•พระสมเด็จ
การศึกษาพระเครื่องสมเด็จวัดระฆัง นอกจากจะศึกษาลักษณะด้านหน้าหรือ พิมพ์ทรง แล้ว ลักษณะด้านหลังก็ถือเป็นจุดสำคัญในการพิจารณาไม่น้อยไปกว่าด้านหน้า การศึกษาลักษณะด้านหลังจะให้ความกระจ่างกว่าด้านหน้าว่าแท้หรือปลอม เนื่องจากด้านหลังจะเป็นพื้นผิวที่เรียบเสมอกัน และไม่มีส่วนนูนของพิมพ์ทรงมาเป็นอุปสรรคในการพิจารณา ซึ่งลักษณะด้านหลังของพระสมเด็จวัดระฆังจากลายไม้กระดานทั้ง 4 แบบ ได้ข้อสรุปแบบพิมพ์ด้านหลังดังนี้
1.พิมพ์หลังกาบหมาก
2.พิมพ์หลังกระดาน
3.พิมพ์หลังสังขยา
4.พิมพ์หลังแผ่นเรียบ
ซึ่งแต่ละแบบจะมีลักษณะเฉพาะที่แตกต่างกันไปขยายความจากชื่อที่ใช้เรียก เช่น ด้านหลังพิมพ์จะดูเป็นลายไม้กระดานซึ่งเมื่อพระหดตัวตามอายุความเก่าของพระ จะดูเหมือนลายกาบหมากที่แห้งและหดตัว และพิมพ์หลังกระดาน จะเป็นลายไม้กระดานที่เห็นคลองเลื่อยขวางกับองค์พระ เป็นต้น
• กรอบพระสมเด็จ
คนส่วนใหญ่ที่มีความรู้ด้านพระเครื่องจะนิยมนำพระสมเด็จใส่ตลับมากกว่านำไปเลี่ยมพลาสติก เนื่องจาก ต้องการชื่นชมองค์พระและส่องเนื้อใน ดูหน้า หลัง ด้านข้าง ก็สามารถเอาออกมาได้ง่าย ๆ เมื่อดูได้ความรู้เสร็จก็สามารถเก็บกลับใส่ตลับพระไปได้ และอีกเหตุผลหนึ่งก็คือเวลาที่ต้องการจะนำองค์พระไปขายก็สามารถนำเฉพาะพระออกมาได้ สามารถดูได้อย่างละเอียดเวลาจะซื้อขายแลกเปลี่ยนพระ ส่วนพระสมเด็จที่เลี่ยมพลาสติก นำยาและการหดตัวของพลาสติกเวลาแกะ จะไปทำลายเนื้อผิวของพระ อาจะติดกับพลาสติกออกมาด้วย
•กรอบทองพระ
ซึ่งกรอบพระก็จะมีให่เลือกหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นกรอบเงิน กรอบทองคำ กรอบทองเหลือง กรอบสแตนเลส ก็มีให้เลือกมากมาย ซึ่งราคานั้นก็ตะแตกต่างกันออกไปตามวัสดุที่นำมาใช้ และคุณงานของงาน ส่วนราคาของกรอบพระทองที่เป็นที่นิยม ราคาจะไม่คงที่จะขึ้นลงตามราคาทองในท้องตลาด ทั้งที่คนที่มีจิตศรัทธาและคลั่งไคล้การสะสมพระเครื่อง ก็มักจะลงทุนจ่ายเงินในราคาสูงเพื่อบูชา เพิ่มสง่าราศีและบารมีแก่ตนเอง และองค์พระ