ป้องกันความเจ็บป่วยด้วย "วิตามิน"แต่ไหนแต่ไรวิตามินก็เปรียบเสมือนเกราะป้องกันร่างกายจากเชื้อโรคมาโดยตลอด วิตามินบางตัวเช่นวิตามินดี ถูกนำมาใช้ในการป้องกันและรักษาโรคทางเดินหายใจหลายโรค ไหนจะข้อดีของวิตามิน ที่เป็นสิ่งที่ร่างกายต้องการอยู่แล้ว ไม่ต้องรอป่วย ทานป้องกันได้ และทานได้อย่างต่อเนื่อง ดังนั้นวิธีที่ง่ายและรวดเร็วที่สุดเพื่อการดูแลสุขภาพเชิงรุก ก็คงหนีไม่พ้นการเสริมวิตามินกับร่างกาย (โดยเฉพาะในตอนที่ยุค Next Normal ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว)
- วิตามินดี 3 (Vitamin D3) เป็นชนิดวิตามินที่สามารถเพิ่มปริมาณวิตามินดีในเลือดได้จริง ช่วยเพิ่มภูมิต้านทาน ลดการติดเชื้อ และลดการย้อนกลับมาของโรค ซึ่งมีงานวิจัยว่าผู้ที่มีวิตามินดีในเลือดน้อยเกินไป มีโอกาสติดเชื้อโควิดและเข้าโรงพยาบาลมากกว่าคนทั่วไปถึง 2 เท่า โดยตามสถิติแล้วคนไทยกว่าครึ่งมีวิตามินดีในเลือดน้อยกว่าเกณฑ์ วิตามินดี 3 จึงเป็นตัวเลือกแรกที่ขาดไม่ได้ในการป้องกันตัวเองจากโควิด
- วิตามินบี 6 (Vitamin B6) เป็นวิตามินที่ช่วยหยุดยั้ง Cytokine Storm ให้สงบลง หรือก็คือช่วยให้สนามรบระหว่างภูมิคุ้มกันและเชื้อโรคอย่าง ปอด ไม่เสียหายมากเกินไปนั่นเอง และยังมีส่วนช่วยป้องกันการย้อนกลับมาของ Cytokine Storm อีกด้วย
- วิตามินบี 12 (Vitamin B12) เป็นวิตามินที่ร่างกายจะขาดเมื่อติดเชื้อไวรัส หรือก็คือหากติดเชื้อโควิดเมื่อไหร่ จะส่งผลให้วิตามินบี 12 ในร่างกายลดลง ซึ่งจะทำให้แบคทีเรียชนิดดีในร่างกายที่กินวิตามินบี 12 เป็นอาหารตายตามไปด้วย เช่น แบคทีเรียในลำไส้ที่ช่วยสร้างความสมดุลให้ระบบทางเดินอาหาร เมื่อตายลงก็จะทำให้ระบบทางเดินอาหารไม่สมดุล เกิดอาการปวดท้อง ท้องอืด ท้องเสียตามมา จึงจำเป็นต้องเสริมวิตามินบี 12 ให้ร่างกาย เพื่อป้องกันความเจ็บป่วยหากติดเชื้อ
"HELLO-D & HELLO-B" ไอเทมติดบ้านยุค Next Normal นอกจากการทานอาหารที่มีประโยชน์หรือการรับแสงแดดยามเช้าเพื่อเสริมวิตามินแล้ว (ไม่แนะนำให้รับแสงแดดมากไป เพราะเสี่ยงต่อมะเร็งผิวหนัง)
อีกทางเลือกหนึ่งของคนยุคใหม่คือการทาน "วิตามินแบบเม็ด" ที่จดทะเบียนเป็นยาและใช้จ่ายจริงในโรงพยาบาล อย่าง HELLO-D และ HELLO-B โดยบริษัทยา "จรูญเภสัช"- HELLO-D ช่วยเพิ่มวิตามินดี 3 ในเลือด สามารถเลือกรับประทานในปริมาณที่ร่างกายต้องการและใช้หมดต่อวัน และยังช่วยเรื่องการดูดซึมแคลเซียม ทานได้ทุกเพศทุกวัย ให้เด็กทานได้โดยไม่ต้องห่วงเรื่องการสะสมหรือเกิดอันตราย เด็กอายุ 1-8 ขวบ รับประทานวันละ 1,000-2,000 IU เด็กอายุ 8 ขวบขึ้นไป รับประทานได้ปริมาณเท่ากับผู้ใหญ่ คือ 1,000-4,000 IU ต่อวัน
- HELLO-B หรือวิตามินบีรวม ครบครันทั้งบี 1 / บี 6 / บี 12 ประกอบด้วยวิตามินบี 1 ปริมาณ 100 มิลลิกรัม, วิตามินบี 6 ปริมาณ 200 มิลลิกรัม รวมถึงมีวิตามินบี 12 ปริมาณ 200 ไมโครกรัม มากกว่าวิตามินท้องตลาด 2 เท่า ช่วยป้องกันความเจ็บป่วยในยุค Next Normal ได้เต็มประสิทธิภาพกว่า
Next Normal เป็นคำบอกใบ้ให้เราตั้งใจดูแลสุขภาพให้มากกว่าที่เคยทำ ซึ่งการเสริมวิตามินอาจไม่ได้ช่วยป้องกันการติดเชื้อโควิดโดยตรง แต่เป็นการสร้างเกราะเสริมภูมิต้านทานให้ร่างกายเสียมากกว่า คิดง่ายๆ คือวิตามินช่วยให้เรามีอาวุธครบมือ นั่นย่อมดีกว่าต้องไปสู้กับไวรัสด้วยมือเปล่าอยู่แล้ว ...จริงมั้ย
ผู้ที่สนใจวิตามินดี 3 "HELLO-D" และวิตามินบีรวม "HELLO-B" สามารถติดต่อได้ที่ จรูญเภสัช Line: @charoon (มี @) / FB: www.facebook.com/charoon.bhesaj / โทร. 02-477-3000