ข่าวล่าสุดของหมวด
ญาติช็อก หนุ่มใหญ่ป่วยจิตเวช คว้าตุ๊กตาปูนปลาสเตอร์รูปหมู ทุบหน้าแม่ดับคาบ้าน
หนุ่มโมโหหิว ไล่แทงแม่ค้าตามสั่ง หลังได้ยินคำว่า "ของหมดแล้ว" สุดกร่างลั่นเป็นเด็กตำรวจ
เน็ตไอดอลวัย 17 ลวงเด็กหญิงมีเซ็กซ์-ถ่ายคลิปขู่ เบื้องหน้าอย่างหรู ความจริงสุดซกมก
ศาลให้โอกาสเมียตู้ห่าว ไม่ถอนประกัน แม้ตำรวจพบข่มขู่พยานตามชูวิทย์แฉ
ชายหื่นข่มขืนสาวรุ่นลูกไม่สำเร็จ ย้อนกลับมาแก้มือ เจอล้อมจับรุมประชาทัณฑ์ อ่วมอรทัย!
แม่ล้มทั้งยืน เห็นคลิปลูกสาว ม.2 ถูกเพื่อนนักเรียนชาย 5 คน จับขึงพืดรุมโทรมในป่า
เพื่อไทยเชื่อมั่น ประชาชนต้องการรัฐบาลใหม่ แก้เศรษฐกิจ
"อนุทิน" ป้อง "หมอโอภาส" ปมย้ายประธานชมรมแพทย์
เพื่อไทยลั่น ไม่จับมือพลังประชารัฐจัดตั้งรัฐบาล
“อนุชา” สมัครเข้า รทสช.เพื่อสนับสนุน “บิ๊กตู่”
“กรณ์” ย้ำไม่เอาภาษีคนทำงานมาแจก หวังปรับโครงสร้าง เสียภาษีเป็นธรรม
บิ๊กป้อม-อุตตม-สนธิรัตน์ คุยดีลลับลงตัว รีเทิร์นพลังประชารัฐ แถลงเปิดตัวสัปดาห์หน้า
"ดา เอ็นโดรฟิน" คลอดลูกชายแล้ว ตั้งชื่อ "น้องเดเมี่ยน"
"อ๋อม สกาวใจ" โชว์ช็อตหวานสามีเรียกถ่ายรูปให้ แต่ทำโฟกัสผิดจุด
"แพท ณปภา" สุดเศร้าโพสต์ไว้อาลัย สูญเสียคนในครอบครัว
โอ้โห "นิวเคลียร์" ภายใต้ชุดดำน้ำ ใส่บิกินี่แซ่บทำทะเลเดือด
"ศรีริต้า" ปล่อยช็อตหวานกอดสามี แต่ทริปนี้ไม่รู้จะโฟกัสอะไรก่อนดี
โมเมนต์วันเกิด 41 ปี "ซี ศิวัฒน์" พ่อบ้านใจกล้าขอสิ่งนี้กับ "เอมี่"
เปิดภาพความเสียหาย แผ่นดินไหวเขย่าอิหร่าน ดับอย่างน้อย 2 บาดเจ็บ 664
คลิปหลอน ไรเดอร์เจอลิฟต์เปิด-ปิดแปลกๆ ตอนแรกยังฮา คุยเล่นกับผี ไม่กี่วิถึงกับผวา
เด็ก 13 กลัวถูก "ขลิบ" หนีจากบ้าน ผ่านไป 25 ปีกลับมาเจอแม่ เผยไปอยู่ไหนมายิ่งเศร้า
เจอคนปั่นจักรยานทางมืดๆ ใจดีช่วยเปิดไฟรถส่องให้ อึ้งเลย เจออุ้มจักรยานวิ่งหนีสุดชีวิต
เฉลยแล้ว ภาพไวรัลตุ๊กตาหมีนั่งรถ ที่แท้เป็นน้องหมาพันธุ์นี้ น่ารักจนใจเจ็บโอ้ยๆ
สภาพ! ซื้อโซฟาหรู 8 หมื่น พนง.มาส่งทิ้งไว้คาบันได ฟังบริษัทตอบชุ่ยๆ ยิ่งโมโห
ไปรษณีย์ไทย แจงแล้ว! ปมสาวโวยส่งเอกสารล่าช้า ชวดทุนเรียนต่อมหาวิทยาลัย
ตำรวจแจงผลสอบปมสาวไต้หวัน ยันไม่พบหลักฐานว่ามีการเรียกรับเงิน
พบแล้ว! สามเณรวัดดังเมืองขอนแก่น ถูกกล่าวหา เช้าออกบิณฑบาต-เย็นออกท่องราตรี
สาวเตือนภัย "ต่อมบาร์โธลินอักเสบ" มีก้อนที่อวัยวะเพศ อึ้ง พยาบาลถาม XXX กันแรงใช่มั้ย?
สาวสั่งข้าวให้พ่อเดินไม่ได้ เปิดกล้องมาถึงกับใจฟู เห็นไรเดอร์ทำมากกว่าที่ขอไป
ผบ.ตร.ตั้งกก.สอบ-ดำเนินคดีอาญา 4 ตำรวจในคลิปนำขบวนนักท่องเที่ยวจีน
แพรรี่ ปิดบัญชี! พระมหาชื่อดัง ยอมสึกแล้ว เซ่นปมถูกแฉภาพ "ฉันบวบ"
ยิ่งกว่าในหนัง เมียโดดเกาะกระโปรงรถ ผัวพากิ๊กเที่ยวข้ามจังหวัด โป๊ะเจอเมียมาทำบุญ
ท่าตะโกสะเทือน แพรรี่แฉพระมหาชื่อดัง "ฉันบวบ" ชาวบ้านยกขโยงแน่นวัด ท้าเปิดหลักฐาน
ครูบาไก่ ยอมรับเล่นบานานาโบ๊ต แต่ความผิดไม่ถึงขั้นสึก แจ้งความเอาผิด อิคคิว-บุ๋ม เพิ่มอีก
หัวจะปวด รถบรรทุกขนเครื่องบินวิ่งขวางทางลงดอย ใหญ่คับถนน แซงก็แซงไม่ได้
ประตูช้างเผือก กำแพงเมืองเชียงใหม่ พังถล่ม 5 เดือน ชาวบ้านฝากถามเมื่อไหร่จะซ่อม
หน้า: 1
แบ่งปันกระทู้นี้ให้เพื่อนคุณอ่านไหมคะ?
เพราะปัญหาโลกร้อน สาเหตุใหญ่ของภาวะโลกร้อนมาจากการปล่อยก๊าซก่อเรือนกระจกในภาคพลังงาน ดังนั้นจึงมีตั้งหลายวิธีที่คุณจะช่วยลดอุณหภูมิให้กับโลกได้ด้วยการประหยัดพลังงาน ไม่ว่าจะฮิตอินเทรนด์กับกระเป๋าแบกกระเป๋าผ้าต้าน "โลกร้อน" หันมาใช้บริการขนส่งมวลชน หรือตั้งเครื่องปรับอากาศไว้ที่ 23-25 องศา ถือว่าเป็นเรื่องปกติ แต่ถ้าทางที่ดีถ้าไม่จำเป็นในต่อการใช้เครื่องปรับอากาศในชีวิตประจำวันก็ไม่ควรที่จะเปิดก็ได้ หรือ เปิดเมื่อจำเป็น และปิดใช้ ก่อนไม่อยู่ในห้องนั้นแล้วประมาณ 5-10 นาที ก็ช่วยได้ เช่นกัน ทั้งนี้นักวิชาการจากบัณฑิตวิทยาลัยร่วมด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อม (JGSEE) มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ได้ร่วมกันแปลหนังสือที่มีชื่อเป็นภาษาไทยว่า "ทางเลือกพลังงานเพื่อดับโลกร้อน" (Energy Future's Beyond Carbon) ของนิตยสารไซแอนทิฟิก อเมริกัน (Scientific American) ว่ากว่า 60% ของก๊าซเรือนกระจกทั่วโลกมาจากการเผาพลาญเชื้อเพลิงในภาคพลังงาน และหากพิจารณาเฉพาะเจาะจงที่ประเทศไทยก็มีตัวเลขที่ไม่แตกต่างกันมากนักนั่นคือ 56% ดังนั้นสารพัดกลวิธีเพื่อประหยัดหลังงานจึงได้รับการชูให้เป็นหนทางกู้วิกฤตภาวะโลกร้อน (Global Warming) อันนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ (Climate Change)รศ.ดร.บัณฑิต ฟุ้งธรรมสาร ผอ.JGSEE ให้ข้อมูลว่ามีการใช้โรงไฟฟ้าถ่านหินเพื่อเป็นเชื้อเพลิงผลิตไฟฟ้ามานานแล้ว โดยเมืองไทยใช้อยู่ในสัดส่วน 20% ของการผลิตไฟฟ้าทั้งหมดแต่ส่วนใหญ่คือก๊าซธรรมชาติ 60% ซึ่งข้อดีของเชื้อเพลิงชนิดนี้คือมีปริมาณสำรองเยอะและราคาถูก แต่ข้อเสียคือทำให้เกิดมลพิษทางอากาศโดยชุมชนที่อยู่ใกล้เคียง และยังปล่อยก๊าซเรือนกระจกโดยปล่อยมากกว่าก๊าซธรรมชาติถึง 2 เท่า"ทุกหน่วยการใช้พลังงานปล่อยคาร์บอนสู่ชั้นบรรยากาศ 1 กิโลกรัม แล้วเราจะไม่ใช้ได้ไหม? ถ่านหินยังมีข้อดีอยู่คือมีสำรองไว้ใช้ 100-200 ปี ขณะที่ก๊าซธรรมชาติในบ้านเราสำรองได้แค่ 20 ปี ส่วนน้ำมันก็เหลือใช้อีก 40 ปีก็จะหมด ที่เหลือก็อยู่ในแหล่งที่นำขึ้นมายาก แต่จะทำอย่างไรกับข้อเสียของถ่านหินซึ่งมีก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์"ผู้อำนวยการ JGSEE กล่าวว่ามีทางออก 2 แนวทางคือ ในระยะใกล้ต้องใช้เทคโนโลยีเผาถ่านหินที่ก้าวหน้าและมีประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้น เพื่อช่วยลดปริมาณการปล่อยคาร์บอน ซึ่งอาจจะลดจาก 1 กิโลกรัมต่อหน่วยไฟฟ้า เหลือ 0.8 กิโลกรัม เป็นต้น ทั้งนี้โรงไฟฟ้าใหม่ๆ ที่จะสร้างขึ้นนั้นต้องใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ ที่ปล่อยคาร์บอนน้อยลง"อีกแนวทางคือเก็บหรือดักคาร์บอนไดออกไซด์ ต้องหาทางเอาไปเก็บไว้ใต้ดิน ตามบ่อน้ำมันหรือหลุมก๊าซธรรมชาติที่ใช้แล้ว อัดลงไปในรูปของเหลวอย่างถาวร ถ้าทำได้ก็หมดห่วง แต่ตอนนี้ยังเป็นเทคโนโลยีในขั้นทดลอง ก็ฝากความหวังไว้กับการกักเก็บคาร์บอนไว้ใต้ดิน" รศ.ดร.บัณฑิตกล่าวส่วนเชื้อเพลิงชีวภาพจะเกิดได้ในเมืองไทยหรือไม่ รศ.ดร.บัณฑิตให้ความเห็นว่าแนวทางที่เป็นไปได้คือนำวัสดุเหลือใช้จากการเกษตรมาหมักเพื่อให้ได้ก๊าซชีวภาพที่นำไปเป็นเชื้อเพลิงได้ แต่ทั้งนี้ในเมืองไทยมีการใช้ก๊าซที่ได้จากการหมักน้ำเสียจากฟาร์มสุกรและโรงงานอุตสาหกรรมอาหารเพื่อผลิตเป็นไฟฟ้าใช้ในระบบของฟาร์มและโรงงานมานานกว่า 20 ปีแล้วขณะที่แนวทางช่วยลดปัญหาโลกร้อนนั้น รศ.ดร.สิรินทรเทพ เต้าประยูร ประธานสายสิ่งแวดล้อม JGSEE กล่าวว่า การช่วยลดก๊าซเรือนกระจกเป็นปัญหาที่ทั่วโลกช่วยได้แต่ต้องรู้ที่มา-ที่ไปของก๊าซเรือนกระจกว่ามาจากไหน ซึ่งส่วนใหญ่มาจากภาคพลังงาน โดยระดับโลกคิดเป็น 60% ขณะที่ไทยคิดเป็น 56% ดังนั้นการลดใช้พลังงานจึงเห็นผลได้มากที่สุด"การลดทำได้ไม่ยาก ปิดไฟที่ไม่จำเป็น ลดใช้ไฟฟ้าลง 1 หน่วยก็ช่วยการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ 1 กิโลกรัม การประหยัดไฟเป็นเรื่องใกล้ตัว การใช้ถุงผ้าก็เพื่อลดใช้ถุงพลาสติกซึ่งต้องใช้พลังงานในการผลิต เมื่อใช้ถุงผ้าจึงเป็นเรื่องของการลดใช้พลังงาน" รศ.ดร.สิรินทรเทพกล่าวขณะที่ ศ.ดร.สุรพงษ์ จิระรัตนานนท์ อาจารย์ประจำ JGSEE ซึ่งศึกษาทางด้านการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ ให้ความเห็นว่าการใช้พลังงานสูงนั้นส่วนหนึ่งมาจากการใช้เครื่องปรับอากาศและการใช้รถยนต์ส่วนตัว ดังนั้นต้องพยายามรณรงค์ให้มีการใช้ระบบขนส่งมวลชนมากขึ้น ลดการใช้เครื่องปรับอากาศซึ่งไม่เพียงแค่ตั้งอุณหภูมิไว้ที่ 25 องศาเซลเซียส จริงๆ แล้วเครื่องปรับอากาศยิ่งตั้งอุณหภูมิก็ยิ่งประหยัดพลังงานไฟฟ้าแต่ทางที่ดีไม่เปิดเลยดีกว่า"บ้านที่มีแอร์จะทราบว่า 70% ของพลังงานที่ใช้ในบ้านคือไฟฟ้าในการเปิดแอร์ ดังนั้นปิดไปเลยดีกว่า แล้วพัฒนาระบบที่มาทดแทนแอร์ ทำให้รู้สึกสบายเหมือนกันแต่ใช้พลังงานนอยกว่า หรือสร้างอาคารที่สามารถใช้พลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพคือใช้พลังงานน้อยแต่ให้แสงสว่างและทำให้ผู้อยู่ในอาคารรู้สึกสบายได้ ระบบเก่าที่ใช้กันอยู่นั้นเปลืองพลังงานมาก"ดังความสำคัญของการลดภาวะโลกร้อน สำหรับการเปิดแอร์แล้วเปลี่ยนอุณหภูมิในห้องให้อยู่ ที่23-25 องศา ถือว่าเป็นเรื่องปกติ แต่ถ้าเป็นการเปลี่ยนอุณหภูมิของโลกเพิ่มเพียง1.2 องศาเซลเซียส ถือว่าไม่ใช่เรื่องปกติ นับจากการปฎิวัติยุคอุตสาหกรรมเป็นต้นมา โลกร้อนขึ้นอย่างมา สัตว์ป่า divercity เกิดน้ำแข็งขั้วโลกละลายเร็วขึ้น เกิดคลื่นความร้อน กระทบเศรษฐกิจต่างๆที่ต้องพึ่งพาการเกษตร อุตสหกรรมเหล่านั้นอาจเดินต่อไม่ได้ ตอนนี้ประเทศไทยเป็นประเทศที่ได้รับผลกระทบเยอะที่สุด เพราะเป็นประเทศเกษตรกรรม เกิดภาวะแห้งแล้ง ฝนฟ้าตกไม่ตรงฤดูกาล กระทบต่อการเก็บเกียวผลผลิตของชาวบ้านและเกษตรเป็นอย่างมาก ทางด้าน ศ.ดร.สุรพงษ์กล่าว และยกตัวอย่างว่าที่มาเลเซียมีตึกที่ใช้พลังงานเพียง 25% ของการใช้ทั่วไป แต่ให้แสงสว่างและให้ผู้อยู่รู้สึกสบายได้ เช่นเดียวกับอาคารที่มีระบบเครื่องปรับอากาศทั่วไป พร้อมแนะว่าการใช้พัดลมในห้องแอร์เมื่อตั้งอุณภูมิจะช่วยให้รู้สึกเย็นสบายได้มากขึ้น แต่หากออกแบบบ้านให้มีฉนวนกันความร้อนดีๆ ก็ไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องปรับอากาศเลย #ภาวะโลกร้อน #ก๊าซเรือนกระจก #กระทรวงทรัพยกรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม #การเปิดเครื่องปรับอากาอาศ ขอบคุณที่มา https://mgronline.com/science/detail/9510000040798https://becommon.co/world/airconditioner-climatechange/
แจ้งเตือน
ภาพและเนื้อหาต่อไปนี้ ไม่เหมาะสมแก่เด็ก และเยาวชนอายุต่ำกว่า 18 ปี