การรักษาด้วยการผ่าตัดฝังรากฟันเทียม เป็นการทดแทนฟันธรรมชาติสูญเสียไป หลายคนประสบปัญหานี้จากพฤติกรรมที่ใช้ในชีวิตประจำวัน รวมไปถึงการรับประทานอาหารที่ส่งผลให้เกิดฟันผุและการดูแลรักษาความสะอาดที่ไม่ดี อาจจะส่งผลให้เกิดการสูญเสียฟันได้ ดังนั้นการรักษาความสะอาดจึงเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุดของการรักษาสุขภาพช่องปากและฟัน ในสมัยก่อน ปัญหาการสูญเสียฟันนิยมใช้วิธีการสวมใส่ฟันปลอม เพื่อแก้ไขปัญหาทดแทนฟัน แต่ด้วยวิธีการดังกล่าวยังเป็นการแก้ไขปัญหาที่ปลายเหตุ ยังไม่ใช่วิธีการแก้ไขปัญหาอย่างตรงจุด เพราะเป็นการสวมใส่ฟันปลอมเพื่อทดแทนฟันและสามารถถอดออกได้
ซึ่งยังส่งผลให้กระดูกฟันละลายได้ แต่การแก้ไขปัญหาด้วยการรักษาผ่าตัดฝังรากฟันเทียม เป็นการแก้ไขปัญหาที่ตรงจุด พร้อมทั้งยังช่วยให้เกิดสุขภาพช่องปากและฟันที่ดี ซึ่งในปัจจุบันการรักษาด้วยการผ่าตัดฝังรากฟันเทียม มีการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในการรักษา ซึ่งทำให้การรักษาด้วยการผ่าตัดฝังรากฟันเทียม มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ทั้งยังช่วยทำให้การรักษามีผลการรักษาที่แม่นยำมากขึ้นด้วย ด้วยนวัตกรรม CT Scan ที่สามารถใช้การเอ็กซเรย์ตรวจดูความหนาแน่นของกระดูกขากรรไกรที่จะใช้ในการรองรับรากฟันเทียมว่ามีความหนาแน่นที่จะสามารถเข้ารับการรักษาด้วยการผ่าตัดฝังรากฟันเทียมได้หรือไม่ เพราะถ้าหากผู้เข้ารับการรักษามีกระดูกที่ไม่เพียงพอต่อการรองรับรากฟันเทียม ทันตแพทย์จะแนะนำให้ทำการปลูกกระดูกฟันเสียก่อน
ในกรณีที่ผู้เข้ารับการรักษาเคยผ่านการใส่ฟันปลอมมาแล้ว หลายคนสงสัยว่าเมื่อทำการรักษาด้วยการผ่าตัดฝังรากฟันเทียมแล้ว สามารถกลับไปสวมใส่ฟันปลอมอันเดิมได้หรือไม่ ตอบเลยว่า ฟันปลอมอันเดิมของผู้เข้ารับการรักษา ไม่ควรนำมาใช้ จนกว่าจะได้รับการปรับฟันเรียบร้อยแล้ว การใส่ฟันปลอมเร็วเกินไป อาจทำให้การรักษาใช้เวลานานขึ้น หรือเกิดผลกระทบที่ไม่ดีได้ รวมไปถึงอาจจะเกิดภาวะแทรกซ้อนได้ รวมไปถึงอาจจะทำให้เหงือกได้รับการบาดเจ็บหรือเป็นแผลได้ แล้วทำให้มีอาการบวมแดงได้ เพราะการนำฟันปลอมอันเดิมมาสวมใส่ ภายหลังจากการฝังรากฟันเทียมแล้ว แน่นอนฟันย่อมมีการเปลี่ยนแปลงไป
ห้ามนำฟันปลอมอันเดิมมาใช้ หลังจากฝังรากฟันเทียมแล้ว ! ดูเพิ่มเติมที่นี่ https://www.idolsmiledental.com/จัดฟัน/