดินเสื่อมสภาพลง และการจัดการฟางและตอซังให้เป็นอาหารสัตว์และวัสดุเพาะ จากการดำเนินการดังกล่าว ส่งผลให้ผลผลิตมากกว่าการปลูกแบบนาดำอีกด้วย
รวมถึงการลงทุนด้านสิ่งแวดล้อมกับธุรกิจของไทย เพื่อเป็นการเพิ่มมูลค่าแก่สินค้าต่างๆ อย่าลืมว่าปัญหาตอนนี้ที่ทั่วโลกกำลังรับมือและมีอนุสัญญาร่วมกันคือ การร่วมกันแก้ไขปัญหาภาวะโลกร้อน หรือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) เพราะต่อไปจะมีกฎหมายที่คอยควบคุม จากประเทศส่งออกรอบนอก อย่างเช่น สหภาพยุโรป ที่ประกาศร่างกฏหมายและเตรียมบังคับใช้กับมาตรการปรับราคาคาร์บอนก่อนข้ามพรมแดน (CBAM) ซึ่งจะมีผลกระทบต่อสินค้าบางประเภทอย่าง เหล็กกล้า ซีเมนต์ และอลูมิเนียม เป็นต้น เพราะฉะนั้นในภาคธุรกิจและภาคส่งออกสินค้าต้องปรับตัว

ต่อไปประเทศไทยจะไม่เพียงแต่แข่งขันกับใครว่าสินค้าส่งออกมีจำนวนมากที่สุด แต่เราจะพัฒนาการส่งออกสินค้าที่มีมูลค่าสูงสุด ได้ราคาแพงมากที่สุด ตามนโยบายและวิสัยทัศน์ที่ นายวราวุธ ศิลปอาชา ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายและยุทธศาสตร์พรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวในงาน Dinner Talk : Thailand Future อนาคตประเทศไทย 2022 โดย Nation Group